logo-heading

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ สาลิกาดง หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเพราะเกมรับของพวกเขาที่แข็งแกร่ง ที่ทำให้ก้าวมาถึงการติดอันดับท็อปโฟร์ หลังจากเสียไปเพียง 27 ประตู จากการลงเล่น 33 นัด  แต่กระนั้น เอ็ดดี้ ฮาว หล่อหลอมให้เล่นกันแบบทีมเวิร์ค เพราะ นิวคาสเซิ่ล ก็เป็นหนึ่งในสโมสร ที่มีเกมรุกดุดันมากที่สุดของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เช่นกัน

และ หลังจากที่ นิวคาสเซิ่ล พลิกกลับมาแซงถล่มเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 พวกเขามีสถิติเกมรุกอะไรให้ต้องพูดถึงบ้าง มาติดตามกันครับ

- ยิงเยอะที่สุดเป็นติดท็อปของลีก

ย้อนกลับไป 5 ซีซั่นหลังสุด นิวคาสเซิ่ล มีผลงานรั้งอยู่ในอันดับโซนครึ่งล่างของฤดูกาลเท่านั้น ไม่เคยจบอันดับสูงกว่าที่ 10 เลยด้วยซ้ำ โดยมีค่าเฉลี่ยในการทำประตูอยู่ที่ 38-44 ประตู เท่านั้น มากที่สุดที่ทำได้คือซีซั่น 2020-21 ทำไปอยู่ที่ 46 ลูก 

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเกมรุกของ นิวคาสเซิ่ล ดุดันไม่เกรงใจ โดยยิงไปแล้ว 61 ประตู จากการลงเล่น 33 นัด มากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของลีก เป็นรองเพียงแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ไบรท์ตัน เท่านั้น มากกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เชลซี ด้วยซ้ำ

61 ประตูที่ นิวคาสเซิ่ล ทำได้แบ่งเป็นการยิงที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค 32 ประตู และ นอกบ้านอีก 29 ลูก เรียกว่าตึงมือทั้งการเล่นในบ้าน หรือ ออกไปเยือนคู่แข่ง โดยจากสถิติการซัลโวแบบถล่มทลาย เป็นการทำประตูแตะหลัก 60 ตุง ได้เป็นครั้ง นับตั้งแต่ซีซั่น 2002-23 คิดง่ายๆก็ 20 ปีผ่านมาแล้ว ซึ่งฤดูกาลนั้น สาลิกาดง จบเป็นอันดับ 3 ของลีก พร้อมโควต้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ

- กองหน้า สาลิกาดง ร้อนแรงเกินห้ามใจ

ถึงแม้ว่า นิวคาสเซิ่ล จะยังไม่ได้ซื้อนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์มาประดับทีม แต่กระนั้นตัวผู้เล่นที่พวกเขาดึงมาร่วมทีม ก็อยู่ในระดับ B+ ที่กำลังโชว์ผลงานขึ้นเป็นเกรด A ในเร็ววัน โดยเฉพาะการได้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค หัวหอกทีมชาติสวีเดน เข้ามาเป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญในแผงแดนหน้า

อิซัค ย้ายจาก เรอัล โซเซียดาด มาอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ได้ยังไม่ถึง 1 ซีซั่นเต็ม แต่มีอิทธิพลกับเกมรุกของทีมเป็นอย่างมาก โดย 17 นัดที่เขาได้ลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ เขาซัลโวใส่คู่แข่งไปมากถึง 10 ประตู ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งซัดใส่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มา 2 ตุงด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม คนที่ร้อนแรงกว่า อิซัค ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หัวหอกเพื่อนร่วมทีมอย่าง คัลลั่ม วิลสัน ที่ตอนนี้นำเป็นดาวซัลโวของทีม หลังยิงไปแล้ว 15 ประตู นับเป็นนักเตะ สาลิกาดง คนแรก ที่ยิงได้ถึง 15 ลูก นับตั้งแต่ เดมบ้า บา ทำได้ เมื่อซีซั่น 2011-12 

และ ล่าสุด คัลลั่ม วิลล่า ก็สมบทฮีโร่ ลงสนามเป็นตัวสำรอง โชว์ซูเปอร์ซัพ ยิง 2 ลูก ช่วยให้ นิวคาสเซิ่ล พลิกกลับมาแซงเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 เท่ากับว่าตลอดเดือนเมษายน ที่ผ่านมา หัวหอกรายนี้กดไปแล้ว 8 ประตู มากที่สุดตลอดกาลของสโมสร นับเฉพาะปฏิทิน 1 เดือน ทำลายสถิติ อลัน เชียเรอร์ ที่เคยทำไว้ 7 ลูก เมื่อเดือนกันยายน 1999

ส่วนอีกคนที่ผลงานก้าวกระโดดแบบผิดหูผิดตา นั่นก็คือ มิเกล อัลมิร่อน นักเตะที่เคยโดน แจ็ค กรีลิช เอาไปล้อเลียนตอนฉลองแชมป์ซีซั่นก่อน แต่ตอนนี้ อัลมิร่อน คนนั้นได้ตายจากไปแล้ว เพราะ อัลมิร่อน คนใหม่ไฉไลกว่าเดิม โดยยิงให้กับ นิวคาสเซิ่ล ในเกมลีกซีซั่นนี้ไปแล้ว 11 ประตู ทั้งๆที่ 3 ฤดูกาลก่อน ยิงรวมกันได้แค่ 9 ลูก เท่านั้น

เมื่อเอา 3 ตัวรุกของ นิวคาสเซิ่ล มารวมกัน ก็มากถึง 36 ประตู ไหนจะมี โจลิงตัน, จาค็อบ เมอร์ฟี่ย์ หรือ โจ วิลล็อค ที่ก็ช่วยทำประตูคนละไม้คนละมือให้กับทีม แต่ต้องไม่ลืม อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง แนวรุกตัวจี๊ด ที่เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ เพราะเขาเป็นคนสร้างความอันตรายในหลายๆช็อตจริงๆ

- มีถึง 7 เกม ที่ นิวคาสเซิ่ล
ยิงคู่แข่ง 4 ประตู หรือ มากกว่า

61 ประตู ที่ นิวคาสเซิ่ล ทำได้นั้น ไม่ได้มาเพราะดวง หรือ โชคช่วย แต่เป็นฝีเท้าล้วนๆ โดย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ มีมากถึง 7 เกม ที่สโมสร นิวคาสเซิ่ล กระซวกไส้คู่แข่งได้แตะหลัก 4 ประตูขึ้นไป 

เอาแค่เดือนเมษายน ที่ผ่านมา นิวคาสเซิ่ล ก็โชว์ความโหดเหี้ยม ด้วยการยิงคู่แข่งรวมไปทั้งสิ้น 22 ประตู โดยมีถึง 3 เกมที่ขุนพล สาลิกาดง ยิงคู่แข่ง 4 ประตูขึ้นไป เริ่มจากการบุกไปถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ถึงถิ่น ด้วยสกอร์ 5-1 จากนั้นก็เปิดบ้านถลุงตูด ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คู่แข่งแย่งท็อปโฟร์ แบบเอาท์คลาส 6-1

ก่อนจะโชว์ให้เห็นถึงความต่างระหว่างทีมหัวตาราง กับ ทีมหนีตกชั้น หลังบุกไปเยือน กูดิสัน พาร์ค รังเหย้า เอฟเวอร์ตัน พร้อมกับยัดเยียดความปราชัยให้เจ้าบ้าน ด้วยการถล่มแบบเละเทะ 4-1

สุดท้ายนี้ การแข่งขันของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เหลืออีกเพียงแค่ 5 นัด ต้องมารอดูกันว่าจะสามารถจบอันดับท็อป 4 ได้หรือไม่ และ การทำประตูของ สาลิกาดง จะไปจบลงที่เท่าไหร่ ไม่แน่ว่าอาจไปแตะหลัก 70 ประตู ซึ่งซีซั่น 2001-02 เคยทำไว้ที่ 74 ลูก โดยเป็นเป้าหมายที่พวกเข้าจะทำสำเร็จหรือเปล่า

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline