logo-heading

พร้อมคว้าแชมป์ "ถ้วยกลาง" แห่งยุโรป สมัยที่ 7 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

เกมนี้ เซบีย่า เป็นฝ่ายตามหลัง โรม่า ไปก่อน 0-1 แต่ก็กลับมาตีเสมอได้ 1-1 ซึ่งระหว่างการแข่งขัน มีหลายสิ่งหลายอย่างให้พูดถึง จะมีประเด็นอะไรเกิดขึ้น หลังจาก เซบีย่า คว้าแชมป์ไปครองกันบ้าง มาติดตามกันเลยครับ

- เซบีย่า เจ้าพ่อ ยูโรปา ลีก

ถ้วย ยูโรปา ลีก ไม่มีใครจะยิ่งใหญ่ครองเมือง มากไปกว่า เซบีย่า อีกแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นกุนซือคนใดที่พาทีมเข้าสู่รองชิงชนะเลิศ ก็สามารถคว้าแชมป์มานอนกอดได้ทุกครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้ ที่กุมบังเหียนโดย โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงพาทีมไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากสโมสรเคยห่างจากโซนตกชั้นแค่ 2 แต้ม

การดวลจุดโทษเอาชนะ โรม่า ได้นั้น ส่งผลให้ เซบีย่า รักษาสถิติเข้าชิงชนะเลิศ 7 ครั้ง ในรายการ ยูโรปา ลีก สามารถคว้าแชมป์ได้ทั้ง 7 ครั้ง เป็นสถิติ 100 เปอร์เซ็นต์  ไม่เคยมีทีมไหนในโลกทำได้มาก่อน รวมถึง 10 ปีหลังสุด ในการแข่งขันรายนี้ เซบีย่า สามารถสลักชื่อทีมตัวเอง ลงไปบนโทรฟี่ได้ถึง 5 สมัย

และ จากการเป็นแชมป์ ยูโรปา ลีก ซีซั่นนี้ ทำให้ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ กลายเป็นกุนซือที่อายุเยอะที่สุดในการคว้าแชมป์รายการนี้ ด้วยวัย 62 ปี และ เป็นเพียงโทรฟี่ใบที่สอง ในชีวิตเฮดโค้ชของเขา หลังเคยเป็นแชมป์ เซกุนด้า มา 1 ครั้ง สมัยคุม เรอัล บายาโดลิด

ที่สำคัญ เซบีย่า ซึ่งจบอันดับ 11 ในการแข่งขัน ลา ลีกา สเปน ถือว่าได้โควต้าทางลัด คว้าสิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าทันที และ ไม่ใช่แค่เข้าไปอยู่ในรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น แต่พวกเขาจะถูกจัดอยู่ในโถ 1 ตอนจับสลากเลยทีเดียว

- มูรินโญ่ เสียสถิติคุมทีมนัดชิงชนะเลิศ 

โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นหนึ่งในกุนซือที่ประสบความสำเร็จบนเวทีลูกหนัง โดยมีสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ เวลาคุมทีมลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศถ้วยยุโรป พร้อมกับถือครองเป็นโค้ชคนแรกของโลก ที่คว้าแชมป์ยุโรปได้ทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คัพ (เดิม) และ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก

แต่จากการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศกับ เซบีย่า มันต้องมีใครคนใดคนนึงถูกหยุดสถิติ เพราะทีมนึงเข้าชิง ยูโรปา ลีก ไม่เคยแพ้ ขณะที่ น้ามู คุมทีมนัดชิงเกมยุโรป ก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน และ สุดท้ายก็เป็น "เดอะ สเปเชี่ยล วัน" ที่ถูกหยุดสถิติชนะทุกครั้ง นับเป็นครั้งแรกที่จบเกมการแข่งขัน แล้วเขาต้องเดินขึ้นโพเดี้ยม ในฐานะรองแชมป์

เท่ากับว่าซีซั่นนี้ของ มูรินโญ่ และ อาแอส โรม่า ต้องจบลงแบบมือเปล่า ไม่มีแชมป์มานอนกอด โดยผลงานในลีกก็จบเพียงแค่อันดับ 6 เท่านั้น ไม่ติดโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สิทธิ์ไปเล่น ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า เท่านั้น

- การตัดสินของ แอนโธนี่ เทย์เลอร์

แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินเบอร์ต้นๆของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อว่าแฟนบอลรู้จักชื่อเสียงเรียงนามเป็นอย่างดี แต่เป็นด้านบวก หรือ ด้านลบ อันนี้ไม่อาจทราบได้ ทว่าในเกมนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง เซบีย่า กับ โรม่า .. โชเซ่ มูรินโญ่ คงไม่ค่อยชอบขี้หน้ากรรมการรายนี้ มากสักเท่าไหร่

เนื่องจากมีหลายๆช็อต หลายๆเหตุการณ์ ที่ตัดสินแบบค้านสายตา อารมณ์ประมาณว่า "มึงเป่า อิหยังวะ ?" .. โดนทั้งนักเตะ และ มูรินโญ่ ตะคอกด่า จนหูชา นั่นก็เพราะจารย์เทย์เลอร์ เป่าได้ท็อปฟอร์มเหลือเกิน

ตลอด 120 นาที จะรีวิว แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ให้แบบสั้นๆได้ใจความ ก็คือ แจกเหลืองไปทั่ว อารมณ์เหมือนกับน้าศรี ที่ร้องเรียนไปทั่ว เพราะบางจังหวะที่ เซบีย่า ทำฟาวล์ ก็ไปแจกใบเหลืองให้กับนักเตะ โรม่า .. มีช็อตที่ โรม่า ควรได้จุดโทษ จากช็อตแฮนด์บอล แต่ก็ไม่เป่า แถมไม่ดู VAR อีกต่างหาก ส่วนช็อตที่เป่าจุดโทษให้ เซบีย่า ก็โดน VAR ทักท้วง ก่อนจะกลับคำตัดสิน ไม่ให้เป็นลูกได้ฟาวล์

หลังจบเกม "มูรินโญ่" ขอจัดหนักใส่ จารย์เทย์เลอร์ ว่าเหมือนเป็นผู้ตัดสินจากสเปน ปลอมตัวมา "มันเป็นเกมที่เข้มข้น, ดุเดือด และ น่าตื่นเต้น ซึ่งตัดสินโดยกรรมการที่ดูเหมือนเป็นชาวสเปน, เขาแจกใบเหลืองแล้วใบเหลืองอีกตลอดทุกเวลา และ ความไม่ยุติธรรมก็เกิดขึ้น เพราะ เอริค ลาเมล่า ควรโดนใบเหลืองที่สอง แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น"

"ไหนจะมีเรื่องที่ ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ โดนใบเหลืองข้อหาพุ่งล้ม แต่พอ ลูคัส โอคัมโปส นักเตะ เซบีย่า พุ่งล้มบ้าง แต่กลับไม่โดนใบเหลืองอะไรเลย ผมหวังว่าต่อไป แอนโธนี่ เทย์เลอร์ จะตัดสินแค่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้น ผมจะได้ไม่เจอเรื่องไร้สาระแบบเกมในคืนนี้อีก" 

- สถิติของนักเตะ หลังจบการแข่งขัน

หลังจากการคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ในค่ำคืนที่ผ่านมา มีสถิติอันยอดเยี่ยมของนักเตะ เซบีย่า ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เริ่มจาก ยาสซีน บูนู นายทวารมือ 1 ของทีม เพราะเขาเป็นคีย์แมนสำคัญในการทำให้ทีมเอาชนะ โรม่า เพราะนอกจากเซฟในเกมแล้ว ยังเซฟจุดโทษได้ถึง 2 ลูก ก่อนจะคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง

ต่อมา เฆซุส นาบาส นักเตะตัวเก๋าของ เซบีย่า ได้เพิ่มสถิติให้กับตัวเองในการคว้าแชมป์รายการนี้ เป็น 4 ครั้งเข้าไปแล้ว แบ่งเป็น ยูฟ่า คัพ ชื่อเดิม 2 สมัย และ ยูโรปา ลีก อีก 2 สมัย ซึ่งครั้งแรกที่เขาทำได้คือปี 2006 โดยเป็นรองเพียงแค่ โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส เพียงคนเดียว ที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้ 5 สมัย

ขณะที่ อีกหนึ่งเรื่อง ที่อาจเป็นเรื่องบังเอิญ นั่นคือคนยิงจุดโทษคนสุดท้ายของ เซบีย่า กอนซาโล่ มอนเทียล ซึ่งตอนแรกยิงไม่เข้า แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่ เนื่องจาก รุย ปาตริซิโอ ขยับเท้าออกจากเส้นมาก่อน และคราวนี้ มอนเทียล ยิงไม่พลาด ส่งให้ เซบีย่า คว้าแชมป์ทันที ซึ่ง มอนเทียล นี่แหละครับ เคยเป็นคนยิงจุดโทษคนสุดท้าย พาทีมชาติอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 มาแล้ว 

ส่วน โรม่า ถึงแม้จะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ก็ยังพอมีสถิติให้พูดถึงเล็กน้อย นั่นคือ เปาโล ดีบาล่า แนวรุกทีมชาติอาร์เจนติน่า ผู้ทำประตูขึ้นนำให้กับทีม ได้เป็นรองดาวซัลโวของรายการนี้อยู่ที่ 5 ประตู ด้วยกัน

และ นี่คือบทสรุปสถิติเล็กๆน้อย ในการคว้าแชมป์ของ เซบีย่า ที่สามารถดวลจุดโทษเอาชนะ โรม่า ได้สำเร็จ โดยต่อจากนี้ยังมีอีก 2 ถ้วยให้ได้ลุ้น ทั้ง ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ว่าใครจะคว้าแชมป์ไปครอง รอติดตามอัพเดตทางเพจ ขอบสนาม ไว้ได้เลย

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline