logo-heading

กลุ่มลุ้นแชมป์เหลือม้าแข่งแค่ 2 ตัว คือ อาร์เซน่อล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คงเบียดกันอย่างสนุก หรือพื้นที่ท็อปโฟร์มาหลายทีมที่กำลังขับเคี้ยวกันอย่างสนุกไล่มาตั้งแต่อันดับ 3 อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ไปจนถึง 8 อย่าง เบรนท์ฟอร์ด ที่แม้จะตามมาไกลๆ แต่ก็ไม่อาจประมาทได้

ส่วนอีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือเรื่องของการหนีตกชั้นที่ซีซั่นนี้ยังไม่มีใครยอมกันง่ายๆ คะแนนตามติดกันมากเหลือเกิน

ปัจจุบัน เซาแธมป์ตัน รั้งบ๊วยของตารางด้วยการเก็บไปได้ 23 คะแนน ทว่ามีแต้มห่างจากพื้นที่ปลอดภัยเพียง 2 แต้มเท่านั้น เรียกได้ว่ายังคงได้ลุ้นแบบเต็มๆ

ส่วน บอร์นมัธ หนึ่งในพาร์ทเนอร์ของ ขอบสนาม ก็ยังคงได้ลุ้นอยู่รอดแบบเต็มๆ แม้ตอนนี้จะรั้งอันดับ 19 อยู่ก็ตาม

ว่าแล้ววันนี้เราไปส่องโปรแกรมของพวกเขากันหน่อยว่ามีโอกาสมากเพียงใดในการยืนหยัดอยู่บนลีกสูงต่อไป

ส่องสถานการณ์ “บอร์นมัธ” กับโอกาสรอดตกชั้น

สถานการณ์ปัจจุบัน

อย่างที่กล่าวไปว่าปัจจุบันทัพ “เดอะ เชอร์รีส์” รั้งอยู่อันดับ 19 ของตารางคะแนน เก็บไปแล้ว 24 แต้มจากการลงสนาม 27 เกม มีคะแนนตามหลังโซนปลอดภัยอยู่เพียงแต้มเดียว ทว่าที่ดูจะเสียเปรียบหน่อยคือโปรแกรมที่ลงสนามมากกว่าทีมนำอย่าง เวสต์แฮม อยู่ 1 เกม

ส่วนที่พออุ่นใจได้หน่อยๆ คือพวกเขาลงสนามน้อยกว่าทีมอันดับสุดท้ายอย่าง เซาแธมป์ตัน 1 นัด ถ้ากรณีที่เก็บได้ 3 แต้มเต็ม ก็จะขยับทิ้งห่างขึ้นไปอีกหน่อย

โดยก่อนหน้านี้ บอร์นมัธ เคยฉีกห่างเหล่าทีมในโซนเดียวกันขึ้นไปรั้งอันดับ 14 มาแล้ว ทว่าด้วยผลงานในสนามในช่วงหลังปีใหม่มาไม่ค่อยสวยนัก ทำให้สถานการณ์กลับมาน่ากังวลอีกครั้ง

โปรแกรมหลังจากนี้

โปรแกรมหลังจากนี้ของ บอร์นมัธ ถือว่าวัดใจมากพอสมควร ทั้งเจอทีมในระดับเดียวกัยคือลุ้นอยู่รอดปลอดภัย กับอีกจำนวนคือหัวตารางลุ้นโควต้าฟุตบอลยุโรป

จาก 11 เกมที่เหลือของพวกเขาจะได้ลงเล่นในรัง 6 นัด และออกไปเยือน 5 เกม ด้วยกัน

จากจำนวน 6 ในบ้านโปรแกรมถือว่าไม่ธรรมดาคือการดวลกับ ฟูแล่ม กับ ไบร์ทตัน  2 ทีมครึ่งบนของตาราง รวมไปถึงทีมใหญ่อย่าง เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนอีก 2 เกมคือการดวลกับทีมหนีตายด้วยกันทั้ง เวสต์แฮม กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด

แน่นอนทั้ง 2 เกมถ้าพวกเขากวาดชัยชนะได้ทั้งหมด จะเหมือนเป็นการไป-กลับ 6 แต้ม คือเพิ่มคะแนนให้ตัวเอง และแช่แข็งคู่แข่งให้หยุดอยู่ที่เดิม

ข้ามไปดูโปรแกรมนัดเยือนกันบ้างเรียกได้ว่าน่าสนใจ เพราะมากถึง 4 เกมที่ต้องดวลกับทีมในโซนหนีชั้น ประกอบไปด้วย เลสเตอร์, เซาแธมป์ตัน, คริสตัล พาเลซ และ เอฟเวอร์ตัน ส่วนอีกเกมคือบุกเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

จากโปรแกรมทั้งหมดถ้า บอร์นมัธ เก็บแต้มได้ต่อเนื่อง โอกาสรอดมันก็คงจะปรากฎได้เร็วไม่ต้องไปลุ้นถึงเกมสุดท้าย แต่ทว่าถ้ายังกระท่อนกระแท่นบางทีเกมสุดท้ายที่ไปเยือน กูดิสัน พาร์ค อาจต้องรวบรวมพลังทั้งหมดว่าทีมจะรอดปลอดภัยจากความตายสู่ แชมเปี้ยนชิพ ได้หรือไม่

ส่องสถานการณ์ “บอร์นมัธ” กับโอกาสรอดตกชั้น

โอกาสรอด ?

กับสถานการณ์ของ บอร์นมัธ ถามว่ามีโอกาสรอดตกชั้นไหม ? ต้องบอกเลยว่ายังคงมีอย่างแน่นอน ด้วยโปรแกรมที่ยังคงเหลืออยู่ และคะแนนที่ไม่ได้ทิ้งห่างกันมาก

ฉะนั้นถ้าพวกเขากลับมาเก็บคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง เหมือนช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนตุลาคมที่ไม่แพ้ใครติดต่อกัน 6 เกม แบ่งเป็นชนะ 3 และเสมอ 3 นัด

และยิ่งบวกกับโปรแกรมที่ได้ลงเล่นในบ้านถึง 6 เกม น่าจะเป็นตัวช่วยอีกแรงให้พวกเขาโกยแต้มได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่ต้องมาคอยตัดกันเองกับทีมโซนสีแดง

ส่วนเกมเยือนที่ต้องไปดวลเหล่าทีมล่างตารางยื้อผลเสมอกลับมาได้ หรือชนะในบางเกม น่าจะช่วยให้โมเมนตั้มมันดูดี และเหวี่ยงเข้ามาหาพวกเขามากยิ่งขึ้น

จากนี้ต้องมาติดตามกันว่า บอร์นมัธ จะพาตัวเองรอดจากการตกชั้นได้หรือไม่

เส้นทางที่เหลือมันถูกกำหนดขึ้นจากตัวของพวกเขาเอง

ชนะได้ก็รอด 

ทฤษฎีง่ายๆ แต่ลงมือทำ (โคตร) ยาก

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline