ตลอดเส้นทางค้าแข้ง 10 ปีของผู้ชายที่ชื่อ "นาธาน อาเก้" กว่าจะมายืนอยู่ ณ จุดๆ นี้ต้องบอกเลยว่าไม่ง่ายเลยจริงๆ เขาเคยเป็นผู้เล่นที่หลายๆ คนหมางเมินไม่ได้อยู่ในสายตา แต่ตอนนี้เขากลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ที่กำลังล่าแชมป์ระดับประวัติศาสตร์
นับตั้งแตนั้นจนถึงตอนนี้ชีวิตของเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างไปติดตามเรื่องราวจากทางเรา "ขอบสนาม" ได้เลยครับผม
นาธาน อาเก้ เป็นเด็กปั้นที่โตมาจากอคาเดมี่ของสโมสรชั้นนำอย่าง เชลซี ได้โอกาสประเดิมสนามครั้งแรกในช่วงต้นปี 2013 แต่จากนั้นก็หายเงียบไปราวกับโดนลักพาตัว เพราะเจ้าตัวไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมได้ และด้วยความที่ตอนนั้นอายุยังน้อยเส้นทางส่วนใหญ่ที่ต้องเจอก็คือการเก็บข้าวของออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมอื่นๆ
หลังจากมีปีที่น่าจดจำกับ "แตนอาละวาด" ในฤดูกาล 2015-16 ซึ่งเป็นที่ๆ เขาได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรกในชีวิต ต่อมามันก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งกับการไปผจญภัยต่อกับ บอร์นมัธ โดยตัวของ นาธาน อาเก้ ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจึงไม่แปลกที่เขาจะได้ยืนเป็นแนวรับตัวจริงยาวๆ ภายใต้การคุมทีมของ เอดดี้ ฮาว
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ บอร์นมัธ จะยอมควักเงินจำนวน 20 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสถิติที่แพงสุดระดับสโมสรตอนนั้น เพื่อเซ็นสัญญาซื้อขาดกระชากตัว นาธาน อาเก้ มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 เพราะนี่คือนักเตะที่ เอดดี้ ฮาว มองว่า นี่แหละคือคนที่ใช่ นี่คือนักเตะที่มีความสามารถรอบด้าน และมีความเหมาะสมกับทีมเป็นอย่างยิ่ง
“นาธาน เป็นนักเตะที่อายุยังน้อยแต่กลับมีความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน มีทัศนคติที่ดี และมีความต้องการที่จะเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เขาจะมีอนาคตที่สดใสแน่นอน และผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบอกว่าอนาคตของเขาอยู่ที่นี่”
นาธาน อาเก้ ก็ตอบแทนความไว้ใจนั้นได้เป็นอย่างดีจากผลงานที่เกิดขึ้นในสนาม เขาได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงให้ บอร์นมัธ ในเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 38 นัดติดต่อกัน 2 ฤดูกาล ยิงได้ 6 ประตู และทำได้ 4 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมจบอันดับ 12 และอันดับ 14 ตามลำดับ สำเร็จเควสต์ภารกิจสำคัญนั่นคือการพาทีมยืนหยัดต่อไปบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก
หนึ่งในความพิเศษของชายที่ชื่อ นาธาน อาเก้ นั่นก็คือการเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ มีความยืดหยุ่นสูง เพราะนอกจากจะเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กได้แล้วพี่แกยังสามารถโยกไปยืนเป็นแบ็กซ้ายได้ดีอีกด้วย ถ้าย้อนเวลากลับไปตอนนั้นต้องบอกเลยว่าผู้เล่นกองหลังใน พรีเมียร์ลีก ที่ถนัดเท้าซ้าย และประจำการทางฝั่งซ้ายนั้นพวกตัวดีๆ จัดว่าหายากมากๆ แต่ทว่า นาธาน อาเก้ คือหนึ่งในนั้น
น่าเสียดายที่ท้ายที่สุด บอร์นมัธ ต้องพบกับชะตากรรมเลวร้ายต้องมาตกชั้นในฤดูกาล 2019-20 จากการจบอันดับที่ 18 ซึ่งหลายๆ เองก็ฝ่ายค่อนข้างมั่นใจว่าหนึ่งในสาเหตุสำคัญนั้นมาจากการที่ นาธาน อาเก้ มีอาการบาดเจ็บและปัญหาความฟิตอยู่บ่อยๆ ทำให้สถิติการเสียประตูในปีนั้นติดโผเป็นเบอร์ต้นๆ ของลีกเลยทีเดียว
ในช่วงเวลาที่ไม่น่าจำจดตอนนั้นมันก็ทำให้เราได้มองเห็นหลายๆ สิ่งในตัวผู้ชายคนนี้ เพราะจากอดีตที่เคยเป็นนักเตะที่ไม่มีใครเหลียวมองไปๆ มา นาธาน อาเก้ ได้กลายเป็นกองหลังที่เหล่าบรรดาทีมดังๆ ต้องการตัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็น เชลซี ทีมเก่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมไปถึง อาร์เซน่อล ก็ด้วย
แต่ในขณะเดียวก็ข้อครหาว่านักเตะอย่าง นาธาน อาเก้ นั้นเต็มที่ก็เป็นได้แค่คีย์แมนสำคัญของทีมเล็กๆ หรือไม่ก็ทีมกลางตารางเท่านั้น เขายังไม่ดีพอสำหรับการเล่นให้ทีมใหญ่ ดูอย่างช่วงที่เล่นให้ วัตฟอร์ด กับ บอร์นมัธ ภารกิจหลักๆ ก็คือช่วยให้ทีมหนีรอดตกชั้นให้ได้แค่นั้น
สุดท้ายแล้วก็เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ตัวเขาไปครองด้วยค่าตัว 41 ล้านปอนด์ และก็ว่ากันว่าที่ตัวของ นาธาน อาเก้ ตัดสินใจเลือกเดินเส้นทางที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม นั้นก็เป็นเพราะต้องการพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นพี่แกนั้นสามารถเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมระดับยักษ์ใหญ่ได้หลังจากเคยผิดหวังและล้มเหลวมาแล้วกับ เชลซี
แน่นอนว่าการค้าแข้งกับสโมสรระดับบิ๊กเนมอย่าง แมนฯ ซิตี้ สิ่งที่คุณต้องเจอก็คือความกดดันอย่างมหาศาล และการแก่งแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงที่ยากเย็นแสนเข็ญเมื่อในทีมที่มีผู้เล่นอย่าง รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, อายเมริค ลาปอร์กต์ รวมไปถึงหน้าใหม่อย่าง มานูเอล อาคานจี้
นาธาน อาเก้ ต้องเจอกับเส้นทางที่ยากลำบากอย่างที่ใครๆ คาดเอาไว้เพราะในปีแรกกับ แมนฯ ซิตี้ เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ 9 นัดเท่านั้น เช่นเดียวกับปีต่อมาสถานะของเขาก็ไม่ได้ต่างจากเดิม และเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็มีข่าวลือหนาหูว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้แจ้งกับตัว อาเก้ ด้วยเหมือนกันว่าสามารถเลือกย้ายทีมได้เลยเพราะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมสำหรับซีซั่นนี้
อย่างไรก็ตามด้วยความที่เขาเป็นคนที่มุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ดื้อไม่งอแงขอโอกาสลงสนาม และเมื่อใดที่โอกาสเข้ามาหา นาธาน อาเก้ ก็จะพร้อมอยู่เสมอ เขาไม่ได้ทำให้โค้ชผิดหวังเลยในจุดๆ นี้ และนั่นก็ทำให้เขาสามารถเอาชนะใจยอดกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ในที่สุด
นาธาน อาเก้ ได้โอกาสลงเล่นในฤดูกาล 2022-23 ไปแล้ว 36 นัด นับเป็นสถิติที่พอๆ กับ 2 ซีซั่นก่อนรวมกันเลยก็ว่าได้ และก็เป็นตัวจริงถึง 28 นัด กลายเป็นคีย์แมนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ชั่วโมงนี้คือสโมสรเดียวใน 5 ลีกดังยุโรปที่มีโอกาสลุ้น ทริปเปิ้ล แชมป์ แถมยังอยู่ในเส้นทางที่ดีในทุกรายการด้วย
ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ได้ ก็ต้องยอมรับล่ะครับว่า จุดเปลี่ยนสำคัญก็คือช่วงที่ อยู่ บอร์นมัธ ที่คอยหล่อหลอมให้เขากลายเป็นปราการหลังระดับ แชมเปี้ยน
HaMu Dos Santos