logo-heading

ทัพ “เดอะ คลาเรตส์” ถือว่าเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ ตั้งแต่ซีซั่นนี้ยังไม่รูดม่านเปิดซีซั่นว่ามีโอกาสซิวตั๋วกลับสู่ลีกสูงสุด ด้วยศักยภาพของนักเตะ ประสบการณ์ และความเก๋า ย่อมได้เปรียบคู่แข่งหลายๆ ทีม

ทว่าหนึ่งในข้อสงสัยที่หลายคนคงตั้งคำถามคือการเลือกแต่งตั้ง แวงซองต์ กอมปานี กุนซือวัยหนุ่มเข้ามาคุมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทั้งที่ประสบการณ์งานโค้ชไม่ได้เยอะมากนัก ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปผลงานในสนามคือคำตอบของทุกอย่างถึงความเหมาะสม กับเครดิตที่เขาควรจะได้รับ

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราในวันนี้จะพาไปดูผลงานของอดีตแนวรับระดับตำนานของพรีเมียร์ลีกนี้กันหน่อยว่า นับตั้งแต่เข้ามาทำทีม เบิร์นลี่ย์ ได้เปลี่ยนแปลงทีมอย่างไรบ้าง จนตอนนี้สามารถลุ้นความสำเร็จแรกในฐานะกุนซือมาครอง

“กอมปานี” เพียงซีซั่นแรกพา “เบิร์นลี่ย์” ลุ้นสอยแชมป์

เส้นทางงานโค้ช

ย้อนกลับไปชื่อของ กอมปานี โด่งดังเป็นที่รู้จักมากขึ้นคือการย้ายมาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนกลายเป็นหนึ่งในกัปตันทีมที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร ซึ่งเจ้าตัวค้าแข้งกับทัพ “เรือใบสีฟ้า” ทั้งหมด 11 ปี คว้าแชมป์มาครองได้อย่างมากมาย ก่อนย้ายกลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดกับ อันเดอร์เลชท์ ช่วงซัมเมอร์ 2019

ซึ่งการกลับไปครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่บทบาทผู้เล่นเท่านั้น แต่พ่วงบทบาทของผู้จัดการทีมไปด้วย หรือเรียกง่ายๆ คือ “โค้ช & เพลย์เยอร์” นั่นเอง

ทว่ากับบทบาทดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 4 เกมเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวไม่สามารถพาทีมเอาชนะได้เลยแบ่งเป็นเสมอ 2 และ แพ้ 2 เกม ก่อนที่หลังจากนั้นจะสละเก้าอี้ พร้อมให้ ไซม่อน เดวีย์ หนึ่งในสต๊าฟฟ์โค้ชเป็นคนคุมทัพแทน

หลังจากนั้นอีกราวๆ 1 ปี กอมปานี ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ด เพื่อมารับงานคุมทีมแบบเต็มตัว ซึ่งก็เป็น อันเดอร์เลชท์ นี่แหละที่เป็นเวทีแรกในการประลองฝีมือเริ่มต้นสายงานกุนซือ

โดยสถิติการคุมทีมแบบถาวรของ กอมปานี ถือว่าสถิติอาจไม่ได้สวยงามมากนัก 90 เกม เก็บชัยชนะไปได้ 41 นัด ที่เหลือแบ่งเป็นเสมอ 30 กับแพ้ 19 นัด อีกทั้งชวดแชมป์เบลเจี้ยน คัพ บวกกับจบเพียงอันดับ 3 ในลีก ก่อนนำมาซึ่งการแยกทางกันในช่วงเดือนพฤษภาคม 2022

จนกระทั่งช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เบิร์นลี่ย์ ที่เพิ่งกระเด็นตกชั้นมาจากพรีเมียร์ลีกได้เข้าทาบทามดึงตัวมาคุมทีม เพื่อพิชิตตั๋วกลับลีกสูงสุดอีกครั้ง 

แน่นอนนี่คือก้าวสำคัญของ กอมปานี เหมือนกับหลายๆ กุนซือมือใหม่ที่เริ่มต้นจากทีมในลีกล่างๆ ของอังกฤษในการเก็บเกี่ยววิชา ซึ่งอดีตแนวรับผู้นี้สามารถสอบผ่านแบบฉลุยตั้งแต่ซีซั่นแรก ทั้งเรื่องของการซื้อตัวนักเตะถือว่าดูดีพอสมควร ยกตัวอย่างเช่นไปดึงตัว อนาสส์ ซารูรี มาจากทีมในลีก เบลเยี่ยม ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ ก่อนนักเตะตอบสนองด้วยการซัดไป 10 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ หรือ มานูเอล เบนสัน ที่กลายเป็นตัวความหวังในแดนหน้า

บทสรุปซีซั่นในการรีเทิร์นอังกฤษในบทบาทกุนซือ กอมปานี ทำได้ดีเกินคาดจนตอนนี้สามารถโฟกัสถึงขั้นคว้าแชมป์มาครองได้แล้ว ภายหลังภารกิจซิวตั๋วเสร็จสิ้นเสร็จไปอย่างสมบูรณ์เรียบร้อย

สไตล์ฟุตบอล

ชีวิตสมัยเป็นนักเตะ กอมปานี มีโอกาสร่วมงานกับโค้ชฝีมือเยี่ยมหลายคนไม่ว่าจะเป็น โรแบร์โต มันชินี่, มานูเอล เปเยกรินี่, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ

ซึ่งในเหล่าบรรดาชื่อที่กล่าวว่ากับ เป๊ป คงเป็นโค้ชที่ร่วมงานกันด้วยมากที่สุดแล้ว แน่นอนว่าสไตล์ฟุตบอลจึงแทรกซึมอยู่ในตัวของ กอมปานี ไม่มากก็น้อย อาจไม่ได้ก็อปปี้มาเลย แต่เป็นหนึ่งในต้นแบบที่สวยงาม

ฉะนั้นเมื่อรีไทร์มาเป็นโค้ชเขาก็ไม่ต่างอะไรจากโค้ชหนุ่มไฟแรง รูปแบบแนวทางทำทีมถือว่าชัดเจนเน้นครองบอล จ่ายบอล รับแน่น และเกมรุกว่องไว

ครั้งหนึ่ง กอมปานี เคยออกมาบอกเหล่าสื่อ หรือแฟนบอลว่าให้เลิกเปรียบเทียบตัวเขากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะต่างคนต่างมีสไตล์ และแนวทางการทำทีมในแบบตัวเอง

“คุณต้องเลิกเปรียบเทียบผมกับ กวาร์ดิโอล่า เสียที มันกวนใจผมมากที่บอกว่าเราเหมือนเป๊ป กวาร์ดิโอลา เกินไป เพราะมันไม่จริงเลย มันทำให้สโมสรดูเหมือนสโมสรที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว และไม่ได้ยึดความเป็นจริงจากในสนาม”

แน่นอนว่าต่างคนก็ต่างมีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป จะมายกเปรียบเทียบทีมนั้นเหมือนทีมนี้ก็คงไม่ใช่ ฉะนั้น กอมปานี กับการคุม เบิร์นลี่ย์ คือฟุตบอลเกมรุกสวยงาม ที่มีเกมรับแข็งแกร่งตามสไตล์กุนซือที่เคยเป็นแนวรับมาก่อน

แต่... สิ่งที่ กอมปานี กำลังเจอใน แชมเปี้ยนชิพ ย่อมจะแตกต่างกันออกไปกับ พรีเมียร์ลีก ที่กำลังเผชิญในซีซั่นหน้า คราวเราจะได้เห็นกันแล้วว่าแท็คติกที่เคยใช้จะเปลี่ยนไป หรือยึดแนวทางเดิมกับสู้รบกับเหล่า เสือ สิงห์ กระทิง ทั้งหลาย

“กอมปานี” เพียงซีซั่นแรกพา “เบิร์นลี่ย์” ลุ้นสอยแชมป์

สถิติยอดเยี่ยม

สถิติที่น่าสนใจของ เบิร์นลี่ย์ ในเกมลีกซีซั่นนี้ต้องบอกว่าขึ้นชื่อลือชาทั้งเรื่องเกมรุกที่ดุดัน และเกมรับที่เหนียวแน่น จนกลายเป็นองค์ประกอบพาทีมบินสูงในฤดูกาลนี้

ปัจจุบัน เบิร์นลี่ย์ ทำประตูในศึก แชมเปี้ยนชิพ ไปได้แล้ว 76 ประตู มากที่สุดในลีก และมีค่าเฉลี่ยต่อเกมอยู่ที่ราว 2 ประตูต่อเกม ดาวซัลโวของทีมในตอนนี้คือ นาธาน เทลล่า ที่กระหน่ำไปแล้ว 17 ประตู รั้งอันดับ 3 ของลีกในตอนนี้ ส่วนจอมแอสซิสต์เป็นของ จอห์น บราวฮิลล์ ที่ทำไปแล้ว 8 ครั้ง

ส่วนทางฝั่งเกมรับพวกเขาเพิ่งไปเพียง 30 ตุง น้อยที่สุดของลีก พร้อมเก็บคลีนชีตมากถึง 17 เกม ด้วยกัน

แน่นอนว่าสถิติเหล่านี้มีโอกาสเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดของฤดูกาลได้เลย อีกทั้งมีสิทธิ์ทำคะแนนไปแตะๆ 100 แต้มได้เมื่อจบ 46 เกมลีก

ลุ้นแชมป์แรก

จากสถานการณ์ในตอนนี้ เบิร์นลี่ย์ นำเป็นจ่าฝูง เหนืออันดับ 2  อย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 11 คะแนน ซึ่งโอกาสคว้าแชมป์เรียกได้ว่าแบเบอร์มากเหลือเกิน

เพราะนอกจากจะต้องลุ้นให้พวกเขาพลาดแล้ว ทัพ “ดาบคู่” ที่เป็นผู้ตามก็ต้องไม่สะดุดไปด้วย ตามทฤษฎียังคงเป็นไปได้ แต่ในทางปฎิบัติต้องยอมรับเลยว่ายากมากจริงๆ

ซึ่งถ้าเป็นไปตามคาดการณ์ กอมปานี จะคว้าแชมป์แรกในบทบาทกุนซือทันที แม้จะไม่ใช่ถ้วยใหญ่ แต่คือนิมิตหมายอันดีในการเดินสายงานโค้ช และใช้ประสบการณ์ตรงนี้ต่อยอดในอนาคต

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline