logo-heading

นี่คือการปรับเปลี่ยนกฏ 4 ข้อหลัก ๆ ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า โดยแต่ละข้อ มีเนื้อหาการปรับเปลี่ยนอย่างไร? จะส่งผลกระทบต่อเกมฟุตบอลอย่างไร? และมีสาเหตุที่ปรับเปลี่ยนจากอะไร?

วันนี้ ขอบสนาม อินไซด์ ของเรา จะพยายามมาอธิบาย ด้วยการสรุปแบบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กันครับ …


ทดเจ็บแบบบอลโลก

ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2023/24 จะมีช่วงทดเจ็บที่ยาวนานขึ้น เฉกเช่นเดียวกับ ฟุตบอลโลก 2022 เนื่องจากนำวิธีคิดทดเจ็บแบบเดียวกันมาใช้

ไม่ว่าจะเวลา ในการฉลองประตู, เปลี่ยนตัวผู้เล่น, จังหวะบาดเจ็บ หรือการเตรียมพร้อมสำหรับการยิงฟรีคิก จะถูกนำมาคิดทั้งหมด

เกมส่วนใหญ่ในซีซั่นหน้า จะทดเวลารวมกันมากกว่า 10 นาที หรือนับรวมก็จะเล่นถึง 100 นาทีอยู่บ่อยครั้ง และการเปลี่ยนกฎทดเจ็บนี้ ยังถูกนำมาใช้กับ ลีกรอง ๆ ด้วย

อย่าง แชมเปี้ยนชิพ ก็มีการเริ่มใช้ไปแล้ว มีบางคู่ที่ทดครึ่งแรกถึง 8 นาที และครึ่งหลังอีก 10 นาที หรือคิดรวมกันก็เกือบ 20 นาที ไปแล้ว

โดยสาเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสถิติที่ชี้ให้เห็น ว่าฟุตบอลในอังกฤษมีการใช้เวลาเล่นกับลูกฟุตบอลจริง ๆ นั้นน้อยเพียงไหน? ซีซั่นที่แล้ว ใน ลีกทู มีค่าเฉลี่ยเล่นกับลูกบอลต่อเกม เพียง 48 นาที, ใน ลีกวัน 50 นาที, แชมเปี้ยนชิพ 52 นาที และใน พรีเมียร์ลีก ก็ยังคงต่ำ ที่ 55 นาทีเท่านั้น

ดังนั้น กฏการทดเวลาเจ็บแบบใหม่ นอกจากจะถูกนำมาใช้เพื่อลดการถ่วงเวลาแล้ว ยังถูกนำมาใช้เพื่อพยายามให้เกมการเล่น มีความเร็วขึ้นหรือเล่นกับลูกบอลมากขึ้นนั่นเองครับ

 

ผ่อนปรนเรื่องการเข้าปะทะ

การปรับเปลี่ยนนี้ มีจุดประสงค์เพื่อพยายามให้เกมไหลลื่นขึ้น และลดการเป่าฟาวล์หยุดเกมลง 

โดยการเข้าปะทะทางร่างกาย จะเป่าฟาวล์ยากขึ้น จะเป็นพวกจังหวะอย่าง เบียดแย่งบอล หรือไหล่ต่อไหล่แบบนี้ จะเป่าฟาวล์ยากขึ้น

แต่ก็ยังมีการเป่าฟาวล์ คนที่เข้าบอลแบบ "ประมาท", แจกใบเหลืองคนที่เข้าบอลแบบ "บุ่มบ่าม" และแจกใบแดงคนที่เข้าบอลแบบ "รุนแรงหรืออันตรายต่อฝั่งตรงข้าม" เฉกเช่นเดิมครับ

จุดนี้อาจดูเปลี่ยนแปลงไม่เยอะ แต่สิ่งที่จะเห็นเป็นรูปธรรม คือจำนวนการให้ฟรีคิกที่น้อยลงจากฤดูกาลก่อน ๆ นั่นเอง


รุมประท้วงกรรมการโดนใบเหลืองทันที

อธิบายง่าย ๆ เมื่อมีนักเตะมากกว่า 1 คน เข้ามารุมประท้วงกรรมการ จะมีอย่างน้อย 1 คนโดนใบเหลืองทันที และจะแจกกี่คนก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้ตัดสินเลย

ข้อต่อมา ถ้ามีนักเตะคนไหน วิ่งจากระยะไกล เพื่อมาประท้วงหรือกดดันกรรมการแบบใกล้ ๆ จะถูกใบเหลืองทันทีเช่นกัน

โดยจุดประสงค์ของการปรับเปลี่ยนกฏนี้ คือเผื่อลดภาพที่ผู้ตัดสิน โดนห้อมล้อมกดดันจากเหล่านักเตะ

คราวนี้ ถ้าจะประท้วงสงสัย คงต้องเป็นการส่งตัวแทนไปคนเดียว จะได้ไม่โดนใบเหลืองแบบฟรี ๆ กลับมานั่นเองครับ
 

เข้มงวดกับผู้จัดการทีมหัวร้อน

ในฤดูกาลหน้า โค้ชคนไหนที่ก้าวร้าวต่อเหล่าผู้ตัดสินหรือคู่แข่ง จะโดนใบแดงกันง่ายขึ้น และจะโดนไล่ออก โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ชมเกมบนอัฒจันทร์ต่อด้วย

นอกจากนี้ยังมีการแจกใบเหลืองโดยอัตโนมัติ หากมีโค้ชมากกว่าหนึ่งคนในเขตเทคนิค หรือเส้นสี่เหลี่ยมข้างสนาม พร้อมกับบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น สำหรับโค้ชที่ออกจากเขตเทคนิคครับ


สรุปท้ายนี้ จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงกฏทั้ง 4 ข้อนี้ จะมีผลหลัก ๆ กับ 2 อย่าง

หนึ่ง คือ "เกมในสนาม" ที่จะมีการเล่นรวมทดเวลาที่จะมากถึง 100 นาทีอยู่บ่อยครั้ง, อาจมีการถ่วงเวลาที่น้อยลง และให้ฟรีคิกที่น้อยลง จากการเป่าฟาวล์ที่ยากขึ้น

สอง คือ ผลดีต่อ "กรรมการ" ที่จะโดนประท้วงน้อยลง ทั้งจากนักเตะและโค้ช ถือว่าอาจลดเรื่องความโกลาหลของจังหวะตัดสินได้ แต่จะช่วยเรื่องการตัดสินที่ผิดพลาดให้น้อยลงได้ไหม? ก็คงไม่เกี่ยวอะนะ อันนี้ขึ้นอยู่กับตัวกรรมการเลย.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline