logo-heading

แต่ทว่า ตีงู ดันตี ไม่ตาย ต่อให้นำ 2 ครั้ง 2 ครา ก็ยังอุตส่าห์โดนตีเสมอ ทำให้ สิงห์บลูส์ ยังคงรั้งอยู่กลางตารางเหมือนเดิม

นอกจากนี้การเปลี่ยนตัวของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือ เชลซี โดนวิจารณ์มากพอสมควร เพราะมีส่วนทำให้ทีมต้องเสียประตู แต่กระนั้นก็ต้องให้เครดิตกับนักเตะ เอฟเวอร์ตัน ด้วย ที่สู้ยิบตา เพื่อ 1 คะแนน เอาไปไว้ลุ้นหนีตกชั้น ซึ่งเกมนี้มีเรื่องราว หรือ สถิติอะไรน่าสนใจ ไปติดตามกันได้เลยครับ

- เฟลิกซ์ อย่างเกิด โชว์ฟอร์มเฉิดฉาย

บางทีนี่อาจจะเป็นคำตอบว่าทำไม เชลซี ถึงยอมเสี่ยงทุ่มเงินเกือบๆ 10 ล้านปอนด์ เพื่อดึง เจา เฟลิกซ์ มาร่วมทีม ต่อให้จะเป็นแค่ "สัญญายืมตัว" แค่ 6 เดือน และ ต้องส่งตัวคืนไปให้กับ แอตเลติโก มาดริด หลังจบซีซั่นนี้ ก็ตาม

เนื่องจาก เฟลิกซ์ โชว์ฟอร์มได้อย่างเฉิดฉายมากเหลือเกิน เขาเป็นคนที่เล่นได้โดดเด่นที่สุดของ เชลซี แล้วในเกมนี้ โดยถึงแม้จะไม่มีประตูเกิดขึ้นในครึ่งแรก แต่เขาสร้างสรรค์ผลงานอันน่าตื่นเต้น ทั้งการปั่นป่วนคู่แข่ง หรือ โชว์สกิลแพรวพราวที่คนดูต้องร้อง "ว้าว ว้าว ว้าว"

ก่อนที่ เฟลิกซ์ จะมายิงประตูแรกของเขาในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยการยิงเล่นทางแบบคมๆ บอลกลิ้งหลุนๆเสียบมุมดิกเข้าไปซุกตาข่าย ต่อให้สิ่งที่ทำมา จะไม่สามารถช่วยทีมคว้า 3 คะแนน แต่เชื่อเถอะว่าผลงานแบบนี้บอร์ดบริหาร เชลซี อยากจะซื้อตัวมาร่วมทีมถาวรแบบใจจะขาด

ขึ้นอยู่กับว่า ตราหมี จะยอมปล่อยหรือไม่ และ เชลซี พร้อมทุ่มเงินมหาศาล หรือเปล่า เพราะ แอตเลติโก มาดริด ซื้อ เฟลิกซ์ มาจาก เบนฟิก้า ก็ราคา 113 ล้านปอนด์ เข้าไปแล้ว ฉะนั้นถ้าขาย ก็ต้องขายเพื่อให้ได้กำไร 

- พ็อตเตอร์ คืนฟอร์ม

สถานการณ์ของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ เหมือนกำลังดูดีขึ้นมา ไม่ค่อยมีเสียงก่นด่าจากแฟนบอลให้เห็นแล้ว เพราะก่อนจะเปิดบ้านเจอกับ เอฟเวอร์ตัน .. เขาพาทัพ สิงห์บลูส์ คว้าชัย 3 เกมรวด ซึ่งหนึ่งในนั้น เป็นเกมเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ

แต่ช่วงวันเวลาแห่งความสุข ช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน เพราะ พ็อตเตอร์ กำลังกลับคืนสู่ผลงานเก่าๆ ที่ทำให้โดนวิจารณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวของเขา ซึ่งมันมีส่วนนำพาทำให้ทีมโดนตีเสมอ 2-2 ทั้งๆที่รูปเกม เชลซี เหนือกว่า เอฟเวอร์ตัน ทุกกระบวนท่า ต่อให้นำอยู่ 1 ลูก ก็ควรสั่งให้ลูกทีม ยิงให้เกมมันขาด

อย่างไรก็ตาม พ็อตเตอร์ เลือกแบบเซฟโซน ต้องการพาทีมเก็บ 3 คะแนนเท่านั้น ทำให้เขาเลือกเปลี่ยนพวกตัวรุกอย่าง เจา เฟลิกซ์ ที่เล่นได้โดดเด่นออกไปพัก และ เลือกส่งมิดฟิลด์ลงมาแพ็คเกมตรงกลาง รวมถึงการเปลี่ยนกองหลังลงมาแค่แวบเดียว การสื่อสารอาจยังไม่เข้าที ก็เสียประตูตีเสมอทันที

อารมณ์ประมาณว่า "เล่นดีเอาออก เล่นกระจอกเปลี่ยนเข้า" เปลี่ยนแล้วทำให้รูปเกมดูแย่ลง เรียกว่าความดีที่ทำมา 3 นัด หายวับไปในพริบตา ซึ่งถึงแม้ เชลซี จะยืดสถิติไม่แพ้ต่อ เอฟเวอร์ตัน เวลาเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมลีก มาแล้ว 27 นัด แต่การเก็บได้แค่ 1 คะแนนนัดนี้ ช่างเสียหายเหลือเกิน 

ทำให้ตอนนี้ เชลซี ยังอยู่อันดับ 10 ของตาราง มีเพียง 38 คะแนน เท่านั้น เรื่องท็อปโฟร์ไม่ต้องไปหวังแล้ว ให้ไปลุ้นทางลัด สร้างปาฏิหาริย์คว้าแชมป์ ยูซีแอล เอาแล้วกัน ซึ่งถ้าอนาคตมีอันต้องตกรอบ ก็มารอดูอนาคตของ พ็อตเตอร์ ว่า จะได้ทำทีม เชลซี ต่อไปหรือไม่

- มูดริค ไม่ได้ลงเล่นอีกนัด

พลันหลังจบเกมการแข่งขัน และ การเปลี่ยนตัวอันขัดใจแฟนบอลของ พ็อตเตอร์ มันมีการตั้งคำถาม และ พูดถึงนักเตะ 1 คน ที่ไม่มีส่วนร่วมกับทีมในวันนี้ นั่นคือ มิไคโล มูดริค ปีกทีมชาติยูเครน เจ้าของค่าตัว 89 ล้านปอนด์ เพราะ เกรแฮม พ็อตเตอร์ เลือกส่งพวกลูกรักลงสนามก่อน อาทิ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ หรือ รูเบน ลอฟตัส ชีค

จากความคิดเห็นของแฟนบอล เชลซี หลังจบเกม รู้สึกสงสาร มูดริค ที่ไม่ได้ลงสนามในเกมนี้ เพราะจริงๆแล้วเขามีประสิทธิภาพที่จะลงมาทำลายล้างกองหลัง เอฟเวอร์ตัน ได้เลย แต่กระนั้น พ็อตเตอร์ กลับไม่ให้โอกาสมากพอ นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ สิงห์บลูส์ เขาเพิ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ 3 นัด จาก 6 นัด ที่ได้โอกาสลงสนาม รวมแล้วแค่ 263 นาที เท่านั้น

ไม่รู้ว่า พ็อตเตอร์ ต้องการให้ มูดริค ใช้เวลาปรับตัวกับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือ มองว่าแท็คติคที่เขาเลือกใช้มีนักเตะคนอื่นที่ดูดีกว่า แต่กระนั้นไม่ว่าจะเป็นตัวจริง หรือ ตัวสำรอง แฟนบอลมองว่า ถ้ายังนำคู่แข่งไม่ได้ หรือ ยิงไม่ขาด ทั้งๆที่รูปเกมเหนือกว่า ควรจะเปลี่ยนตัวรุกลงไปแทนกันเอง ไม่ใช่ส่งกองกลางไปเก็บบอล และ มูดริค ควรจะเป็นคนนั้น ที่ พ็อตเตอร์ ต้องให้โอกาสมากกว่านี้

- 1 แต้มอันล้ำค่าของ เอฟเวอร์ตัน 

การได้ 1 คะแนนกลับบ้านของ เอฟเวอร์ตัน ในเกมนี้ ทำให้พวกเขาหายใจโล่งคอไปอีกเฮือก โดยขยับจากอันดับ 17 มาอยู่อันดับ 15 ของตาราง แข่ง 28 นัด มีอยู่ 26 คะแนน แซงหน้า ฟอเรสต์ และ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่เหนือโซนตกชั้นอันดับ 18 อย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อยู่เพียง 2 คะแนน ถึงแม้ยังดูสุ่มเสี่ยง แต่มันเป็น 1 แต้มใหญ่ กับการบุกไปเสมอที่บ้านของ เชลซี

การเข้ามาคุมทีมของ ฌอน ไดช์ แทนที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ดูดีขึ้น และ เก็บแต้มได้มากกว่าเดิมตามลำดับ จุดเด่นพวกเขาคือเกมในบ้าน โดยเคยเอาชนะทั้ง อาร์เซน่อล, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เบรนท์ฟอร์ด มาแล้ว

ส่วนผลงานนอกบ้าน ถึงแม้ ฌอน ไดช์ จะยังไม่สามารถพา เอฟเวอร์ตัน คว้าชัยชนะได้ แต่ก็เริ่มมีแต้มกลับมาเมื่อต้องไปเยือนคู่แข่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็บุกไปเสมอ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 2-2 และ ก็มาเสมอกับ เชลซี ได้อีก ด้วยสกอร์ 2-2 เช่นกัน

ถึงแม้ เอฟเวอร์ตัน จะแข่งมากกว่าชาวบ้าน อยู่ประมาณ 1-2 นัด ยังมีโอกาสร่วงไปอยู่โซนตกชั้น แต่ดูจากผลงานในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะฟอร์มในบ้าน มันมีแววที่พวกเขาจะอยู่รอดเช่นกัน ซึ่งหลังจากเกมทีมชาติ ทอฟฟี่บลูส์ มี 2 นัดสำคัญรออยู่ คือเปิดบ้านเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ บุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ้าได้สัก 2 หรือ 3 คะแนน เชื่อว่าสถานการณ์จะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

ฮาย ฮาวดี้
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline