logo-heading

เรียกว่ารูปเกมพลิกไปพลิกมา ทั้ง บาร์ซ่า เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน แต่ไม่นาน ปีศาจแดง ก็กลับมากุมความได้เปรียบ ถือว่าคุ้มค่ากับการนอนดึกจริงๆ ซึ่งเกมระดับ 5 ดาว มีอะไรให้พูดถึงกันไปบ้าง ไปติดตามกันครับ

- แรชฟอร์ด ปั่นป่วนแนวรับ บาร์เซโลน่า

อย่างที่บอกครับ ชั่วโมงนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด คือนักเตะที่อันตรายที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเมื่อใดที่ทีมทำประตูได้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า จะต้องมีชื่อ แรชชี่ อยู่บนสกอร์บอร์ด

และ 2 ประตูที่ ปีศาจแดง ซัลโวใส่ บาร์เซโลน่า ได้นั้น แรชฟอร์ด ก็มีส่วนร่วมทั้ง 2 ประตู โดยลูกแรกเขาวิ่งรับลูกแอสซิสต์จาก เฟร็ด ก่อนจะยิงยัดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่วนลูกแซงนำ 2-1 ก็เป็นคนกระชากหนีคู่แข่ง จากการเล่นเตะมุมสั้นทางฝั่งขวา เปิดยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลไปถึง บรูโน่ แฟร์นานเดส พยายามจะเกี่ยวด้วยส้น ก่อนที่บอลจะไปแฉลบ ฌูลส์ กุนเด้ ทำเข้าประตูตัวเอง

จากการยิงของ แรชฟอร์ด ทำให้ตอนนี้เขาซัลโวให้กับ ปีศาจแดง ในซีซั่นนี้ไปแล้ว 22 ประตู รวมทุกรายการ เป็นสถิติที่ดีที่สุดของตัวเองที่เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 2019-20 ซึ่งเจ้าตัวมาระเบิดฟอร์มเอาตั้งแต่จบ ฟุตบอลโลก 2022 โดยกดไปแล้ว 13 ลูก นับตั้งแต่เดือนปลายเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา

- บาร์เซโลน่า ฆ่าไม่ตาย

เชื่อว่าแฟนบอล เจ้าบุญทุ่ม คงช็อคไปตามๆกัน เพราะคงไม่คาดคิดว่า ทีมจะต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เป็นฝ่ายตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในชั่วขณะหนึ่ง ทั้งๆที่สามารถขึ้นนำได้ก่อน จากการโขกของ มาร์กอส อลอนโซ่ นาที 50 แต่หลังจากนั้นก็มาโดนยิงแซง 2 ลูก

สถานการณ์ตอนนั้น บาร์ซ่า ดูไม่ดีเอาเสียเลย ภาพจับมาให้เห็นสีหน้าของ ชาบี เอร์นานเดซ ว่ามีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ยังไม่มีวี่แววว่าจะตามตีเสมอได้ ไหนจะเกือบโดนนำห่างไปอีก จากช็อตที่ เฟร็ด ได้ยิงแถวๆเส้นกรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาออกไปไม่ไกล

อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า ยังคงเวอร์ชั่นฆ่าไม่ตาย และ บดจะได้ ก็มาได้ง่ายๆ ในจังหวะที่ ราฟินญ่า เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ามาบริเวณหน้าประตู เพื่อให้กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พยายามเข้าชาร์จ แต่ยิงไม่โดน ทว่ากลายเป็นดี ลูกตกพื้น เพราะผู้เล่น ปีศาจแดง เสียจังหวะ กลายเป็นลูกตีเสมอ 2-2 

ช่วงท้ายเกม บาร์ซ่า เกือบได้ประตูชัยหลายครั้ง ทั้งจังหวะสกัดผิดเหลี่ยมของนักเตะ ปีศาจแดง บอลไปชนเสา หรือจะเป็นช็อตยิงของ อันซู ฟาติ แต่เป็น ดาบิด เด เคอา เซฟไว้ได้ ถึงแม้จะไม่ชนะ แต่ก็ยังดีพอทำให้ บาร์เซโลน่า ยังถือครองสถิติไม่แพ้ให้กับใครมาแล้ว 17 นัดติดต่อกัน โดยชนะมากถึง 14 นัด และ เสมอ 3 นัด ด้วยกัน

- แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ยอมแพ้กลับไปอีกแล้ว

ก่อนหน้าที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะบุกมาเยือน บาร์เซโลน่า ในศึก ยูโรปา ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดแรก พวกเขามีความทรงจำที่ไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ เพราะครั้งสุดท้ายที่ต้องมา คัมป์ นู คือการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อปี 2019 และ เคยต้องพ่ายแพ้กลับไปแบบเละเทะ 0-3 ซึ่งชุดนั้นมี ดาบิด เด เคอา, เฟร็ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ยังเล่นอยู่กับ ปีศาจแดง

แต่ครั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะต่อให้ตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน แต่ก็แซงกลับมานำได้ 2-1 ก่อนจะโดนตีเสมอ 2-2 ซึ่งช่วงท้ายเกมหวิดจะโดนยิงประตูหลายครั้ง แต่ก็สามารถรักษาผลเสมอตุนใส่กระเป๋าเอาไว้ได้ 

ทำให้ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ใครในเกมยุโรปมาแล้ว 6 นัดติดต่อกัน โดยเป็นการชนะถึง 5 นัด และ เพิ่งมาเสมอกับ บาร์เซโลน่า ในเกมล่าสุด ต้องมารอดูกันว่านัดตัดสินที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พวกเขาจะสามารถผ่านเข้ารอบได้หรือไม่

- ความเสียหายของ บาร์เซโลน่า 

ผลเสมอ 2-2 ถามว่า บาร์เซโลน่า เสียหายมากแค่ไหน ตอบเลยว่าก็ไม่เท่าไหร่ครับ เพราะว่ากฎอเวย์โกล ถูกยกเลิกไปแล้ว ทำให้โอกาสเข้ารอบของ เจ้าบุญทุ่ม ยังคงเปิดกว้าง มิเช่นนั้นทุกอย่างจะยากเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม การบุกไปเยือนถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เลก 2 ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้ ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือใหญ่ จะต้องเจอกับปัญหาใหญ่หลวงในแผงมิดฟิลด์ เพราะอาจจะต้องขาดมิดฟิลด์คนสำคัญถึง 2 ราย

โดยรายแรก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน กาบี้ มิดฟิลด์คนสำคัญของทีม อย่างแน่นอนแล้ว เนื่องจากจะติดโทษแบน จากการสะสมใบเหลืองครบโควต้า แต่ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะ เปดรี้ กองกลางอีกราย ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ด้วยอาการบาดเจ็บ ดังนั้นถ้าไม่มี เปดรี้ อีกคน บอกเลยว่า "งานเข้า" เพราะจะหายไปทั้งการสร้างสรรค์เกมรุก และ การช่วยเกมรับ ไล่ตัดบอลคู่แข่ง

ถ้าหาก เปดรี้ ลงสนามไม่ได้อีกคน อาจจะต้องใช้งาน เซร์กี้ โรเบร์โต้ ลงมาเล่นร่วมกับพวก เฟรงกี้ เดอ ยอง หรือ ฟร้องค์ เกคสซีเย่ ก็เป็นได้ ซึ่งจะเป็นงานที่หนักหนาสาหัสอย่างแน่นอน เพื่อผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโรปา ลีก

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline