เรียกได้ว่าเสริมทัพแบบเมามันส์ไม่มีพักกันเลยทีเดียวสำหรับสโมสร "เชลซี" เพราะล่าสุดได้แข้งใหม่รายที่ 4 แล้วในตลาดนักเตะปีใหม่นี้นั่นก็คือ "โนนี่ มาดูเอเค่"
ในเมื่อเด็กคนนี้ได้กลายเป็นขุมกำลังคนใหม่ของทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" แล้ว แถมยังมีหลายๆ สิ่งในตัวที่น่าสนใจ ดังนั้นวันนี้ทาง "ขอบสนาม" จึงขออาสาพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ "โนนี่ มาดูเอเค่" กันครับ
ประวัติพอสังเขป
โนนี่ มาดูเอเค่ หรือชื่อเต็มๆ คือ ชุควูนอนโซ ทริสต็อง มาดูเอเค่ เกิดวันที่ 10 มีนาคม ปี 2002 ที่ บาร์เน็ต ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 20 ปี ส่วนสูง 5 ฟุต 9 นิ้ว หรือ 176 เซนติเมตร ประจำการในตำแหน่งปีก ถนัดเท้าข้างซ้าย ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ เชลซี มีต้นสังกัดอยู่กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ใน เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ได้สวมเสื้อหมายเลข 10
เส้นทางค้าแข้ง
เดิมที่ โนนี่ มาดูเอเค่ เกิดที่กรุงลอนดอน เขาได้เริ่มต้นความฝันในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับอคาเดมี่ของ คริสตัล พาเลซ ตอนอายุได้ 9 ขวบ (ปี 2011) และใช้เวลาเรียนรู้และฝึกปรือฝีเท้าอยู่ 3 ปีก่อนจะย้ายไปปักหลักต่อกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปี 2014
โนนี่ มาดูเอเค่ ฉายแววได้ดีในเส้นทางระดับเยาวชนกับ "ไก่เดือยทอง" จนได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมชุด ยู-16 ปี แถมยังได้โอกาสไต่ไปเล่นชุด ยู-18 ตอนที่อายุแค่เพียง 15 ปีเท่านั้น จากนั้นในปี 2018 ไอ้เด็กคนนี้ก็ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญาย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
ถึงแม้จะต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในสถานที่ใหม่ ต้องเจอกับวัฒนธรรมและการปรับตัวใหม่ๆ แต่นั่นดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับไอ้หนู โนนี่ มาดูเอเค่ เพราะเรื่องของผลงานและของที่ปล่อยออกมาได้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการฟุตบอลดัตช์
ตอนย้ายมาใหม่ๆ โนนี่ ได้โอกาสเล่นให้ พีเอสวี ชุด ยู-17 ลงเล่นไป 8 นัด ยิงได้ 3 ประตู ตามด้วยกับทีมชุด ยู-19 อีก 2 ปีก็เล่นหวดไปทั้งสิ้น 11 ประตู กดไปอีก 12 แอสซิสต์จากการลงเล่น 30 นัด และในช่วงฤดูกาล 2019-20 ก็มีอยู่แว๊บนึงที่ถูกดึงขึ้นไปเล่นให้ชุด ยู-21 และก็ไม่ได้ทำให้ทีมงานและโค้ชผิดหวังเลยกับการซัดไปอีก 4 ประตู ทำ 1 แอสซิสต์จาก 6 เกม
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
จริงๆ ในช่วงต้นปี 2020 โนนี่ มาดูเอเค่ ก็เคยได้โอกาสเดบิวต์และสัมผัสประสบการณ์ในสีเสื้อทีมชุดใหญ่ของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ไปแล้วโดยเป็นเกมที่เสมอกับ วีวีวี-เวนโล่ 1-1 อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2020-21 หรือปีต่อมานั่นแหละคือของจริง เพราะนั่นคือปีที โนนี่ ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวพร้อมกับสร้างโปรไฟล์เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมจากการลงเล่นใน เอเรดิวิซี่, ดัตช์ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รวมกันไป 32 นัด ซัลโวไป 9 ประตูและทำได้อีก 8 แอสซิสต์ด้วยกัน
ซีซั่นต่อมา 2021-22 โนนี่ มาดูเอเค่ ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองได้เป็นอย่างดีไม่ต่างจากปีก่อน ได้โอากสลงเล่นไป 35 นัดรวมทุกรายการ ยิงไป 9 ประตูและกดไปอีก 6 แอสซิสต์ซึ่งจริงๆ ปีนั้นควรจะเป็นปีที่เพอร์เฟคกว่านี้ สถิติและผลงานต่างๆ ดีกว่านี้ ถ้าไม่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อเล่นงานจนหายหน้าหายตาไปราวๆ 22 นัด
อย่างไรก็ตามปัญหาอาการบาดเจ็บยังคงตามรบกวนไอ้หนู โนนี่ มาดูเอเค่ ไม่เลิกในซีซั่นนี้ แต่คราวนี้เป็นที่ข้อเท้า และนั่นก็ทำให้เขาได้ลงเล่นไปตลอดเลกแรกของซีซั่นแค่ 9 นัดเท่านั้น และยิงได้แค่ 2 ประตู
สไตล์การเล่น
"ผมเป็นผู้เล่นประเภทที่เหมือน เดอะ โชว์แมน นิดหน่อย ผมพยายามที่จะเอาชนะคู่แข่งด้วยความเร็วที่ผมมี และมีสายตาสำหรับการพังประตู นี่คือสิ่งที่อธิบายถึงตัวผม การเล่นให้ดี การเลี้ยงบอล นั่นแหละคือสิ่งที่ผมเป็น" ครั้งหนึ่ง โนนี่ มาดูเอเค่ เคยพูดถึงสไตล์การเล่นของตัวเอง
เขาเป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีก ถนัดเท้าซ้าย วงการฟุตบอลฮอลแลนด์ จะรู้จักเขากับความโดดเด่นในเรื่องความรวดเร็วและความคล่องตัวในระดับสูง และสามารถเอาชนะกองหลังคู่แข่งได้ด้วยความเท้าไว ส่วนเรื่องสไตล์ก็คือการกระชากลากเลื้อย ลากจี้เข้าไปดวล 1-1 กับศัตรูและตัดเข้าในเพื่อสร้างโอกาสให้เพื่อนหรือหาจังหวะยิงประตูด้วยตัวเองคล้ายๆ กับตำนานอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน
จุดเด่น-จุดอ่อน
แน่นอนว่าจุดเด่นของ โนนี่ มาดูเอเค่ คือความเร็ว มีความเท้าไวยามไปกับบอล แต่สิ่งที่เป็นอีกหนึ่งข้อเด่นก็คือเรื่องสรีระเพราะเขาสามารถเอาร่างกายไปชนและเบียดสู้กับกองหลังตัวบึ้กๆ ได้เป็นอย่างดี ยามอยู่ในกรอบเขตโทษก็จัดว่าเป็นตัวอันตรายทั้งการสร้างสรรค์โอกาสและการหาช่องทำประตูซึ่งกุนซืออย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย ก็เคยพูดไว้ว่า "นี่คือนักเตะที่อันตรายที่สุดยามอยู่ในกรอบเขตโทษ"
สำหรับเรื่องของจุดอ่อนก็คงจะเป็นเรื่องประสบการณ์เพราะอายุยังน้อย แต่สิ่งที่หนักที่สุดจนน่าเป็นห่วงก็คือตอนนี้อายุแค่ 20 ปีแต่ที่ผ่านมาช่วง 3 ปี โนนี่ กลับเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่บ่อยครั้งและต้องพลาดการลงเล่นไปมากถึง 46 นัด นี่คือสิ่งที่ เชลซี ต้องเช็คและหาทางรับมือให้ดี
ไอดอล
ถึงตัวจะโตมากับชีวิตใน ลอนดอน และเคยเป็นเด็กในศูนย์ฝึกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่เขาว่ากันว่าไอ้หนู โนนี่ มาดูเอเค่ นั้นเป็นแฟนบอลพันธุ์แท้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่เขาเคยปฏิเสธข้อเสนอไปเมื่อตอนยังเด็ก ส่วนนักเตะที่เป็นแบบอย่างหรือแรงบันดาลใจบนเส้นทางค้าแข้งนั่นก็คือยอดนักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้
อย่างไรก็ตามการย้ายมาอยู่กับ เชลซี ถ้าจะถามถึงแรงบันดาลใจของไอ้หนู โนนี่ มาดูเอเค่ นั่นก็คือการเดินตามรอยซูเปอร์สตาร์อย่าง เอแด็น อาซาร์
"ผมคงต้องพูดว่า เอแด็น อาซาร์ คือแรงบันดาลใจ เขาเป็นผู้เล่นที่ทำให้คุณต้องลุกจากที่นั่ง ให้ความรู้สึกที่ตื่นเต้นในแง่ของไหวพริบ ทำให้ผู้คนต้องลุกจากเก้าอี้ และสร้างสิ่งมหัศจรรย์ เรามีความคล้ายกันอยู่บ้าง แต่ผมก็หวังว่าจะดีให้เท่าเขาในสักวันหนึ่ง"
ทีมชาติ
แน่นอนว่า โนนี่ มาดูเอเค่ ยังไม่เคยได้โอกาสติดธงทีมใหญ่ชุดใหญ่เลยแม้แต่ครั้งเดียว ว่ากันว่าเด็กคนนี้สามารถเลือกได้ว่าจะเล่นให้กับ ทีมชาติอังกฤษ หรือ ทีมชาติไนจีเรีย เพราะครอบครัวของเขานั้นมีเชื้อสายไนจีเรี่ยน และเกิดที่ ลอนดอน
แต่ในอดีตที่ผ่านมา โนนี่ เคยได้โอกาสเป็นตัวแทนให้ ทีมชาติอังกฤษ มาแล้วตั้งแต่ชุด ยู-16, ยู-17, ยู-18 และ ยู-21 ได้ลงเล่นไปรวมกัน 24 นัด ยิงได้ 6 ประตูซึ่งในรายการระดับทัวร์นาเมนต์ที่เคยลงเล่นก็จะมี ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ยู-17 ในปี 2019 และกับ ยู-21 ในปี 2021
Ready to represent! 👌 pic.twitter.com/0IQGtd7wBG
— Chelsea FC (@ChelseaFC) January 20, 2023
ทีมที่สนใจ
ย้อนกลับไปสมัยยังอยู่ในศูนย์ฝึกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หารู้ไม่ว่าก่อนจะย้ายไป พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ไอ้หนู โนนี่ มาดูเอเค่ ก็เคยได้รับความสนใจและข้อเสนอจากทีมชั้นนำใน พรีเมียร์ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี มาก่อน แต่สุดท้ายก็เป็นตัวนักเตะเองที่เลือกตอบปฏิเสธไป
พอมาปีนี้ด้วยผลงานที่ดีคงเส้นคงวาตลอดช่วงที่ผ่านมานั่นก็ทำให้เขายังคงเป็นเป้าหมายในการเสริมทัพจากทีมใน พรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด รวมไปถึงทีมเก่าอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และครั้งหนึ่งตัวของ ลอนดอน บอย คนนี้ก็เคยพูดว่า "ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมต้องไปจาก พีเอสวี ผมต้องการกลับไปค้าแข้งบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก"
และมันก็ดูจะเป็นเช่นนั้นเพราะล่าสุดมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า เชลซี ได้เซ็นสัญญาคว้าตัว โนนี่ มาดูเอเค่ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 38 ล้านยูโร พร้อมกับเซ็นสัญญายาว 7 ปีครึ่งด้วยกัน
เดี๋ยวต้องมาติดตามดูกันว่าไอ้เด็กคนนี้ที่ชื่อ โนนี่ มาดูเอเค่ จะสามารถรักษามาตรฐานและมีผลงานที่แจ่มว้าวเหมือนกับตอนอยู่ทีมเก่าหรือไม่ และจะช่วยยกระดับให้ เชลซี คัมแบ็กกลับมาเป็นทีมอย่างที่ควรจะเป็นได้แค่ไหนกัน ?
HaMu Dos Santos