logo-heading

11 ตัวจริงยังคงมีความดื้อแพ่ง

หนึ่งในเรื่องที่แฟนบอลออกมาติ ลิเวอร์พูล ในเกมก่อนหน้า ที่เสมอ เชลซี 0-0 คือการที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งปีกซ้ายธรรมชาติอย่าง โคดี้ กัคโป ไปเล่นหน้าเป้า และให้แนวรุกที่ถนัดยืนแต่ฝั่งขวาอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ไปเล่นปีกซ้าย 

แทนที่จะให้ทั้งคู่ได้เล่นในตำแหน่งถนัด และให้ โม ซาลาห์ ที่หลัง ๆ เล่นไม่ออก ไปยืนกองหน้าแทน เพราะ ซาลาห์ ก็พอเล่นตำแหน่งนี้ได้ และเคยเล่นมาแล้ว

แต่ไม่ครับ คล็อปป์ ยังคงยืน 3 แนวรุกแท็คติกเดิมแบบนัดที่เจาะ เชลซี ไม่เข้า แต่อย่างน้อย ๆ “เจเค” ก็เลิกดื้อแพ่งเรื่องกองกลางมาสักพักแล้ว หลังเป็นอีกนัดที่ใช้เป็น สเตฟาน บายเซติช, นาบี เกอิต้า และ ติอาโก้ ส่วนกองหลังมีเปลี่ยนแปลงแค่ให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้กลับมายืนตัวจริง


เกมการเล่นยังคงทรง ๆ

เกมการเล่นของ ลิเวอร์พูล นัดนี้ อาจไม่ได้ย่ำแย่เมื่อครั้งที่พวกเขาแพ้ ไบรท์ตัน 3-0 แต่ก็ยังไม่ได้ดี ระดับการเล่นของพวกเขายังคงเป็นทีมกลาง ๆ ไม่ได้ใกล้เคียงระดับทีมใหญ่ 

เพราะรวม ๆ 90 นาที ยังเป็นฝั่ง ไบรท์ตัน ที่เล่นได้ดีกว่า ครองบอลมากกว่า และหาโอกาสยิงได้มากกว่า หงส์แดง เล็กน้อย แต่อย่างน้อย ๆ ก็พอจะเห็นได้ว่า ลิเวอร์พูล ตอนนี้ ดูมีแรงฮึดกันมากขึ้น แม้จะเพรส จะอะไร ยังได้ไม่ดีเหมือนเก่า แต่ก็เริ่มมีจังหวะวิ่งสู้ฟัดมาให้เห็น ถือว่าพอมีสัญญาณดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ  เกิดขึ้นครับ

และอย่างน้อย ๆ พวกเขาได้ประตูนำไปก่อนด้วย จากเจ้าหนู เอลเลียตต์ ก่อนจะโดนตีเสมอแบบโชคร้ายเจอลูกแฉลบ และท้ายที่สุดก็มาโดนปิดจ็อบ แบบไม่เอาไม่อยู่จริง ๆ เพราะว่า …

คาโอรุ มิโตมะ สุดจริง!

ถือว่าฉายฟอร์มโหดขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับปีกทีมชาติญี่ปุ่นคนนี้ และเขาถือเป็น แมนออฟเดอะแมตช์ ในนัดนี้สำหรับเรา ยังคอยปั่นป่วนแนวรับ ลิเวอร์พูล และ เทรนต์ ได้อย่างยอดเยี่ยม การันตีด้วยสถิติเลี้ยงบอลสำเร็จมากที่สุดในสนามถึง 6 ครั้ง!

ในขณะที่แนวรุก ลิเวอร์พูล กัคโป กับ เอลเลียตต์ เลี้ยงสำเร็จแค่คนละหนึ่งครั้ง ส่วน ซาลาห์ เลี้ยงไม่ผ่านใครเลย น่าเวทนาใจจริง ๆ

กลับมาที่เรื่อง มิโตมะ แม้ในเกมเจ้าตัวจะมีช่วงที่มา ๆ หาย ๆ ไปบ้าง แต่เขาก็สามารถกลับมาปิดเกมได้อย่างสุดสวย ด้วยการซัดประตูชัยแบบสุดเยือกเย็น พาทีมเข้ารอบ และนั่นยังเท่ากับว่า 6 นัดหลังสุดในทุกรายการเขาทำได้ถึง 4 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ อีกเพชรเม็ดงามชาวเอเชียครับ คาโอรุ มิโตมะ

ไว้ก่อนไหม? เรื่องปั้น กัคโป เล่นหน้า

ต่อด้วยเรื่องประเด็น หลังจบเกม หนึ่งในสิ่งที่เราอยากจะวิจารณ์ คือการพยายามจะปั้น โคดี้ กัคโป ที่มีบางส่วนละม้ายคล้าย ซาดิโอ มาเน่ มาเล่นกองหน้าเป้า ถึงขนาดตอนส่ง ดาร์วิน นูนเญซ ลงมาสำรอง ส่วนใหญ่ กัคโป ก็ยังเล่นหน้าเป้าอยู่เลย

ซึ่งเราคิดว่ามันยังเร็วเกินไป และไม่ได้เข้ากับสถานการณ์ของทีม ลิเวอร์พูล ตอนนี้เลย! อันดับแรก กัคโป เล่นในตำแหน่ง ปีกซ้าย มาแทบตลอดอาชีพ มีเล่นกองหน้าในทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ที่แม้เล่นได้ดี แต่ก็ยังได้เล่นไม่กี่นัด แถมเขาเล่นแบบกองหน้าคู่ มีคนช่วยพัก ช่วยดึงตัวประกบไม่เหมือนกับแท็คติคของ ลิเวอร์พูล ด้วย

อีกประเด็นคือ หงส์แดง ก็มี นูนเญซ ที่เป็นหน้าเป้าอยู่แล้ว ไหนจะ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ดิโอโก้ โชต้า ที่จะหายเจ็บกลับมา และยิ่งการที่ปีกซ้ายตัวหลักของทีมอย่าง หลุยส์ ดิอาซ ยังเจ็บต้องพักอีกสักระยะ

การนำ กัคโป ในช่วงนี้ มาใช้ในตำแหน่งปีกซ้ายน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะจะเป็นการให้นักเตะได้ค่อย ๆ ปรับตัว เล่นในตำแหน่งคุ้นเคยไปก่อน ค่อย ๆ ทำความเข้าใจเพื่อนร่วมทีมใหม่ และถือเป็นการเล่นแทนในตำแหน่ง ดิอาซ ด้วย


บายเซติช โอกว่า ฟาบินโญ่ เยอะ

แม้การเล่นของกลางรับวัย 18 ปี จะยังไม่ได้ยอดเยี่ยม แต่ก็นับว่าพอถูไถ ช่วยตัดเกม ช่วยวิ่งไล่อะไรได้บ้าง และยิ่งหากเทียบกับ ฟาบินโญ่ ต้องบอก น้องบายเซติช ดูโอกว่ากันเยอะครับ

หลังมิดฟิลด์เลือดบราซิลแต่ไม่มีสกิลแซมบ้า ลงสำรองมาในนาทีที่ 84 และก็โชว์พลาดตั้งแต่การสัมผัสบอลครั้งแรก ต่อด้วยการทะเล่อไปทำฟาวล์ นักเตะ ไบรท์ตัน จนบาดเจ็บ และตัวเองก็รับใบเหลือง

ฟาบินโญ่ ยังคงเล่นเหมือนนักเตะใกล้แขวนสตั๊ด ทั้งที่อายุยังอยู่ในเลขสอง 29 ปี หาก FSG ยังคงงกตามสไตล์ไม่ซื้อกลางรับคนใหม่ แฟนหงส์ คงถือซะว่าพอถูไถ ที่มี บายเซติช ให้ออกสตาร์ทก่อน ฟาบินโญ่ ครับ


และนี่คือประเด็นทั้งหมดหลังเกมนี้สำหรับเรา สรุปแล้วรวม ๆ ถือว่า ลิเวอร์พูล ยังมีเรื่องที่ต้องปรับ โดยเฉพาะแท็คติกแนวรุกให้ลงตัว แต่อย่างน้อย ๆ ด้วยการผสมผสานดาวรุ่ง และให้โอกาสสำรอง ก็ทำให้เห็นการเล่นที่มีแรงฮึดขึ้นมาบ้าง

และแน่นอนการตกรอบ เอฟเอ คัพ หรืออะไรก็ตามไม่ใช่เรื่องดี แต่อย่างน้อย ก็ถือซะว่าให้เกมการเล่นพวกเขาน้อยลงไปบ้าง ได้มีเวลามาโฟกัส มาซ้อม-มาจูน รอให้นักเตะตัวหลักหายเจ็บกลับมา และภาวนาให้เจอแผนที่ลงตัวในฤดูกาลนี้ ที่ผ่านมามากกว่าครึ่งซีซั่นแล้วสักที!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline