logo-heading

พูดถึงรางวัลอันทรงเกียรติอย่าง "บัลลงดอร์" แน่นอนว่านี่คือรางวัลที่นักฟุตบอลทุกคนต่างก็ใฝ่ฝันอยากจะได้สัมผัสกับมันสักครั้งในชีวิต เพราะนี่คือเครื่องยืนยันการันตีว่าคุณคือนักฟุตบอลที่ดีที่สุด

ในปี 2023 นี้ถ้าจะมองถึงตัวเต็งที่สุดแน่นอนว่าหลายๆ คนต่างก็มั่นใจไปในทิศทางเดียวกันว่า บัลลงดอร์ น่าจะไม่หลุดมือสุดยอดนักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ไปไหนจากการพา อาร์เจนติน่า เถลิงบัลลังก์แชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่เมื่อช่วงปลายที่ผ่านมา 

แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายๆ คนที่เชียร์และสนับสนุนให้เจ้าเด็กยักษ์ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นผู้คว้ารางวัลอันทรงเกียรติอย่าง บัลลงดอร์ ปีนี้เช่นกัน มันจะมีเหตุผลและความไปได้อย่างไรบ้างไปติดตามรายละเอียดจากทางเรา "ขอบสนาม" ได้เลยครับ

โอกาสที่ \"เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์\" จะปาดหน้า \"เมสซี่\" คว้า \"บัลลงดอร์\" ?

แน่นอนว่าหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของการให้คะแนนเผู้ท้าชิงรางวัล บัลลงดอร์ อันดับแรกเลยก็คือเรื่องของผลงาน และมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ นั้นคือผู้เล่นที่มีโปร์ไฟล์ที่ดีที่สุดและผลงานดีที่สุดในตอนนี้จากการระเบิดสกอร์ไปแบบกระจุยกะจายถึง 49 ประตู ทำ 8 แอสซิสต์จากการลงเล่น 43 เกม

บนสังเวียน พรีเมียร์ลีก ที่ได้ชื่อว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลกต่างก็เป็นด่านนรกของนักฟุตบอลฝีเท้าดีๆ หลายๆ คน บางคนต่อให้เก่งและโด่งดังมาจากไหน แต่ก็ต้องเจอชะตากรรมที่โหดร้ายราวกับตกนรกเมื่อได้ย้ายมาที่นี่ซึ่งตัวอย่างดีๆ ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ 

 แต่สำหรับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เขาไม่ได้ทำให้แฟนๆ รู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้นเลย สิ่งที่เขาพิสจน์ให้เห็นบนสนามเหมือนกับว่าโลดแล่นบนเวทีแห่งนี้มานานหลายปี แถมยังสร้างเรื่องราวมหัศจรรย์เอาไว้มากมายเช่นเดียวกับเรื่องของสถิติต่างๆ ที่นับวันก็เกิดขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ 

ฮาแลนด์ อาจจะได้คะแนนตรงจุดนี้มากที่สุดจากฟอร์มสุดร้อนแรงระดับ เอสเอส และสถิติการพังประตูที่ไม่มีใครโหดเทียบเขาได้เลยในปีนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยู่เหนือกว่า ลิโอเนล เมสซี่ แบบชัดเจน เพราะ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็ยังชื่อว่าเป็นคีย์แมนสำคัญของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตรฐานคงเส้นคงวาไม่มีตก และก็มีส่วนร่วมกับประตูมากถึง 39 ประตูโดยแบ่งเป็นยิง 20 ประตูและกดไป 19 แอสซิสต์

โอกาสที่ \"เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์\" จะปาดหน้า \"เมสซี่\" คว้า \"บัลลงดอร์\" ?

แน่นอนว่าหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของการให้คะแนนเผู้ท้าชิงรางวัล บัลลงดอร์ อันดับแรกเลยก็คือเรื่องของผลงาน และมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ นั้นคือผู้เล่นที่มีโปร์ไฟล์ที่ดีที่สุดและผลงานดีที่สุดในตอนนี้จากการระเบิดสกอร์ไปแบบกระจุยกะจายถึง 49 ประตู ทำ 8 แอสซิสต์จากการลงเล่น 43 เกม

บนสังเวียน พรีเมียร์ลีก ที่ได้ชื่อว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลกต่างก็เป็นด่านนรกของนักฟุตบอลฝีเท้าดีๆ หลายๆ คน บางคนต่อให้เก่งและโด่งดังมาจากไหน แต่ก็ต้องเจอชะตากรรมที่โหดร้ายราวกับตกนรกเมื่อได้ย้ายมาที่นี่ซึ่งตัวอย่างดีๆ ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ 

 แต่สำหรับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เขาไม่ได้ทำให้แฟนๆ รู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้นเลย สิ่งที่เขาพิสจน์ให้เห็นบนสนามเหมือนกับว่าโลดแล่นบนเวทีแห่งนี้มานานหลายปี แถมยังสร้างเรื่องราวมหัศจรรย์เอาไว้มากมายเช่นเดียวกับเรื่องของสถิติต่างๆ ที่นับวันก็เกิดขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ 

ฮาแลนด์ อาจจะได้คะแนนตรงจุดนี้มากที่สุดจากฟอร์มสุดร้อนแรงระดับ เอสเอส และสถิติการพังประตูที่ไม่มีใครโหดเทียบเขาได้เลยในปีนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยู่เหนือกว่า ลิโอเนล เมสซี่ แบบชัดเจน เพราะ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็ยังชื่อว่าเป็นคีย์แมนสำคัญของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตรฐานคงเส้นคงวาไม่มีตก และก็มีส่วนร่วมกับประตูมากถึง 39 ประตูโดยแบ่งเป็นยิง 20 ประตูและกดไป 19 แอสซิสต์

ถ้ามองกันในแง่ของความสำเร็จที่ ลิโอเนล เมสซี่ ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งแบบนอนมาว่าจะคว้า บัลลงดอร์ สมัยที่ 8 ในปีนี้ก็มาจากการประสบความสำเร็จที่พา อาร์เจนติน่า ซิวแชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่ที่ กาตาร์ และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังที่คว้าแชมป์ทุกรายการทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ

สำหรับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ถ้าพี่แกหวังจะคว้า บัลลงดอร์ ให้ได้ในปีนี้นี่คือจุดที่เสียเปรียบมากๆ เพราะ ทีมชาตินอร์เวย์ ไม่ผ่านรอบคัดเลือกและไปแสดงฝีมือบนเวทีใหญ่อย่าง ฟุตบอลโลก และนั่นจะทำให้เขาไม่ได้รับคะแนนโหวตจากตรงนี้เลยแม้แต่แต้มเดียว แต่มันก็ไม่ได้หมดหวังแบบสมบรูณ์แบบเพราะผลงานในระดับสโมสรอาจเป็นช่วยที่ดีของเขาเป็นได้

อย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังอยู่ในเส้นทางที่ดีต่อการลุ้นความสำเร็จทุกรายการไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก ที่ตามหลัง อาร์เซน่อล อยู่ 2 คะแนนแต่แข่งน้อยกว่า 2 นัด เช่นเดียวกับถ้วย เอฟเอ คัพ ก็ทะยานไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และเป้าหมายหลักอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว

ในขณะที่ เมสซี่ มีโอกาสคว้าแชมป์ระดับสโมสรแค่ ลีก เอิง ฝรั่งเศส กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่นั่นก็ไม่อาจดูมีอิมแพ็คมากนักเพราะนี่คือสโมสรที่การันตีแชมป์ทุกปีอยู่แล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่ดีของ ฮาแลนด์ ที่จะใช้ความสำเร็จระดับสโมสรเป็นคะแนนทดแทนเกมทีมชาติที่หายไปเพื่อสู้กับ เมสซี่

แน่นอนว่าผลงานแบบส่วนบุคคลไม่มีใครที่ดี เลิศเลอ เพอร์เฟค และถูกกล่าวขานไปมากกว่าเขาอีกแล้วในตอนนี้ ดังนั้นภารกิจใหญ่ที่ เออร์ลิ่ง ต้องพิชิตมันให้ได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นนั่นก็คือการพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ทั้งหมดนี้ให้ได้ พร้อมกับรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีแบบนี้ต่อไปจนสุดทาง

มันอาจจะฟังดูยิ่งใหญ่เมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ คว้าแชมป์โลกสมัยแรกในชีวิตกับ อาร์เจนติน่า และเป็นแชมป์โลกครั้งแรกในรอบ 34 ปีบนหน้าประวัติศาสตร์ของชาติ แต่ถ้า ฮาแลนด์ คว้า ทริปเปิ้ล แชมป์ กับ แมนฯ ซิตี้ มันก็จะเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาเช่นกันพร้อมกับจารึกว่าเป็นสโมสรที่ 2 ของอังกฤษที่สามารถทำได้บนหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อเป็นแบบนั้นบางที ลิโอเนล เมสซี่ อาจไม่ใช่ตัวเต็งแบบจ๋าๆ ที่จะคว้า บัลลงดอร์ ในปีนี้อีกต่อไป

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline