logo-heading

ทำให้ สิงห์บลูส์ แพ้เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน และไม่ชนะใครมา 6 เกมติดแล้ว โดยแน่นอนหลังเกมนี้มีหลายประเด็นให้ปลงกัน ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราจะพามาเก็บหลังตกเกมนัดนี้กันครับ

โดน ไบรท์ตัน สอนบอล

โดน เอาท์คลาส, โดนสอนบอล, โดนข่ม เราสามารถหยิบคำเหล่านี้ทุกคำ มาอธิบายเกมการเล่นนัดเมื่อคืนที่ผ่านมาของ เชลซี ได้หมด เพราะพวกเขาทั้งหมดสภาพและหมดรูป ทำเอา ไบรท์ตัน ที่เก่งอยู่แล้ว ดูเก่งยิ่งขึ้นไปอีก

จนผู้คนเรียก ไบรท์ตัน ติดตลกที่ไม่ตลกว่า ‘ไบรท์ซ่า’ หรือว่าเล่นราวกับ บาร์ซ่า นั่นเอง เพราะทัพนกนางนวลทั้งต่อบอล, ทำชิ่ง และขึ้นเกมกันได้อย่างเนียนตา ชนิดที่เห็นได้เลย ว่าแม้ เชลซี จะนำก่อนจาก คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ก็ไม่ช่วยอะไร

เพราะลูกทีม แฟรงค์ แลมพาร์ด มาเล่นเสมือนรอโดนอยู่ตลอด และก็โดนจริง ๆ 2 เม็ดรวดจาก แดนนี่ เวลเบ็ค และ ฮูลิโอ เอนซิโซ่

และยิ่งมาดูสถิติหลังจบเกม คุณจะยิ่งตกใจ เพราะพบว่า ไบรท์ตัน สร้างโอกาสยิงได้ถึง 26 ครั้ง! ฟังไม่ผิดครับ 26 ครั้ง ขณะที่ เชลซี สร้างโอกาสยิงได้เพียง 8 และตรงกรอบแค่ 2 ครั้ง เล่นซะไม่แน่ใจว่าฝั่งไหนที่เป็นเจ้าบ้านกันแน่ ?

แลมพาร์ด คงไม่ไหวจริง ๆ

ซึ่งส่วนหนึ่งแน่นอนที่รูปเกมมันออกมาน่าอนาถขนาดนี้ ก็มาจากการวางแท็คติกที่ผิดพลาด หรือพลาดพลั้งด้วย เห็นได้ชัดว่าลูกทีมของ แลมพาร์ด มีการยืนตำแหน่งที่ค่อนข้างห่างกัน ไม่มีการทดแทน หรือความยืดหยุ่นในการวิ่งหาพื้นที่ว่างเพื่อมาเอาบอล จึงไม่แปลกที่จะต่อบอล-ทำเกมกันไม่ขึ้น

ส่วนเกมรับก็เพรสซิ่งไม่จน แถมทะลึ่งเอากลางรับที่มี 2 คนไปเพรสสูง งานนี้ไม่แปลกเมื่อกลางโบ๋ จึงทำให้กองหลังและผู้รักษาประตู เชลซี งานชุก ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับแนวรุก ไบรท์ตัน ไม่รู้กี่รอบ

ช็อตที่เราจะเห็นบ่อย ๆ คือ คาโอรุ มิโตมะ เลี้ยงหลบ เทร์วอห์ ชาโลบาห์ ราวกับกรวยสนาม เพราะ แลมพาร์ด ให้กลางไปยืนกันสูง จนไม่สามารถลงมาช่วยเกมรับได้ทัน

ต้องบอกว่าถ้า เกปา ไม่เซฟไปถึง 8 ครั้ง พวกเขาคงแพ้ไปมากกว่านี้แล้ว และก็ต้องบอกด้วยว่า 3 นัดในยุค แลมพาร์ด นอกจากจะแพ้ทุกนัดแล้ว ยังเล่นแย่ทุกนัดด้วย แถมดู ๆ ไปการเล่นจะแย่ลงยิ่งกว่ายุคกุนซือคนก่อนซะอีก

นักเตะก็แรงกระหายไม่มี

แต่จะโทษแค่โค้ชอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อดูการเล่นในสนามเราก็เห็นชัด ว่านักเตะหลาย ๆ คนเล่นราวกับไม่มีแรงกระหาย จะด้วยเรื่องที่แพ้มาติด ๆ ไม่ชนะใครบ่อย ๆ ยิงไม่ค่อยได้ หรือไม่มีลุ้นอะไรแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผล

อย่างน้อย ๆ พวกเขาควรจะเล่นกันให้มีแรงฮึดกว่านี้ เพื่อแฟนบอลที่มาเชียร์ หรือคนที่ติดตามผ่านจอถ่ายทอดสด จะว่าไปก็ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่า เชลซี ชุดนี้นั้น เคยถูกประเมินว่าเป็นทีมที่มีมูลค่าขุมกำลังนักเตะรวมกันสูงที่สุดในโลก เมื่อตอนหลังจบตลาดมกราคมที่ผ่านมา

คงต้องรอหาโค้ชที่ใช่สักคน เพื่อเข้ามากระตุ้น และทำให้นักเตะเหล่านี้มีศรัทธา และเสกความเชื่อมั่นให้กลับมาอีกครั้ง เพราะอย่างไรก็ดี นักเตะชุดนี้ของ สิงห์บลูส์ ก็เต็มไปด้วยแข้งหนุ่มอายุน้อยที่อัดแน่นไปด้วยศักยภาพ

อยากจะข้ามไปฤดูกาลหน้าโดยเร็ว

หลังจบเกมมีภาพ ท็อดด์ โบห์ลี่ เงยหน้าขึ้นไปเจอแฟนบอลบนอัฒจันทร์ด้านบนตะโกนบ่นใส่ ซึ่งแสดงถึงอารมณ์แฟน เชลซี หลังเป่านกหวีดหมดเวลาได้เป็นอย่างดี

แม้จะมีการทุ่มเงินอย่างหนัก ตั้งแต่ตลาดแรกที่พวกเขาเข้ามา แต่การตัดสินใจปลดโค้ชระดับท็อปยุโรป และตัดสินใจเอาโค้ชที่เพิ่งจะมีชื่อในอังกฤษ แต่ยังไม่เคยคุมทีมใหญ่เข้ามา จนทีมฟอร์มร่วงกราวกว่าเดิม

ก่อนจะแต่งตั้งตำนานและอดีตโค้ชของทีม ที่ไม่ได้มีประสบการณ์ที่ดีเท่าไหร่ในลีกสูงสุด มาขัดตาทัพ จนอะไร ๆ มันแย่ไปกว่าเก่า แถมการใช้จ่ายอย่างหนักในตลาดก่อน กลับส่งผลให้พวกเขาต้องหาขายนักเตะในตลาดหน้า เพื่อปรับบัญชีการเงินให้อยู่ในกฎ

เราจะเห็นได้ว่า การเป็นเจ้าของทีม คุณจะมีเงินแค่อย่างเดียวนั้นไม่พอ คุณจะต้องมีการคิด การตัดสินใจที่ฉลาดและสมเหตุสมผลด้วย ไม่แปลกที่แฟน เชลซี ส่วนใหญ่ตอนนี้จะปลง หวังอยากจะข้ามไปฤดูกาลหน้าแบบเร็ว ๆ แล้ว

ซึ่งเราคิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อย่างน้อย ๆ ฤดูกาลหน้า ได้โค้ชถาวรคนใหม่ ค่อย ๆ ทำทีม ยังไง ๆ มันก็คงไม่มีอะไรย่ำแย่ไปกว่าตอนนี้แล้วล่ะครับ.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline