หลังเจ้าตัวทำ 1 ประตู ในเกมที่ เรือใบสีฟ้า เปิดบ้านถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 พร้อมทวงบัลลังค์จ่าฝูงกลับคืนมาอีกครั้ง
1 ประตู ที่ จอมมารบู ทำได้นั้น มันได้เกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ พร้อมกับประเด็นมากมายที่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะเรื่องยังมีสถิติให้เขาตามล่าอยู่ ไม่ใช่แค่ทริปเปิ้ลแชมป์ที่เขาและทีมโหยหาเท่านั้น จะมีอะไรบ้างมาติดตามกันได้เลยครับ
- ฮาแลนด์ รอทำลายสถิติ เชียเรอร์
ไม่รู้ว่าตอนนี้ ไฟแดง จะหยุด เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ได้หรือเปล่า เพราะผลงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันร้อนแรงเกินห้ามใจจริงๆ ก่อนหน้านี้ได้ทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดต่อซีซั่น ในระบบ 38 นัด ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หัวหอกแห่งค่าย ลิเวอร์พูล ที่เคยทำไว้ 32 ลูก ลงไปเรียบร้อย หลังซัดแซงหน้าไปถึง 34 ประตู ก่อนหน้าการแข่งขันกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จะเริ่มขึ้น
นั่นหมายความว่า จอมมารบู เหลืออีกเพียงแค่ลูกเดียว จะทำสถิติเป็นดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตลอดกาล นับเฉพาะแค่ 1 ซีซั่น แซงหน้า 2 นักเตะระดับตำนานของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เคยทำไว้ 34 ประตู ในยุคการแข่งขัน 42 นัด อย่าง แอนดี้ โคล สมัยค้าแข้งกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อซีซั่น 1993-94 และ อลัน เชียร์เรอร์ ยุค แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในฤดูกาล 1994-95
ซึ่ง ฮาแลนด์ ก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องคอยนาน เพราะนัดล่าสุด แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 ฮาแลนด์ สามารถใส่สกอร์ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายได้อีกครั้ง กลายเป็นว่า ฮาแลนด์ ได้จารึกชื่อตัวเองเป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 1 ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใน 1 ซีซั่น ที่จำนวน 35 ประตู เหนือเหล่าตำนานทั้งหมดทั้งมวล
ดังนั้นใครที่เคยปรามาสไว้ว่า ฮาแลนด์ เก่งแต่ลีกบอท ก็จงดูไว้ เพราะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ว่าโหดเหี้ยมที่สุด ยังยิงแบบไม่ไว้หน้า โดยแค่ฤดูกาลแรกกับ แมนฯ ซิตี้ ก็สร้างตำนานทำลายสถิติดาวซัลโวเรียบร้อย ทั้งๆที่ยังเหลือการแข่งขันอีกถึง 5 นัด มาลองดูกันว่า จอมมารบู จะยิงแตะหลัก 40 ประตูได้หรือไม่ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะทำได้ ซึ่งสถิติ 6 นัดหลังสุดในลีก พี่แกถลุงใส่คู่แข่งมาแล้ว 8 ตุง
- ฮาแลนด์ กับโอกาสแชมป์แรกในสีเสื้อ เรือใบสีฟ้า
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายจริงๆแล้ว โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือการแข่งขันอีก 5 นัด ซึ่งตอนนี้พูดได้เต็มปากแล้ว เดอะ ซิตี้เซ่น กำลังจะเข้าป้ายป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย เพราะแซงหน้า อาร์เซน่อล ขึ้นมาเป็นจ่าฝูง ด้วยการนำ 1 คะแนน และ ยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด
แน่นอนว่าคนที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของลีก ต้องมีชื่อ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ อยู่ในนั้น แทบไม่มีกองหลังทีมไหน หยุดความร้อนแรงของเขาได้เลย โดยนอกจากทำประตูเป็นสถิติ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้ว เขายังสามารถทำแอสซิสต์ให้เพื่อนซัลโวได้อีก 7 ครั้ง ในทีมเป็นรองแค่ เควิน เดอ บรอยน์ คนเดียวท่านั้น
ดังนั้นหากเอาสถิติการยิงประตูกับแอสซิสต์ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ทำไปแล้วสูงถึง 42 ลูก อยู่ที่ว่าท้ายที่สุดแล้ว มงจะลงที่เขากับ แมนฯ ซิตี้ หรือไม่ โดยอีก 5 นัดที่เหลือ ขอแค่ชนะทุกนัดก็จะเป็นแชมป์ทันที หรือถ้าพลาด ก็ยังสามารถสะดุดแพ้ได้ 1 เกม ด้วยซ้ำ ถ้าฟ้าไม่ผ่าลงกลางทีม บอกเลยว่า "โอกาสเสียแชมป์น้อยมาก"
- อีก 22 ประตู ทาบสถิติ เมสซี่
จะมีนักเตะกี่คนบนโลก ที่จะกล้าไปเทียบสถิติการทำประตูของ ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่า เพราะครั้งหนึ่ง "คิง เลโอ" เคยสร้างผลงานที่โคตรขึ้นหิ้ง ด้วยการซัดไป 73 ประตู จากการลงเล่น 60 นัด รวมทุกรายการ เมื่อซีซั่น 2011-12
ปัจจุบันคงมีเพียงแค่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบ เพราะสถิติการทำประตูของหัวหอกรายนี้ มันเหนือ "มนุษย์" ไปแล้ว โดยจากการทำ 1 ประตูใส่ เวสต์แฮม ทำให้ จอมมารบู มีผลงานยิงใส่คู่แข่ง 51 ลูก จากการลงเล่น 45 นัด รวมทุกรายการ
ถึงแม้ว่า ฮาแลนด์ จะต้องทำอีก 22 ประตู เพื่อเทียบเท่าสถิติของ เมสซี่ ซึ่งมันดูห่างไกลมาก แต่ ฮาแลนด์ ยังมีสิทธิ์บวกประตูได้เรื่อยๆ โดยจะมีเกมการแข่งขันให้เล่นอีก 8 นัด เป็นอย่างน้อย แบ่งเป็น พรีเมียร์ลีก 5 นัด, เกมชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ 1 นัด และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะพบกับ เรอัล มาดริด ในรอบรองชนะเลิศ 2 เกม
มันจึงน่าติดตามว่าท้ายที่สุดแล้ว ฮาแลนด์ จะถีบส่งตัวเองได้ดีมากขนาดไหน จริงอยู่ที่การทาบสถิติ เมสซี่ ยังห่างไกล แต่ถ้า ฮาแลนด์ มีส่วนสำคัญทำให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในซีซั่นนี้ล่ะก็ บางทีการทำประตูมันอาจเป็นอีก 1 ตัวชี้วัด ในการมาลุ้นต่อสู้ บัลลง ดอร์ ปีนี้ กับ เมสซี่ ก็เป็นได้
ฮาย ฮาวดี้