logo-heading

ทีมที่เป็นยักษ์ใหญ่ ทีมที่เป็นตัวเต็งว่าต้องแชมป์แน่ๆ ก็เคยโดนทีมเล็กๆ รุ่นใหม่ไฟแรง "ล้มบ้านยักษ์" มาแล้ว ดังนั้น ขอบสนาม จะขอยกตัวอย่าง 5 สโมสร ที่เคยสร้างปาฏิหาริย์หักปากกาเซียน เอาชนะทีมชั้นนำคว้าแชมป์ไปครอง

5. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ย้อนรอย 5 ทีม สร้างปรากฏการณ์ "ล้มบ้านใหญ่"

หลายคนรู้จัก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดีอยู่แล้ว พวกเขาเป็นทีมชั้นนำในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้ลุ้นแชมป์อยู่ทุกซีซั่น แต่ก็ไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันได้สักที เนื่องจากโดน บาเยิร์น มิวนิค ขวางคออยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นถ้าย้อนกลับไปสัก  20 ปีก่อน ขุนพล เสือเหลือง แทบไม่ได้ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์ลีกมาครองเลยด้วยซ้ำ

ตั้งแต่ปี 2003 จนถึงปี 2010 ดอร์ทมุนด์ พวกเขาจบอันดับ 3 ได้เพียงครั้งเดียว ที่เหลือหลุดออกทะเลไปไกล โดยเฉพาะซีซั่น 2007-08 ที่ร่วงไปอยู่อันดับ 13 ของตารางเลยทีเดียว ดังนั้นการโค่นล้มอำนาจ บาเยิร์น มิวนิค เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเหลือเกิน 

เพราะในระหว่างนั้น บาเยิร์น คว้าไป 5 สมัย พร้อมมีตัวทอดแทรกอย่าง สตุ๊ตการ์ท หรือ โวล์ฟสบวร์ก ที่ทะลุขึ้นมาคว้าแชมป์ได้

ต่อให้ตอนนั้น เสือเหลือง จะนำ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาเป็นกุนซือใหญ่ แต่ 2 ปีแรก ในฤดูกาล 2008-09 ก็ยังจบอันดับ 6 และ ฤดูกาล 2009-10 ก็ยังจบอยู่ที่อันดับ 5 เรื่องอำนาจเงินก็ไม่ได้มีมากมายมหาศาลไปสู้กับทางฝั่ง บาเยิร์น อยู่แล้ว

กระทั่ง ปรากฏการณ์ “ล้มบ้านใหญ่” ก็กำเนิดขึ้นเมื่อ ฤดูกาล 2010-11 คล็อปป์ ได้หล่อหลอมรวมทีม ดอร์ทมุนด์ มาแล้ว 2 ปี สร้างทีมขึ้นมาต่อกร คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้แบบที่ไม่มีใครคาดคิด ปั้นนักเตะเกรดรอง มาเป็นตัวท็อปยุโรป สามารถเบียด บาเยิร์น ตกบัลลังค์ ยิ่งไปกว่านั้น คือการป้องกันแชมป์ได้ด้วยในซีซั่นถัดมา

4. แรนส์

ย้อนรอย 5 ทีม สร้างปรากฏการณ์ "ล้มบ้านใหญ่"

ถ้าเป็นวงการลูกหนังแดนน้ำหอม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คือยักษ์ใหญ่ครองเมือง กวาดแชมป์มาแล้วทุกสถาบัน ไม่ว่าจะเป็น ลีก เอิง ฝรั่งเศส, เฟร้นช์ คัพ หรือ เฟร้นช์ ลีก คัพ เรียกว่าผลงานในประเทศยากที่จะมีใครมาล้มยักษ์

เหมือนดั่งปี 2019 .. เปแอสเช ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เฟร้นช์ คัพ ได้ตามเป้าหมาย โดยพบกับ แรนส์ ทีมระดับกลางจาก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ซึ่งดูแล้วยังไงเจ้าพ่อลูกหนังฝรั่งเศส ก็เหนือกว่า เพราะขณะนั้น ปารีส ก็เข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกไปแล้ว ทำแต้มทิ้งห่าง ลีลล์ อันดับ 2 ถึง 16 คะแนน ด้วยกัน

เกมวันนั้น ปารีส ออกสตาร์ทด้วยผลงานอันร้อนแรง ออกนำ แรนส์ ไปถึง 2-0 จาก ดานี่ อัลเวส นาที 13 และ เนย์มาร์ นาทีที่ 21 เรียกว่ามงใกล้ลงแบบเต็มแก่ ไม่น่ามีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับ แรนส์ อีกแล้ว หลังเคยปราบ ลีลล์ และ โอลิมปิก ลียง ในรอบที่ผ่านมาได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อ แรนส์ สู้ตายแบบถวายหัว กลับมาตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ พร้อมรักษาสกอร์ ยืดเยื้อไปจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งตอนนั้นนักเตะ ปารีส เริ่มหงุดหงิดแล้ว อะไรๆก็ดูไม่เป็นใจ โดย คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ถึงขั้นโดนใบแดงไล่ออกไปด้วยช่วงท้ายเกม ทำให้ไม่มีชื่อยิงในช่วงฎีกาจุดโทษ

และ มันก็มีเหตุการณ์ล็อคถล่มเกิดขึ้น เพราะ ท้ายที่สุด แรนส์ ยิงจุดโทษได้แม่นยำกว่า พลิกนรกเอาชนะไปได้ 6-5 ผงาดคว้าแชมป์ เฟร้นช์ คัพ มาครองอย่างยิ่งใหญ่ เป็นแชมป์สมัยที่ 3 ในรอบ 48 ปีของสโมสร เลยทีเดียว

3.  วีแกน แอธเลติค

ย้อนรอย 5 ทีม สร้างปรากฏการณ์ "ล้มบ้านใหญ่"

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ในการแข่งขัน เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 2013 เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟาดแข้งกับ วีแกน แอธเลติค ซึ่งเป็นการพบกันของทีมรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทีมที่กระเด็นตกชั้นลงไปสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ แล้ว

เรือใบสีฟ้า มีแข้งชั้นยอด โลดแล่นอยู่เต็มทีม ไม่ว่าจะเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ และ แว็งซ็องต์ ก็องปานี เป็นต้น ผิดกับ วีแกน ที่ไม่ได้เด่นดัง พอจะคุ้นหูหน่อย ก็พวก เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, อารูน่า โคเน่ หรือ ฌอน มาลูนี่ ไม่มีอะไรไปเทียบได้เลย

อย่างไรก็ตาม เอฟเอ คัพ ขึ้นชื่อเรื่อง "แจ็คผู้ฆ่ายักษ์" อยู่แล้ว .. วีแกน สู้แบบยิบตา ไม่ได้ทำให้เห็นเลยว่าพวกเขาเป็นรองแบบสุดกู่ .. วีแกน สู้ได้แบบสมศักดิ์ศรี มีโอกาสที่จะน็อค แมนฯ ซิตี้ ได้หลายครั้งเช่นกัน ที่สำคัญก็ยันเสมอกับ เรือใบสีฟ้า ให้สกอร์มันยัง 0-0 อยู่ได้

และ ปาฏิหาริย์ที่กลายเป็นที่โจทย์จันท์กันมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ลูกหนังแดนผู้ดี เมื่อ วีแกน มาได้ประตูชัยจากลูกโขกของ เบน วัตสัน ในนาทีที่ 88 แทบไม่มีเวลาให้ แมนฯ ซิตี้ ได้แก้ตัวอีกแล้ว สุดท้าย วีแกน คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองเป็นสมัยแรกได้สำเร็จ

2. ลีลล์

ย้อนรอย 5 ทีม สร้างปรากฏการณ์ "ล้มบ้านใหญ่"

บรรดาทำเนียบทีมแชมป์ 5 ลีกใหญ่ยุโรป "ลีลล์" เป็นอีกหนึ่งสโมสร ที่สร้างเซอร์ไพรส์ได้มากที่สุดเช่นกัน เพราะเตลอดทศวรรษที่ผ่านมา "ปารีส แซงต์ แชร์กแมง คือเจ้าพ่อครองเมือง แทบจะกวาดแชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส มาครองแต่เพียงผู้เดียว มีแค่ โมนาโก สอดแทรกขึ้นมาล้มบัลลังค์

ด้วยสถานะการเงินที่มันต่างกันราวฟ้ากับเหว ยิ่งมองไม่เห็นหนทางที่ ลีลล์ จะมาล้ม ปารีส ได้เลย เพราะ เปแอสเช ทุ่มเงินซื้อ เนย์มาร์ เป็นสถิติโลก ไหนจะดึง คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ เข้ามาอีก ช่างสวนทางกับ ลีลล์ ที่เกือบถูกปรับตกชั้น จากปัญหาทางการเงิน ติดหนี้มหาศาลกว่า 200 ล้านยูโร ดังนั้นการขายนักเตะ คือหนทางเอาตัวรอด

อย่างไรก็ตาม "แสงสุดท้าย" อันริบหรี่ พลิกชีวิตกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่แบบเหลือเชื่อ ซึ่งคนที่ทำให้ ลีลล์ ฟื้นจากความตาย ต้องให้เครดิตกับ คริสตอฟ กัลตีเย ซึ่งภารกิจของเขาไม่ใช่แย่งแชมป์ แค่ขอแค่ประคองตัวไม่ตกชั้นก็เพียงพอ เพื่อจะได้มีเงินคำเจือจูนสโมสรต่อไป

กัลตีเย่ ทำได้สำเร็จ คือทำให้ ลีลล์ ไม่ต้องตกชั้น ทั้งๆที่มีข้อห้ามมากมาย โดยเฉพาะการโดนแบนห้ามซื้อนักเตะเข้ามาสู่ทีม แต่เขาก็ไม่เคยอยากได้ซูเปอร์สตาร์ ใครทำเงินได้ ก็พร้อมขายออกจากทีม ขอทำงานก็คนที่พร้อมสู้เพื่อสโมสรเท่านั้น

สุดท้าย เรื่องราวกระฉ่อนก็เกิดขึ้น ในฤดูกาล 2020-21 เพราะ ลีลล์ ได้ทำการล้มยักษ์ คว้าแชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส มาครอง ด้วยการเอาชนะ ปารีส แบบเฉือนๆแค่ 1 คะแนน เท่านั้น ซึ่งนักเตะแกนหลักชุดนั้น ก็มีทั้ง บูรัค ยิลมาซ, ไมค์ เมญอง, สเวน บอทแมน หรือ เรนาโต้ ซานเชส เป็นต้น

1. เลสเตอร์ ซิตี้ 

ย้อนรอย 5 ทีม สร้างปรากฏการณ์ "ล้มบ้านใหญ่"

นี่คือเหตุการณ์ที่ล้มยักษ์ ที่เป็นปรากฏการณ์มากที่สุดแห่งโลกลูกหนัง เพราะใครจะคาดคิดล่ะว่า เลสเตอร์ จะสร้างปาฏิหาริย์ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อซีซั่น 2015-16 ทั้งๆที่ พรีเมียร์ลีก เต็มไปด้วยยอดทีมชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซน่อล หรือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

เลสเตอร์ ไม่มีทีท่าว่าจะคว้าแชมป์เลยสักนิด โปรไฟล์นักเตะก็ไม่ได้มีชื่อชั้นเกรด A หลายๆคนอยู่ในขั้นเกรด C เลยด้วยซ้ำ เรียกว่า โนเนมไม่ค่อยมีใครรู้จัก ถึงขั้นที่บ่อนพนันถูกกฎหมายทางฝั่งอังกฤษ เปิดราคา 5,000/1 (หรือ แทง 1 จ่าย 5,000 ไม่รวมทุน) 

อย่างไรก็ตาม เลสเตอร์ สร้างอภินิหารวันแล้ววันเล่า พวกเขาหักปากกาเซียน ด้วยการผงาดขึ้นมาเกาะกลุ่มหัวตาราง พร้อมกับทวงจ่าฝูงคืนมา และ นำเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่แมตช์วีคที่ 22 .. นักเตะโนเนมหลายๆคน ฟอร์มพุ่งพรวด กลายมาเป็นแข้งชั้นยอดที่แฟนบอลต้องจดจำและจับตามอง

อาทิ เจมี่ วาร์ดี้ ทำสถิติยิงประตูติดต่อกัน 11 นัดรวดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ริยาด มาห์เรซ กลายเป็นปีกตัวจี๊ดที่สร้างความปั่นป่วนให้แนวรุก และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นหนึ่งในมิดฟิลตัวตัดเกมที่ดีที่สุดในโลก วิ่ง 8 ปอด ไม่มีหมด

จากที่เคยถูกค่อนขอดว่า เป็นช้างขึ้นต้นไม้ เดี๋ยวพอถึงช่วงหนึ่งก็ตกลงมา แต่ เลสเตอร์ ไม่เป็นแบบนั้น พวกเขาสามารถล้มยักษ์ ด้วยการวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 เอาชนะทีมชั้นนำได้แบบปาฏิหาริย์ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งๆที่ จิ้งจอกสีน้ำเงิน เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาแค่ 2 ซีซั่น เท่านั้น

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline