ต่อให้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้ลงสนามเต็ม 90 นาที แต่เขาก็โชว์ให้เห็นถึงความเรียบง่าย ไม่ต้องลีลาเยอะให้มากความ ทำเอาสาวก เดอะ ค็อป ร้องกันเป็นแถวว่า "นี่แหละ" ของดี
เอาจริงๆ ตอนแรกผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายกับ เอ็นโด ด้วยซ้ำ โดยยอมรับตามตรงว่า หลังจบศึก ฟุตบอลโลก 2022 ก็แทบไม่ได้ติดตามฟอร์มของ เอ็นโด เลยด้วยซ้ำ หรือต่อให้ดูทีมชาติญี่ปุ่น แข่งขัน ก็ไม่ได้เจาะจงไปที่ เอ็นโด เป็นพิเศษ เนื่องจากดูองค์ประกอบโดยรวม หรือ นักเตะคนอื่นที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตามากกว่า
แต่พอรู้ว่า เอ็นโด ย้ายมา ลิเวอร์พูล ด้วยหัวใจ มันก็ได้หัวใจผมไปเต็มๆ เพราะฟุตบอลสมัยนี้ การย้ายทีม มันเต็มไปด้วยอำนาจเม็ดเงิน และ เชียร์ให้ เอ็นโด ประสบความสำเร็จบนผืนฟลอร์หญ้าที่แอนฟิลด์
คือการเสริมทัพของ ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์นี้ ช่างลำบากเหลือเกิน เพราะนับตั้งแต่ได้ตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซบอสไล เข้ามา ทุกอย่างก็เงียบลง อยากจะได้ใคร ก็ซดแห้วไปหมดทุกราย
โดยเฉพาะกับ มอยเซส ไกเซโด้ ที่สามารถบรรลุข้อตกลงกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ไปแล้ว ที่ราคา 110 ล้านปอนด์ แต่กระนั้นหัวใจของ ไกเซโด้ ไม่มี ลิเวอร์พูล อยู่ในนั้นเลยสักนิด ความฝันของ ไกเซโด้ เลือกย้ายไปแค่ เชลซี
ฉะนั้นต่อให้ หงส์แดง อยากได้ตัวมาร่วมทีมมากแค่ไหน ก็ต้องยอมปล่อยมือ !!
ขณะที่ โรเมโอ ลาเวีย ที่ ลิเวอร์พูล จับจ้องมาเป็นเวลานาน ต่อรองราคากับ เซาธ์แฮมป์ตัน อยู่นาน 2 นาน ยื่นข้อเสนอไปถึง 3 ครั้ง แต่ก็โดนปฏิเสธกลับมาทั้งหมด ซึ่งราคามากสุดให้ที่ประมาณ 45 ล้านปอนด์ ทั้งๆที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ต้องการได้เงินอยู่ที่ 50 ล้านปอนด์
จากนั้นในวันที่ เชลซี เข้ามาเป็นคู่แข่ง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป หัวใจของ ลาเวีย ไม่ได้เลือก ลิเวอร์พูล อีกแล้ว เขาต้องการย้ายไปอยู่กับ เชลซี เท่านั้น ต่อให้มีข่าวว่า ลิเวอร์พูล ปิดดีลได้แล้ว แต่มันก็ได้แค่ตัว แต่ไม่ได้หัวใจ สุดท้ายต้องยอมปล่อย ลาเวีย ย้ายไปอยู่กับ เชลซี ในที่สุด
แค่ซื้อตัวก็ว่ายากแล้ว ต้องมาเจอเรื่องหัวใจ ที่นักเตะเหล่านี้ไม่ได้ต้องการย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล
กระทั่งมาเจอดีล เซอร์ไพรส์ เมื่อ ลิเวอร์พูล ประกาศคว้าตัว วาตารุ เอ็นโด กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น เข้ามาร่วมทีม หลายคนปรามาสว่า นี่คือ ดีลแก้เขิน ซื้อมาก่อน เพื่อกันไม่ให้โดนด่า เหมือนตอนที่ไปซื้อ อาร์ตูร์ เข้ามา และ ไม่ได้ลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เลยสักนิด
ซึ่งผมก็แอบคิดแบบนั้นเหมือนกันครับ เพราะ ลิเวอร์พูล ลดสเป็คเร็วมาก จากทุ่ม 110 ล้านปอนด์ มาซื้อ เอ็นโด เหลือแค่ 19 ล้านปอนด์
แต่ความคิดของผมก็เปลี่ยนไป นับตั้งแต่วันที่เขาเปิดตัวกับ ลิเวอร์พูล จากสีหน้า และ สายตา หรือแม้กระทั่งเห็นชื่อตัวเองอยู่บนหลังเสื้อ มันทำให้รู้เลยว่า ความฝัน ของเขา ต้องการมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล มากเพียงใด
ถ้าเลือกได้ ผมก็อยากได้ ไกเซโด้ แหละครับ แต่คนเราต้องมูฟออนต่อไป และ เลือกคนที่มีหัวใจมาอยู่กับ
ซึ่ง วาตารุ เอ็นโด ก็ยอมรับแบบตามตรงเลยว่า เขาไม่ทันได้ตั้งตัวกับการย้ายมาเล่นให้กับ 'หงส์แดง' ด้วยซ้ำ ถึงแม้ในใจจะแอบหวังลึกๆ หลังจาก ลิเวอร์พูล ผิดหวังทั้งคว้าตัว ไกเซโด้ และ โรเมโอ ลาเวีย
"ผมเพิ่งรู้เมื่อสามสี่วันก่อนว่ามีโอกาส! ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก โดยในช่วงต้นสัปดาห์ ผมเตรียมตัวเพื่อลงเล่น บุนเดสลีกา เยอรมัน แต่สุดสัปดาห์ผมย้ายมาเล่นที่ แอนฟิลด์ ต่อหน้าแฟนทั้งหมด มันบ้ามาก"
"ผมเข้าใจว่าทีมชั้นนำต้องการเด็กหนุ่มที่มีความสามารถ แต่คุณรู้ไหม ? ผมบอกกับตัวเองว่านี่คือโอกาสเดียวที่นายจะได้ย้ายไปที่ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาเน้นคว้าตัวนักเตะหนุ่มเสมอ บอกตามตรง ผมติดตามข่าวของ ลิเวอร์พูล ว่าพวกเขาต้องการมิดฟิลด์หมายเลขหก แต่ผมคิดว่า ไกเซโด้ จะย้ายมาที่ ลิเวอร์พูล"
"ดังนั้นพอเขาไปที่ เชลซี ผมก็คิดว่าบางที บางทีบางทีพวกเขาต้องการมิดฟิลด์ที่มีประสบการณ์เพราะ เฮนเดอร์สัน ย้ายไปแล้วเช่นเดียวกับ ฟาบินโญ่ ดังนั้นผมจึงคิดว่าอาจมีโอกาส และ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมต้องตัดสินใจโดยเร็ว แต่แน่นอน ผมไม่อาจ เซย์โน ได้เลย เพราะการได้เล่นใน พรีเมียร์ลีก เป็นความฝันของผมเสมอ"
นั่นแหละครับ จากนั้น เอ็นโด ก็ได้ประเดิมสนามให้กับ หงส์แดง วันนั้นสาวก เดอะ ค็อป ตะโกนเรียกชื่อของเขาดังกึกก้อง มันราวกับความฝัน แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจริง เขาลงสนามด้วยแพสชั่น ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการจะพิสูจน์ตัวเอง
เอ็นโด ไม่ใช่นักเตะระดับท็อป ไม่ใช่นักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ แต่การมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เขาพร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่า ชายวัย 30 ปี ก็พร้อมทุ่มเทด้วย หัวใจ ที่มี เช่นกัน