logo-heading

เพราะผลงาน ซานโช่ ช่างตราตรึงใจเหลือเกิน สมัยเล่นอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

50 ประตู 57 แอสซิสต์ ตลอดการลงสนาม 137 นัด พร้อมคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล มาครอง 

จากเด็กดาวรุ่งที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ให้โอกาส ไปโด่งดังเป็นพลุแตกกับ เสือเหลือง จนทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อมาร่วมทีม ด้วยราคา 73 ล้านปอนด์

แต่เส้นทางกับ ปีศาจแดง ไม่ได้โรยไปด้วยดอกกุหลาบ จากคนที่แฟนบอลตื่นเต้น กลายเป็นโดนครหาว่า

"นี่ใช่ ซานโช่ คนเดียวกันกับสมัยอยู่ ดอร์ทมุนด์ จริงหรือเปล่า ?"

29 นัดในลีกเมื่อซีซั่นก่อน ยิงได้แค่ 3 ประตู

เขาโดนวิจารณ์อย่างหนักว่า "เล่นไม่เข้ากับ ปีศาจแดง" เลยสักนิด

ยิ่งเจอแท็คติค 4-2-2-2 ของ ราล์ฟ รังนิค ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะดูไม่มีความเข้ากับสไตล์ของเขาเองเลยสักนิด

คนที่พร้อมลากจี้เข้าใส่แนวรับคู่แข่ง กลับกลายเป็นนักเตะที่หมดความมั่นใจ พอจะต้องเผชิญหน้ากับใคร ก็ส่งคืนย้อนหลังให้เพื่อนอยู่ตลอด 

ยิงก็ไม่ค่อยได้ แอสซิสต์ก็ไม่ค่อยมี

ทำให้ ซานโช่ เริ่มมีบทบาทกับ แมนฯ ยูไนเต็ด น้อยลง จริงอยู่ที่เขาได้ลงสนาม แต่มักไม่ค่อยสร้างอิทธิพลให้กับทีมมากนัก

ยิ่งช่วงต้นซีซั่น เทน ฮาก เข้ามากุมบังเหียนเริ่มมีการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงทีม ให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกหนึ่งครั้ง โดยมีการดึงนักเตะหน้าใหม่เข้ามาหลายราย หนึ่งในนั้นก็คือ อันโตนี่ ซึ่งมีผลต่อตำแหน่งของ ซานโช่ ภายในทีมโดยตรง

ความสำคัญในทีมของ ซานโช่ ก็ไม่ได้เป็นที่พูดถึงอีกต่อไป

ถึงขั้นที่ ซานโช่ ไม่มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ ไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 ประเทศกาตาร์ เขาแทบไม่มีส่วนร่วมในทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ดังนั้นเมื่อไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกตัวไปเพิ่ม

จากผลงานที่เกิดขึ้น เขาถูกวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่น, ไม่มีชื่อติดทีมชาติ ไหนจะมีปัญหาระเบียบวินัย ทำให้เขาอาจเกิดความเครียดสะสม

กระทั่งมีเรื่องตกใจให้ต้องพูดถึง คือ ซานโช่ ตัดสินใจเปลี่ยนใช้รูปโปรไฟล์ดำ พร้อมกับลบภาพทุกโพสต์ ที่มีผู้คนเกือบ 10 ล้านบัญชี กดติดตาม ออกจนหมดสิ้น

ทุกอย่างเกิดขึ้น ก่อน ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มเพียงแค่ 1 วัน เท่านั้น .. หลายคนตีความไปว่า เพราะ ซานโช่ ต้องการหยุดพักจากสิ่งรบกวนจิตใจบนโลกโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ต และ ขอโฟกัสอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น 

สภาพจิตใจของ ซานโช่ คงแย่ลง และ เชื่อว่าทุกคนก็สังเกตุเห็นได้ เพราะตั้งแต่วันเปลี่ยนเป็นโปรไฟล์ดำ เขาหายหน้าหายตาจากสโมสร ไปนานถึง 10 สัปดาห์ หรือ ราวๆ 2 เดือนครึ่ง

มีการเปิดเผยภายหลังว่า ซานโช่ เดินทางไปแยกซ้อมพิเศษ กับคอร์สที่ เทน ฮาก วางไว้ให้ เพื่อยกระดับการเล่นของเจ้าตัวให้กลับมาดี เหมือนสมัยอยู่ ดอร์ทมุนด์ อีกครั้ง

เขาหายหน้าไปนาน จนแฟนบอลเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะผลงาน แมนฯ ยูไนเต็ด ดีวันดีคืน ต่อให้ไม่มี ซานโช่ อยู่ในทีม ก็ไม่เห็นผล

อย่างไรก็ตาม การได้อยู่กับตัวเอง ได้ไปฝึกซ้อมแบบติวเข้มที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทุกอย่างก็ดีขึ้น เพราะเมื่อ ซานโช่ กลับมาฝึกซ้อมกับ ปีศาจแดง อีกครั้ง เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา หลายสิ่งเปลี่ยนไปในทางที่ดี

เขากลับมายิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ก็ซัดไปแล้ว 2 ประตู ในเกมที่ เสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-2 และ ไล่ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 

ไม่ใช่รอยยิ้มของ ซานโช่ ที่กลับมา แต่ยังเป็นตำแหน่งที่เปลี่ยนไป เพราะไม่ได้จำเจอยู่แค่ริมเส้น แต่เหมือน เทน ฮาก อยากให้เขาหุบเข้ามาเล่นตรงกลางให้มากขึ้น อารมณ์เล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์ของทีม และ ถ่างให้ บรูโน่ แฟร์นานเดส เยื้องออกไปด้านขวามากกว่า

ถามว่า ซานโช่ มีปัญหาไหม ? ไม่เลย เพราะเขาเองก็เล่นตำแหน่งเบอร์ 10 มาบ้าง สมัยอยู่ ดอร์ทมุนด์ เขามีศักยภาพ ที่จะเล่นตรงไหนของแนวรุกก็ได้ ซึ่งการเล่นเป็นตัวกลาง ทำให้เขาสามารถเติมเข้าไปช่วยเกมรุกทำประตู ได้บ่อยมากขึ้น

เหมือนอย่างประตู 3-0 นัดถล่ม จิ้งจอกสีน้ำเงิน .. ซานโช่ เป็นคนรับบอลจาก แรชฟอร์ด ก่อนจะเปิดไปด้านขวาให้ บรูโน่ ก่อนที่ บรูโน่ จะตบกลับมาให้ ซานโช่ ยิงเข้าไป 

รวมถึงยังมีช็อตถวายพานให้กับ เวาท์ เวกฮอร์ตส์ ได้ยิงแบบเหน่งๆ แต่น่าเสียดายทีไปติดเซฟผู้รักษาประตู

ดังนั้นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ อาจจะเหมาะกับเขาในทีม ปีศาจแดง ก็เป็นได้ 

การกลับมาของ ซานโช่ ถือว่าถูกที่ ถูกเวลาเหลือเกิน เพราะ มันเป็นช่วงที่ เทน ฮาก ต้องการใครอีกสักคน เข้ามาแบ่งเบาภาระเกมรุก จากทั้ง บรูโน่ และ แรชฟอร์ด ในการลุ้น 4 แชมป์ 

ซานโช่ อาจจะยังไม่ได้ยึดตัวจริงหรอก แต่อย่างน้อย ถ้าจะหาใครสักคนคอยเปลี่ยนเกม หรือ เปลี่ยนแท็คติคเกมรุก .. ซานโช่ จะเป็นคนนั้นให้กับ เทน ฮาก แน่นอน

เขาเริ่มเข้าใจในการเล่นเพรสซิ่ง มีช็อตช่วยตัดบอลได้ ลงไปช่วยเกมรับก็มีให้เห็น

ด้วยความ เป็นแข้งสารพัดประโยชน์ ยืดหยุ่นตรงไหนก็ได้ในแนวรุก จะกลางหรือริมเส้นก็ได้หมด ดังนั้น มารอดูกันว่า ซานโช่ จะมีส่วนร่วมกับทีมอีกมากแค่ไหน ในการช่วยทีมประสบความสำเร็จ 

แต่เชื่อเถอะว่า พวกเรากำลังจะได้เห็น ซานโช่ คนที่กลับมามั่นใจ, เล่นฟุตบอลแบบไร้ความกดดัน และ พร้อมจะทำลายล้างกองหลังคู่แข่งอีกครั้ง เหมือนที่เขาเคยทำมาให้เห็นในอดีต

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline