logo-heading

ย้อนกลับไปเมื่อซัมเมอร์ 2016 เขาคือหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับระดับท็อปของศึก บุนเดสลีกา เลยก็ว่าได้จากผลงานอันยอดเยี่ยมในยูนิฟอร์มของ โบรุสเซีย มุนเช่นกลัดบัค ก่อนนำมาซึ่งการย้ายมาเป็นสมาชิกของ อาร์เซน่อล

ทว่าผลงานโดยรวมในช่วงแรกๆ ก็ถือว่าไม่ค่อยปังมากนัก ผิดคาดจากที่แฟนบอลคาดหวังเอาไว้พอสมควร แต่เขาก็คือหนึ่งในแดนกลางคนสำคัญของทีมมาตลอดไม่ว่ากุนซือจะหมุนเวียนเปลี่ยนใครเข้ามา

ถูก อาร์แซน เวนเกอร์ ดึงเข้ามาสู่ทีม เรื่อยมาจนถึง อูไน เอเมรี่ และล่าสุดคือ มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งนายใหญ่ชาวสเปนว่าไปก็เหมือนคนที่คอยช่วยขัดเกลาจนกลายเป็นกองกลางที่ครบเครื่อง และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของทีมในการยกระดับผลงานให้ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

จากนักเตะที่ดูเหมือนไม่มีอนาคตเพราะพฤติกรรมของตัวเอง แถมผลงานก็ไม่ได้โดดเด่น แถมมีเรื่องราวทะเลาะกับแฟนบอล “ปืนใหญ่” อีก ซึ่งดูแล้ว ชาก้า กับ อาร์เซน่อล คงใช้เวลาร่วมกันไม่ได้นาน

\"กรานิต ชาก้า\" : 7 ปีกับ \"อาร์เซน่อล\" ชีวิตที่ครบทุกรสชาติ

อย่างในกรณีเมื่อปี 2019 ในเกมที่ อาร์เซน่อล ดวลกับ คริสตัล พาเลซ ตอนนั้น ชาก้า ได้รับมอบหมายให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม  ช็อตที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาคือกองกลางจากแดนสวิตฯ ถูกเปลี่ยนตัวออก

ทว่าแทนที่เจ้าตัวจะรีบออกจากสนามเพื่อให้เกมเล่นต่อไป และทีมได้ผลการแข่งขันที่ดี เจ้าตัวกลับค่อยๆ เดินออกจากสนาม จนเป็นที่มาของเสียงโห่จากแฟนบอลฝั่งตัวเอง ซึ่ง ชาก้า เลือกที่จะตอบโต้ด้วยการป้องหูท้าทาย แถมถอดเสื้อ ก่อนเดินเข้าห้องแต่งตัวไป

ใช่ครับ... หลังจากนั้นเขาโดนโทษแบนจากสโมสร พร้อมริบปลอกแขนกัปตันทีม อีกทั้งความสัมพันธ์กับแฟนบอลก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ จนมีกระแสว่าให้ปล่อยแข้งรายนี้ออกไปจากทีมซะ

แต่แล้ว อาร์เตต้า เหมือนเป็นกาวที่ช่วยประสานระหว่าง ชาก้า กับ แฟนบอล โดยมอบโอกาสครั้งสำคัญในทีม ให้โอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเจ้าตัวก็ถือว่าตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม จนความโกรธแค้นในใจของแฟนบอลเริ่มเบาบางลง 

นายใหญ่ชาวสแปนิชเคยนิยามถึงผลงานของ ชาก้า ไว้แบบง่ายๆ คือ “ความสม่ำเสมอ” ซึ่งในความหมายมันไม่ใช่เพียงการฝึกซ้อม แต่รวมไปถึงความเป็นนักสู้ในสนาม ไม่ว่าเรื่องราวจะแย่เพียงใด ทัศนคติตรงนี้ช่วยผยุงให้ ชาก้า สามารถผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้

ฤดูกาลที่เพิ่งผ่านพ้นไป ชาก้า คือจิ๊กซอว์ตัวหลักในแดนกลาง แถมมีการปรับบทบาทให้กลายเป็นมิดฟิลด์ในสไตล์ Box to Box กลายเป็นรีดศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มกราฟ ฉะนั้นเราจึงได้เห็นการขึ้นไปมีส่วนกับประตูบ่อยครั้งมากขึ้น

9 ประตู กับ 7 แอสซิสต์ คือเครื่องการันตีชั้นยอด และเป็นตัวเลขที่ ชาก้า ทำประตูต่อซีซั่นให้ อาร์เซน่อล มากที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม

จากเสียงด่า เสียงวิจารณ์ที่อยากจะให้สโมสรปล่อยไอ้หมอนี้ออกไปจากทีมเสียที กลายเป็นหนึ่งในคนที่แฟนบอลมอบหัวใจให้ ส่วนหนึ่งต้องชื่นชม ชาก้า ด้วยว่านอกจากผลงานในสนาม การวางตัวก็ดีขึ้น ลดอาการหัวร้อน และมีความเก๋าเกมที่เพิ่มมากขึ้น

ในทีมที่เพียบพร้อมไปด้วยเหล่าดาวรุ่งอายุน้อย ทำให้ ชาก้า เหมือนพี่ใหญ่คอยดูแล แนะนำ และส่งต่อเรื่องราวดีๆ ให้กับรุ่นน้องต่อไป

\"กรานิต ชาก้า\" : 7 ปีกับ \"อาร์เซน่อล\" ชีวิตที่ครบทุกรสชาติ

ซึ่งมันคงไม่มากจนเกินไปถ้าจะเปรียบเทียบหัวใจของ ชาก้า แข็งแกร่งไม่ต่างจากหินสักก้อน จากอาการพ่ายแพ้ที่น่าจะต่อไม่ติดกับแฟนๆ อาการเกลียดชังที่มีอยู่ทั่วทุกมุมของ เอมิเรตส์ สเตเดียม แต่สิ่งเหล่านั้นนักเตะรายนี้ย่อมฝ่ามันด้วยสองเท้าของตัวเอง

“ลดแรงกระแทกด้วยผลงาน แม้ต้องใช้เวลาแต่มันคุ้มค่าที่จะทำ” วลีง่ายๆ ที่เปรียบไปครบถ้วนกับชีวิต ชาก้า ในสีเสื้อ อาร์เซน่อล

7 ปีกับทีม ชาก้า ลิ้มลองมาหมดแล้วทุกรสชาติ โกรธเคือง เศร้าหมอง เสียใจ ในวันที่ทำผิดพลาด ยิ้มแก้มบานในวันที่คือคนสำคัญ และได้รับการยอมรับจากแฟนบอล

ทว่าด้วยสถานการณ์ในช่วงซัมเมอร์นี้ อาร์เซน่อล มีการปรับเปลี่ยนทีม แดนกลางมีตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้น ได้ทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ กับ ดีแคลน ไรซ์ เข้ามา แน่นอนมันเหมือนเป็นการลดโอกาสลงสนามของเขาไปด้วย

ซึ่งจุดนี้ ชาก้า เข้าใจเหตุผลทุกอย่างดี สโมสรกำลังเดินไปข้างหน้า มีนักเตะรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาเพื่อยกระดับโอกาสในการประสบความสำเร็จของทีม

ฉะนั้นการโบกมือลาทีมคือเรื่องที่จำเป็นต่อตัวเขามากที่สุด และมันคือสิ่งที่ทุกฝ่ายสามารถเข้าใจได้ถึงการตัดสินใจ

“ผมใช้เวลา 7 ปีกับ อาร์เซน่อล ได้กลายเป็นส่วนสําคัญในชีวิต และมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจากไป แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสําหรับการผจญภัยครั้งใหม่”

เชื่อว่าแฟนบอล อาร์เซน่อล หลายๆ คน “รัก” ในตัวผู้ชายคนนี้ ความทุ่มเท และการพิสูจน์ตัวเองคือสิ่งสำคัญที่เขาสามารถเอาชนะใจผู้คนได้

“Once a Gunner, always a Gunner” ประโยคทิ้งท้ายของ กรานิต ชาก้า ถึงแฟนบอล อาร์เซน่อล

และ อาร์เซน่อล จะอยู่ในใจของเขาตลอดไป

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline