logo-heading

แน่นอนพูดมาขนาดนี้ แปลว่า ไม่ว่าอย่างไร เปแอสเช ก็ย่อมได้รับผลกระทบ หากไม่มีชายชื่อ เอ็มบัปเป้ อยู่ในทีมอีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยการปล่อยตัวออกไป หรือใจแข็งไม่ยอมส่งลงสนามขึ้นมาจริง ๆ

แต่อย่างไรก็ดี หากวิเคราะห์ดูจริง ๆ แล้ว กลับกลายเป็นว่า ฤดูกาลหน้า ปารีส ยังคงดูเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และอาจแข็งแกร่งกว่าปีที่แล้วเสียอีก ต่อให้พวกเขาอาจจะไม่มีสตาร์เบอร์ 1 อยู่กับทีมแล้ว 

โดยเหตุผลที่ทำให้เราคิดแบบนั้นมีด้วยกัน 5 ประการ ดังนี้ครับ ...
 

1.) เสริมทัพซัมเมอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม

หากจะพูดถึงทีมที่ซื้อนักเตะได้อย่างน่าสนใจ หนึ่งในนั้นควรมีชื่อของ เปแอสเช ในบทสนทนา เพราะนับตั้งแต่พวกเขาได้ หลุยส์ กัมโปส มาคอยนั่งให้คำปรึกษา ก็ดูมีการเสริมทัพที่ดูเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น เน้นให้ทีม “สมดุล” ขึ้น ไม่กว้านเอาแต่ซื้อสตาร์ หรือแนวรุกจนล้นทีมแล้ว

โดยสิ่งที่น่าชื่นชม คือตลาดนี้ พวกเขามีการเสริมเกมป้องกัน หรือในจุดที่ทีมบกพร่อง ด้วยการเซ็นผู้เล่นเกมรับถึง 3 ราย ไม่ว่าจะ มิลาน สคริเนียร์ เซ็นเตอร์ระดับท็อปจาก เซเรีย อา, ลูกัส แอร์กน็องเดซ กองหลังทีมชาติ ฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลก 2018 และ มานูเอล อูการ์เต้ กลางรับที่ดีที่สุดในลีก โปรตุเกส ซีซั่นที่ผ่านมา

และในจุดที่ทีมต้องเสีย ลิโอเนล เมสซี่ และอาจรวมถึง คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ไป ปารีส ก็ได้มีการเตรียมจะเติมเต็มแล้ว ด้วยการจ่อจะคว้าตัวทั้ง กอนซาโล่ รามอส กองหน้าทีมชาติ โปรตุเกส ของ เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวถึง 80 ล้านยูโร และในตำแหน่งปีกขวาก็กำลังจะได้ อุสมาน เดมเบเล่ ปีกพรสวรรค์ที่เก่งเทพเมพ 2 ตีน

ยังไม่รวมถึงการเซ็นเพื่อเสริมความลึกของทีม อย่าง มาร์โก อเซนซิโอ้ หรือ ลี คัง-อิน ซึ่งทั้งคู่เป็นแนวรุกที่เล่นได้หลากหลาย จะช่วยเสริมความแน่นของขุมกำลังได้เป็นอย่างดีครับ

 

2.) 11 ตัวจริงจึงดูดีตามไปด้วย

หากจะไปจัด 11 ตัวจริงของ ปารีส ในฤดูกาล โดยที่ไม่นับ เอ็มบัปเป้ และนักเตะคนอื่นที่น่าจะย้าย ทีมก็ยังออกมาดูดี มีความแข็งแกร่ง และน่าจะสมดุลมากกว่าฤดูกาลก่อนด้วย

ผู้รักษาตูจะเป็น จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

กองหลัง อัชราฟ ฮาคิมี่, สคริเนียร์, มาร์ควินญอส และ แอร์กน็องเดซ

กองกลาง วิตินญ่า, อูการ์เต้ และ ฟาเบียน รุยซ์

และกองหน้า เดมเบเล่, รามอส และ เนย์มาร์

ที่เห็นได้ชัด คือเรื่องเกมรับที่ดูมีการพัฒนาขึ้น แม้ตัวรุกอาจมีการปรับเปลี่ยนและเสียตัวสำคัญ แต่ปฏิเสธได้หรือ ว่า 3 ประสานชุดใหม่ไม่ได้ดูน่ากลัว 

ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ หน้าที่หลักของกองกลาง ขอแค่ช่วยวิ่งไล่ และจ่ายบอลให้แนวรุกผลัดกันโจมตีก็น่าจะเพียงพอ และอะไรที่มันดูซัพพอร์ตกันได้ดีขึ้นแบบนี้ มันหมายความทีมมีความสมดุลขึ้น ซึ่งสิ่งที่จะตามมา ก็ควรจะเป็นผลงานที่ดีขึ้นนั่นเอง

และยังไม่หมดแค่นั้น …


3.) ขุมกำลังสำรองก็ดูดี

กองหลังสำรองก็มีระดับ เพรสเนล คิมเพมเบ้, นูโน่ เมนเดส ดานิโล่ เปเรย์ร่า หรือ นอร์ดี้ มูกีเอเล่

กองกลาง มี เรนาโต้ ซานเชซ, การ์ลอส โซแลร์ หรือดาวรุ่งตัวเก่งอย่าง วาร์เรน ซายาร์-เอเมอรี่ เป็นต้น

กองหน้าหรือแนวรุก มี อเซนโอ้ กับ ลี-คัง อิน ที่พร้อมหมุนเวียน และหัวหอกที่เพิ่งซื้อขาดอย่าง อูโก้ เอกิติเก้

ซึ่งแม้ชื่อชั้นชุดสำรอง อาจไม่ได้ว้าวซ่า แต่ทุกคนในนี้มีความเก่ง และดีพอจะลงมาเปลี่ยนเกม หรือคอยเป็นอะไหล่ชั้นดีให้กับทีมแน่นอนครับ


4.) เสริมโค้ชก็ดี

หนึ่งในสิ่งที่มีผลที่สุดต่อผลงานของทีมฟุตบอล คือ ผู้จัดการทีม ซึ่ง เปแอสเช ไม่ได้การเสริมทีมที่ดีแค่ในนักเตะ แต่ยังมีการเสริม เซ็นโค้ชที่ดีเข้ามาด้วย นั่นคือ หลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตกุนซือทีมชาติ สเปน และ บาร์ซ่า ชุดทริปเปิ้ลแชมป์

นอกจากที่เขาจะมีประสบการณ์แชมป์ และประสบการณ์คุมเหล่าสตาร์แล้ว เขายังมีปรัชญาการคุมทีมที่ดูเหมาะกับ เปแอสเช ชุดปัจจุบันด้วย เพราะทีมนี้ เต็มไปด้วยนักเตะที่เล่นบอลกับเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่แดนหลังไปแดนหน้า ซึ่งจะเหมาะกับสไตล์การเล่นเน้นต่อบอล ทำชิ่งเพื่อโจมตี ตามแบบฉบับ เอ็นริเก้ ได้เป็นอย่างดีครับ


5.) เปแอสเช ยังมีสตาร์ผู้นำทีม

แม้จะเสียสตาร์อย่าง เมสซี่ ไป และอาจรวมถึง เอ็มบัปเป้ แต่ ปารีส ยังไม่ใช่ทีมที่ขาดสตาร์ เพราะพวกเขายังมี เนย์มาร์ จูเนียร์ ผู้ที่แสดงฝีเท้ามาให้เห็นมาแล้ว ทั้งในสโมสรและทีมชาติ ว่าเขาเป็นผู้นำเกมรุกที่ดีของทีมได้ ทำได้ทั้งยิงและทำเกม ขอแค่อย่างเดียว อย่าเจ็บ!

ในฤดูกาลที่โชคเข้าข้าง อย่าง 2019/20 เขาเคยโชว์แสงออกเท้า ด้วยการทำผลงานสำคัญ 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ใน 4 เกมรอบน็อคเอาท์ จนพาทีมไปถึงรอบชิง UCL มาแล้ว

และเขาจะมีบทบาทที่สำคัญยิ่งไปอีกในซีซั่นใหม่ ซึ่งถ้าถามว่า เนย์มาร์ ในวัย 31 หมดหรือยัง บอกเลยว่ายัง! แถมนักเตะแนวรุกหลายราย ยังมีช่วงพีคที่วัยนี้ด้วย และอาจเกิดขึ้นได้กับ เนย์มาร์

เพราะถ้าดูจริง ๆ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ตอนไม่เจ็บเขาก็มีช่วงเวลาที่ฟอร์มเทพ แถมล่าสุด หลังจากกลับมาลงเกมอุ่นเครื่อง เพิ่งพาทีมชนะ 3-0 ด้วยการมีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ประตู แบ่งเป็น ยิง 2 จ่าย 1 พร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ดีมาก เขายังคงมีเท้าที่วิเศษและเสกเกมรุกได้ราวกับใจนึกครับ


และสรุปสุดท้ายนี้ หาก เปแอสเช ต้องขาด เอ็มบัปเป้ ไป แน่นอนมันส่งผลกระทบ แต่เมื่อมาดูองค์ประกอบโดยรวมแล้ว ทั้งจากการเสริมทัพที่ดี, การจะยังมีตัวจริงที่ดี, ขุมกำลังสำรองที่ดี, โค้ชที่ดี และยังมีผู้นำทีมที่ดี

จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราคิด ว่าต่อให้ไม่มี เอ็มบัปเป้ แต่ เปแอสเช ก็จะยังเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และอาจจะแข็งแกร่งกว่าปีก่อนด้วยนั่นเองครับ.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline