logo-heading

ตัวจริงมีเปลี่ยน 3 ตำแหน่ง

เริ่มจาก 11 ตัวจริง เกมนี้ แมน.ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนแปลงจากนัดก่อน 3 ตำแหน่ง และเป็นในตำแหน่งกองหลังล้วนๆ

คือส่ง ไทเรลล์ มาลาเซีย แทน ลุค ชอว์ ที่บาดเจ็บ, พัก ราฟาเอล วาราน และให้กัปปิตัน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ลงยืนคุมหลัง และสลับให้โอกาส อารอน วาน-บิสซาก้า ก่อน ดิโอโก้ ดาโลต์ บ้าง

ส่วนฝั่ง เอฟเวอร์ตัน หลักๆ ขาดแดนกลางอย่าง อับดูลาย ดูกูเร่ เลยต้องขยับ อเล็กซ์ อิโวบี้ มายืนแทน และให้ เอลลิส ซิมส์ สตาร์ทเป็นศูนย์หน้า

ครึ่งแรกไม่ควรนำแค่ 1-0

มาที่เรื่องของรูปเกม ต้องบอกว่าสาเหตุที่ แมน.ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถเจาะประตูได้ใน 35 นาทีแรก เป็นเพราะสาเหตุเดียวเลย คือ จอร์แดน พิคฟอร์ด โคตรจะร่างทอง

นายประตู เอฟเวอร์ตัน โชว์การเซฟแบบตัวต่อตัวกับผู้เล่น แมนยู ไปถึง 3 หน ฟังไม่ผิดครับ หลุดมาแทบจะเดี่ยวๆ พิคฟอร์ด แม้งเซฟไป 3 หน บวกกับจังหวะออกมาตัดบอล และเซฟลูกอื่นๆ

ในขณะที่ ปีศาจแดง เจ้าบ้านสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า แทบจะค้ำต่อย โหมบุกอยู่ฝั่งเดียว สาดลูกยิงเป็นสายฝน ไม่ว่าจะ แรชฟอร์ด, อันโตนี่, ซาบิตเซอร์ หรือ วาน-บิสซาก้า

แต่ชายคนที่เดียวสามารถยิงผ่านมือ พิคฟอร์ด ได้ในครึ่งแรก หรือคนที่คมที่สุดในครึ่งแรกก็คือ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ จากลูกยิงที่ยอดเยี่ยมของ แม็คทอม และการจ่ายผ่าช่องที่ดีของ ซานโช่ ช่วยให้ ยูไนเต็ด ปลดล็อคและออกนำไปได้ในนาทีที่ 36 

แม้จากนั้นพวกเขาจะมีโอกาสเพิ่มประตูที่ 2 อีก แต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ จบ 45 นาทีแรก ปีศาจแดง ที่สร้างโอกาสยิงได้ถึง 21 ครั้ง ฟังไม่ผิดครับ 21 ครั้งในครึ่งแรก ออกนำ เอฟเวอร์ตัน แค่ 1-0 ทั้งที่ควรจะได้มากกว่านี้

เทน ฮาก เปลี่ยนตัวถูกจุด (อีกแล้ว)

จากนั้นเริ่มครี่งหลังมา ทว่าช่วงต้นๆ เกมของ แมน.ยูไนเต็ด ดูแผ่วลงไป เริ่มหาโอกาสยิงกันไม่ได้ กุนซือ เอริค เทน ฮาก ที่มีทีเด็ดเรื่องการเปลี่ยนตัวที่ถูกจุด ตลอดฤดูกาลนี้ ก็โชว์การตัดสินใจที่ถูกต้องอีกครั้ง

เขาเลือกส่ง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ลงมาแทน ซานโช่ ในนาทีที่ 60 และในอีก 10 นาทีต่อมาก็เป็นผล มาร์กซิยาล สามารถทำประตูตอกฝาโลงให้ทีม ซึ่งมันเป็นประตูที่ 4 ในลีกฤดูกาลนี้ของเขา และมาจากแอสซิสต์ที่ 4 ในฤดูกาลนี้ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ด้วย

จากนั้น ไม่มีประตูเพิ่มเติม แต่ก็มีภาพดีๆ ที่รอคอยสำหรับแฟน ปีศาจแดง หลังได้เห็น คริสเตียน อีริคเซ่น หายเจ็บกลับมาลงสนามอีกครั้งในช่วง 10 นาทีท้าย ซึ่งถือว่าเขากลับมาได้ในช่วงสำคัญพอดี ทั้งช่วยท้ายของศึกแย่งพื้นที่ยุโรป รวมถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโรปา ลีก ที่รอคอยพวกเขาอยู่ด้วย

 

เก็บตกสถิติที่น่าสนใจหลังเกม

หลังจบเกมก็มีหลายสถิติที่น่าสนใจ เราคัดมาให้ฟังกัน 3 อย่าง อันแรกคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้ สามารถเก็บชัยในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 17 นัด ซึ่งถือเป็นจำนวนที่เท่ากับทั้งฤดูกาลก่อนของพวกเขา และซีซั่นนี้ยังเหลืออีกถึง 9 นัดให้พวกเขาแข่งขัน

โอกาสยิง 21 ครั้งในครึ่งแรกของ แมนยู ถือเป็นสถิติที่มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกเลย นับตั้งแต่ ออปต้า เริ่มเก็บสถิติมาตั้งแต่ฤดูกาล 2003/04

และสถิตินักเตะคือ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำได้ถึง 5 ประตู จาก 5 นัดหลังสุดของเขาในทีมชาติและสโมสร ซึ่งถือเป็นจำนวนประตูที่เท่ากับที่เขาเคยทำได้ใน 106 นัดก่อนหน้านี้ด้วย

 

แมนออฟเดอะแมตช์ให้ใครดี ?

ต่อมากับหนึ่งในคำถามหลังเกมนัดนี้ คือ แมนออฟเดอะแมตช์ควรจะให้ดี ? บรูโน่ แฟร์นันเดส ที่ดูโดดเด่นที่สุดในสนาม ทั้งสัมผัสบอลมากสุด, จ่ายบอลมากสุด และสร้างสรรค์โอกาสมากที่สุด

หรือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่วันนี้เซฟระดับโกงตายไปไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง และหากลูกไหนไม่เด็ดขาดจริงก็ไม่สามารถผ่านมือเขาไปได้ หรือว่าง่ายๆ หากเกมนี้ เอฟเวอร์ตัน นี้ไม่มีเขา คงแพ้ 4-0, 5-0 ไปแล้วก็เป็นได้

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้โหวตสูงสุดในเว็บทางการพรีเมียร์ลีกกลับไม่ใช่ทั้งสอง แต่เป็น แม็คโทมิเนย์ ผู้ปลดล็อคประตูแรกของเกม และได้คะแนนโหวตค่อนข้างสูงที่ 44.2% เลยล่ะครับ

และอีกคนที่เราคิดว่าไม่ชมไม่ได้คือกุนซืออย่าง เอริค เทน ฮาก ที่วันนี้วางหมากมาได้ถูกต้อง โดยเฉพาะการให้ บรูโน่ เล่นเป็นตัวต่ำ และให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เล่นยืนสูง รวมถึงการเปลี่ยน มาร์กซิยาล ลงมาทำประตูด้วย

 

เรื่องน่ากังวลมีสิ่งเดียว

แต่ๆ หลังจบเกมนี้ก็มีเรื่องน่ากังวลหนึ่งอย่าง คืออาการบาดเจ็บของ แรชฟอร์ด ที่เดินกะเผลกออกจากสนามไป ซึ่งสื่อคาดว่าน่าจะบาดเจ็บที่โคนขาหนีบ และประเด็นคือเกม ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีมที่จะเจอกับ เซบีย่า จะมีขึ้นในอีก 5 วันแล้ว

โดย เทน ฮาก นั้นให้สัมภาษณ์ว่า แรชฟอร์ด ดูมีอาการที่ไม่ดีสักเท่าไหร่นัก ต้องรอตรวจเช็กอาการอีกที เพราะฉะนั้นตอนนี้แฟนๆ ผีก็รอผลตรวจอีกทีนะครับ อาจไม่ได้มีอะไรหนักก็ได้


สรุปสุดท้ายนี้ ถือเป็นเกมที่ แมนยู เก็บแต้มได้ด้วยทุกอย่างที่เหนือกว่า และน่าจะได้มากกว่า 2 ประตูด้วยซ้ำ แต่ก็ถือว่าพวกเขาคู่ควรกับทั้ง 3 แต้ม และคลีนชีตในนัดนี้แล้วจริงๆ

และด้วยชัยชนะส่งผลให้ ปีศาจแดง ขยับเพิ่มเป็น 56 คะแนน ยังอยู่อันดับ 4 มีแต้มเท่ากับอันดับ 3 อย่าง นิวคาสเซิ่ล ที่เก็บชัยเกมเมื่อคืนได้เช่นกัน ส่วนเอฟเวอร์ตัน หล่นมาอยู่ในอันดับ 17 มีแต้มเท่ากับโซนตกชั้น แค่ลูกได้เสียยังดีกว่าเท่านั้น.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline