logo-heading

โดยวันนี้ ขอบสนาม ของเราจะขอพามากระจ่างชัด ว่านักเตะรายใหม่ล่าสุดของ เชลซี อย่าง โรเมเอีย ลาเวีย มีจุดเด่นในแต่ละด้านอย่างไร? จะเขาเอาจุดเด่นของเขามาช่วย เชลซี อย่างไรได้บ้าง? และจะมีบทบาทอย่างไรในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์? ...


ทักษะการครอบครองบอล คือจุดเด่น

เมื่อ ดิ แอธเลติก สื่อเจ้าดังอังกฤษ ได้นำสถิติของ ลาเวีย ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นที่ผ่านมา มาคำนวณ เราจะพบว่าสถิติที่เด่นที่สุดของเจ้าตัว คือการเลี้ยงบอล-พาบอล ที่มีจำนวนอยู่ในระดับท็อปสุดคนหนึ่งเลยของกองกลางในลีก พร้อมกับสถิติที่ดีในเรื่องการรักษาการครอบครองบอล หรือไม่เสียบอลง่าย ๆ นั่นเอง

ซึ่งข้อหลังนี้ ยังมีตัวเลขยืนยันจากสถิติของออปต้า เมื่อพบว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา ลาเวีย เป็นนักเตะ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ถูกเพรสซิ่งกดดันใส่มากที่สุด แต่เขากลับมีเปอร์เซนต์การจ่ายบอลที่แม่นยำที่สุดในทีมนักบุญ ถึง 86.2%

พร้อมกับค่าเฉลี่ยในการเสียบอลเพียงครั้งเดียว ต่อการโดนเพรสซิ่งแบบหนัก ๆ ใส่ 10 ครั้ง ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึง ‘ความนิ่ง’ ในการเล่นกับบอลของเจ้าตัว

และไม่แปลกเมื่อเราได้ดูเกมของ ลาเวีย แล้ว จะพบว่าเขามักจะโชว์การแก้เพรสซิ่งจากฝั่งตรงข้ามได้บ่อยครั้ง เพราะนั่นมาจากทักษะการเลี้ยงบอลเอาตัวรอด และความนิ่งในการจ่ายบอลของเจ้าตัวนั่นเอง

นอกจากนี้ เมื่อดูเกมของเขาแล้ว ยังพบว่า ลาเวีย ยังมีความสามารถในการเล่นเปลี่ยนรับเป็นรุกได้ดี, พิสูจน์แล้วว่าสามารถรับมือกับความเร็วและการเข้าปะทะของลีกอังกฤษได้ มิหนำซ้ำ เขายังโชว์ให้เห็นถึงการตัดสินใจที่เร็วและถูกต้อง จึงสามารถเป็นนักเตะที่ควบคุมเทมโป้ หรือจังหวะให้กับทีมได้
 

ตัดเกมปานกลาง แต่ยังพัฒนาได้อีกเยอะ

แน่นอนว่าถ้าพูดถึง มิดฟิลด์ตัวต่ำ หรือ กลางรับ หนึ่งในทักษะที่แฟนบอลมักจะถามถึง คือเรื่อง เกมรับ โดยเรื่องนี้อาจจะยังไม่ใช่จุดเด่นของ ลาเวีย แต่เจ้าตัวก็สามารถทำมันได้ดี ใช้ได้ และยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปได้อีกไกลในจุดนี้

โดยทักษะในการช่วยเกมรับที่ดีที่สุดจาก ลาเวีย คือ ‘การชนะการดวล’ เขามีสถิติชนะการดวลในพื้นที่สุดท้ายของกลางสนาม เป็นรองแค่ มอยเซส ไกเซโด้ เท่านั้น สำหรับนักเตะในลีกใหญ่ยุโรปที่อายุไม่เกิน 21 ปี

พร้อมกับความขยันในการเข้าปะ เพราะหากนับเขาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ลาเวีย จะเป็นดาวรุ่งที่มีจำนวนเข้าปะทะ เป็นอันดับ 3 ของลีกใหญ่ยุโรปเลยนะ เป็นรองแค่เพียง จู๊ด เบลลิงแฮม และ เอดูอาร์ คามาวิงก้า เท่านั้น

ส่วนทักษะเกมรับอื่น ๆ แม้ยังไม่อยู่ในระดับท็อป แต่ก็นับว่าใช้ได้ อย่าง การเข้าสกัด 33 ครั้ง และ บล็อคลูกยิง 11 ครั้ง ถือว่ายังมีช่องว่างอีกมากในการพัฒนาเกมรับ

นอกจากนี้ หากดูจากเกมการเล่นในสนาม จะพบว่า ลาเวีย ยังมีสมาธิในการอ่านเกมรับที่ดี โดยเฉพาะเรื่องอ่านทาง การจ่ายบอลของฝั่งตรงข้ามครับ
 

บทบาทในทีม เชลซี

หากมายืนคู่กับ เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ ลาเวียจะช่วยแบ่งเบาภาระ เอ็นโซ่ ในการแก้เพรส และคอยนำบอลขึ้นมาลำเลียงให้ เอ็นโซ่ ได้จ่ายสร้างสรรค์เกมให้กับทีม 

และเขายังจะสามารถแบ่งเบาภาระ เอ็นโซ่ ในเรื่องเกมรับ คอยช่วยวิ่งไล่เข้าปะทะ และประกบตัว ซึ่งจะเป็นการเล่นส่งเสริมกัน ในแบบเดียวกับที่ ลาเวีย เคยเล่นกับ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ในซีซั่นที่ผ่านมานั่นเอง

ส่วนหากต้องมายืนคู่กับ ไกเซโด้ แน่นอนว่าจะเป็นช้อยส์ที่เหมาะสำหรับ เชลซี ตอนจะเล่นเน้นเกมรับ  หรือปิดเกม ด้วยการเป็นกองกลางที่เล่นเกมรับได้ทั้งคู่ 

พร้อมสามารถแก้เพรสได้ทั้ง 2 คน ไกเซโด้ เน้นจ่าย ส่วน ลาเวีย เน้นเลี้ยงบอลเอาตัวรอด และฝากความหวังการสร้างสรรค์เกมรุกไว้ที่กลางรุกสักคน ถือว่ามีตัวเลือกให้เล่นที่หลากหลายขึ้น

แต่แน่นอน บทบาทหลัก ๆ ของเจ้าตัวในช่วงแรก คงจะเข้ามาเป็นอะไหล่ แต่เป็นอะไหล่ที่สำคัญคนหนึ่ง หาก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คิดจะพัก หรือจะเปลี่ยน เอ็นโซ่ หรือ ไกเซโด้ เขาจะมีสำรองที่มีคุณภาพแบบใช่ย่อยอย่าง ลาเวีย มาคอยมาทดแทน และเพิ่มมิติให้กับทีมได้ด้วยนั่นเอง


และนี่คือสาเหตุทั้งหมด ว่าทำไม เชลซี ถึงยอมทุ่มเงิน 58 ล้านปอนด์รวมโบนัส เพื่อคว้าตัวกองกลางอายุเพียง 19 ปีรายนี้ เรียกว่าไว้ใช้งานยาว ๆ พร้อมยังพัฒนาไปได้อีกไกลครับ “โรเมโอ ลาเวีย”.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline