logo-heading

เกมนี้สำหรับ หงส์แดง ครึ่งแรกครึ่งหลังมันหนังคนละม้วนจริงๆ เพราะ 45 นาทีหลัง พวกเขาทำได้ดีเหลือเกิน โดยเฉพาะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีส่วนกับทั้ง 3 ประตู ดังนั้นเกมนี้มีอะไรต้องพูดถึงบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ

- ครึ่งแรก หงส์แดง โคตรห่วย โดนแค่ลูกเดียวก็บุญ

ถ้านับผลงานแค่ 45 นาทีแรก ไม่รู้ว่าทุกคนคิดยังไงกันนะครับ แต่สำหรับผม นี่อาจจะเป็น 45 นาทีแรก ที่ หงส์แดง โชว์ฟอร์มได้ห่วยแตกมากที่สุดในซีซั่นเลยก็ว่าได้ ต่อให้ครองบอลได้ ก็ดีแต่ป้อล่อไม่เป็น และ โชคดีด้วนซ้ำ ที่เสียแค่ประตูเดียว

สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ การไม่มี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำให้มิติเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ขาดไปจริงๆ ไม่มีตัววางบอลยาวข้ามแนวกำแพงคู่แข่ง ไม่มีตัวเปลี่ยนแกนขวาไปซ้าย ซ้ายไปขวา เรียกว่า คอมเมนท์โคตรเอกฉันท์ว่า "คิดถึง เทรนท์"

ขณะที่ การส่ง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงเล่นในตำแหน่งเบอร์ 6 ก็เป็นอีกนัดว่ามันยังไม่เวิร์คเท่าที่ควร บวกกับพี่แก เพิ่งเดินทางกลับจากทวีปอเมริกาใต้ ทำให้มีอาการเหนื่อยล้า ดูอืดๆพอสมควร การออกบอลก็ขาดๆเกินๆด้วย

ส่วนกองหน้า ที่ใช้ ดิโอโก้ โชต้า, โคดี้ กัคโป และ โม ซาลาห์ เป็น 3 ประสานตัวจริง ไม่มีใครเลี้ยงกินตัวได้เลยในช่วง 45 นาทีแรก ต่อให้ครองบอลเยอะกว่า แต่โอกาสจบสกอร์น้อยนิด ก็ไม่มีความหมาย

นั่นแหละครับ ทำให้ 45 นาทีแรก เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้เลย แต่ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเข้าสู่ 45 นาทีหลัง จากการแก้หมากของ เจอร์เก้น คล็อปป์

- โซโบสไล คุ้มจัดๆ

สาวก เดอะ ค็อป ต้องทุกข์ทนกับเบอร์ 8 คนเดิมมานานเหลือเกิน นั่นคือ นาบี เกอิต้า ที่ลงเล่น 1 นัด พักไป 1 ปีกว่า กระทั่งได้ตัว โดมินิค โซโบสไล เข้ามาเป็นนักเตะหมายเลข 8 คนใหม่ ซึ่งนี่แหละคือนักเตะที่ผู้คนมองว่าจะมาสานต่อตำนาน สตีเว่น เจอร์ราร์ด 

ถึงแม้ โซโบสไล จะเล่นไม่ออกครึ่งแรก และ ไม่ค่อยมีช่องจ่ายให้กับเพื่อนๆ แต่ทว่า 45 นาทีหลัง พี่แกวิ่งเป็นม้าดีด ตั้งแต่ขึ้นหน้าไปช่วยเกมรุก และ ลงมาช่วยเกมรับ 

แต่ทึ่มันต้องชื่นชมกว่านั้นคือ ครึ่งหลังเขาถอยลงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์เบอร์ 6 ก็ยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม วิ่งพล่านไปทั่วสนาม เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนจริงๆ ทั้งทักษะในการแย่งบอล ,การทำลายจังหวะคู่แข่ง และ มีทีเด็ดการบอลยาว 

สถิติสำคัญของ โซโบสไล ในเกมนี้ ประกอบด้วย สัมผัสบอล 115 ครั้ง (มากที่สุดในสนาม), 
ผ่านบอลสำเร็จ 81 ครั้ง จาก 97 ครั้ง (อันดับสองในสนาม), ความแม่นยำในการผ่านบอล 84%, 
ชนะการดวลพื้นดิน 3 ครั้ง, โอกาสยิง 2 ครั้ง, เคลียร์บอล 2 ครั้ง, เก็บบอลจังหวะสองได้ 6 ครั้ง
และ จ่ายบอลเข้ากรอบเขตโทษคู่แข่ง 20 ครั้ง

เรียกว่า โซโบสไล สำคัญกับ ลิเวอร์พูล มากจริงๆในตอนนี้ 

- ซาลาห์ โคตรสำคัญ

นัดนี้ เป็นการตอกย้ำอย่างชัดเจนเลยว่า ทำไม ลิเวอร์พูล ถึงหวงนักหวงหนา ไม่ยอมปล่อยตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ออกจากทีมในช่วงตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา ต่อให้ อัล อัตติฮัด พร้อมจะยื่นข้อเสนอมากกว่า 200 ล้านปอนด์ ก็ตาม

เพราะ ซาลาห์ เป็นคนสำคัญๆของ ลิเวอร์พูล จริงๆ ในเรื่องการมีส่วนร่วมทำประตู ถ้าวันนี้ขาดเขาไปก็ยังไม่รู้จริงๆจะเอาใครมาทดแทน โดยเกมนี้ คิงโม มีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ลูก ที่ หงส์แดง ยิงได้ ซึ่งเขารับหน้าที่เป็นผู้แอสซิสต์ทั้งหมด

ลูกแรก บังโม แอสซิสต์ปาดมาให้กับ โคดี้ กัคโป แปจ่อๆเข้าไป เป็นประตูตีเสมอ 1-1 ส่วนลูกแซง 2-1 ก็จ่ายตัดแนวรับให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยิงเข้าไป ก่อนจะเป็นคนไหลให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ยิงตอกฝาโรง ฝัง วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-1 

ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วลูก 3 จะถูกเปลี่ยนเครดิต เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของนักเตะ หมาป่า แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความยอดเยี่ยมของ ซาลาห์ ไปเลย โดยเขาได้สร้างสถิติทำแอสซิสต์ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปแล้ว 63 ครั้ง มากที่สุดของนักเตะแอฟริกา ทำลายสถิติ ริยาด มาห์เรซ ไปเรียบร้อย

- ปีนี้ หงส์แดง ประกาศก้อง ขอกลับมาลุ้นแชมป์

เอาจริงๆการเปลี่ยนแปลงอย่างหนักหน่วงในแผงมิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล และ การซื้อตัวอันยากลำบาก ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา บวกกับอันดับที่ไม่ได้ไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้หลายคนมองว่า หงส์แดง น่าจะลุ้นแชมป์ยาก หากไปเทียบกับ แมนฯ ซิตี้ หรือ อาร์เซน่อล

แต่กระนั้นซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาเป็นทีม คนอึด ตายยาก จริงๆ ต่อให้ถูกโดนนำไปก่อน แต่ก็กลับมาได้ตลอด เหลือ 10 คน กี่นัด ก็ผ่านด้วยการเก็บ 3 คะแนน มาแล้ว ซึ่งนัดนี้ก็ถูกตามหลัง ตั้งแต่ต้นเกม แต่ก็แซงกลับชนะได้อีกครั้ง

ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล รั้งอยู่อันดับ 3 ของตาราง ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูง เพียงแค่ 2 คะแนน เท่านั้น หลังผ่านมา 5 นัดของตาราง ถึงแม้จะเร็วไปที่บอกว่า หงส์แดง ลุ้นแชมป์ แต่ dna ความเป็นนักสู้ พุ่งสูบฉีดเหลือเกิน 

ถึงขั้นที่ แกรม ซุเนสส์ อดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล แสดงความมั่นใจเลยว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ หงส์แดง ไม่จบอันดับ 1 ก็อันดับ 2 ของตาราง .. แล้วมารอดูกันว่า พวกเขาจะทำได้หรือไม่ !!

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline