logo-heading

ทีมชาติไทย เพิ่งจะมีการประกาศรายชื่อนักเตะออกมาล่าสุด ในการเตรียมทีมเพื่อไปลงเตะเกมอุ่นเครื่องที่ยุโรปกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะพบกับจอร์เจีย ในวันที่ 12 ตุลาคม ต่อด้วยบุกเยือนเอสโตเนีย ในวันที่ 17 ตุลาคม แต่รายชื่อนักเตะที่ออกมา กลับไม่ใช่ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด

เอาจริงๆ ใครที่ติดตามบอลไทยอย่างใกล้ชิดก็พอจะทราบอยู่แล้วว่ารายชื่อจะออกมาประมาณไหน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาก่อนแล้วว่ามีหลายสโมสรที่ไม่เห้นด้วยกับการเดินทางไปอุ่นเครื่องที่ยุโรปหนนี้ เพราะมันกระชั้นชิดกับโปรแกรมไทยลีก รวมทั้งโปรแกรมเอซีแอลด้วย จึงไม่พร้อมปล่อยตัวนักเตะของตัวเองไปให้ทีมชาติ

ย้อนกลับไปตอนที่สมาคมฯ ประกาศว่าทีมชาติไทยของเราจะได้ลงเดินทางไปลงเตะอุ่นเครื่องกับทีมในยุโรป แม้จะไม่ใช่ทีมดังอะไร แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ทัพช้างศึกจะไปอุ่นเครื่องที่ยุโรป ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลอยากเห็น ไม่ใช่แค่อุ่นแต่ในบ้าน หรือไปเยือนแถบอาเซียน หรือแค่เอเชีย ใต้หวัน, ฮ่องกง หรืออะไรประมาณนี้

แฟนบอลอยากเห็นเราไปเจอกับทีมใหญ่ๆ ในยุโรป หรืออเมริกาใต้บ้าง ก่อนหน้าเราเคยเจอกับอุรุกวัย ไปเตะกันที่จีน หรือตอนปี 2010 มีโอกาสไปเตะกับแอฟริกาใต้ เพื่อทดสอบสนามก่อนบอลโลก ดังนั้นการไปยุโรปหนนี้ แฟนบอลคาดหวังว่าจะได้เห็นนักเตะทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ชุดที่ดีที่สุดเพื่อไปเจอกับทีมยุโรป จะได้รู้ว่าเราอยู่ตรงจุดไหน และจะสู้เขาได้ไหม 

ถ้าทำผลงานได้ดี มันก็มีโอกาสที่อันดับฟีฟ่าจะขยับขึ้นไป หรือถ้าแพ้ก็ไม่เสียหาย เพราะเราไปเจอกับทีมในวรรณะที่สูงกว่า อย่างน้อยมันก็ได้ทดลองทีม ก่อนที่จะเจอศึกใหญ่กับฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกในเดือนพฤศจิกายน

แต่กลับกลายเป็นว่าแทนที่จะได้ทดสอบตัวผู้เล่นก่อนคัดบอลโลก กลับต้องเลือกตัวที่สามารถเอาไปได้ เพื่อลงเตะให้มันจบๆ ไป 

เผื่อใครยังไม่เห็นรายชื่อนักเตะชุดนี้ ผมเอามาให้ดูกันอีกครั้ง 23 นักเตะที่ถูกเรียกมา มีดังนี้

ดราม่ารายชื่อทีมชาติไทย หลังไม่ได้ชุดเต็มไปอุ่นเครื่องที่ยุโรป

เมื่อเห็นรายชื่อทีมชาติไทย ชุดนี้ ก็ทำให้นึกย้อนกลับไปตอนเอเชี่ยนเกมส์ ล่าสุด ก็สภาพเดียวกันเลย คือไม่สามารถเรียกชุดเต็มไปได้ ต้องไปเอาตัวที่สโมสรพร้อมปล่อย หรือนักเตะไร้สังกัดเพื่อไปลงเล่น แต่ในเอเชี่ยนเกมส์ ลูกทีมของอิสระ ศรีทะโร กลับทำได้ดีเกินคาด แม้จะกระเด็นตกรอบ 16 ทีมไปก็ตาม

ในขณะที่ทีมชุดนี้ ถ้าเราจะมองโลกในแย่ดีก็คือ อย่างน้อยๆ นักเตะที่เรียกมาแม้จะมีหน้าใหม่หลายคน มีตัวเก๋าที่เรียกกลับมาติดบ้าง แต่มันก็เป็นการเปิดโอกาสให้นักเตะเหล่านี้ได้พิสูจน์ตัวเอง เผื่อว่าเราจะเจอช้างเผือกเพื่อใช้ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก และเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้ายในปีหน้า

เพราะถ้าสมมติเราเรียกนักเตะชุดใหญ่แบบเต้มสูบไป บางทีนักเตะเหล่านี้อาจจะไม่มีวันแจ้งเกิด หรือบางคนอาจจะไม่มีโอกาสติดทีมชาติเลยก็เป็นได้

แต่ก็นั่นแหละเมื่อมองอีกมุมนึง มันก็น่าเสียดาย ทั้งๆ ที่เราทำผลงานได้ดีในคิงส์ คัพ ล่าสุด แฟนบอลเริ่มจะโอเคกับ มาโน่ โพลกิ้ง แทนที่เราจะได้ชุดเต็มไปเตะเพื่อต่อยอด แต่ก็ต้องไปแบบชุดเฉพาะกิจแบบนี้

 แต่อย่างที่บอกบางทีนักเตะเหล่านี้ที่ได้โอกาส อาจจะแสดงฝีเท้าได้ดีกว่าเอาตัวดังๆ ไปก็ได้ เพราะทุกคนอยากเล่นให้ทีมชาติ อย่างลงสนาม อาจจะเล่นได้ดีเหมือนกับทีมชาติไทยชุดเอเชี่ยนเกมส์ที่ผ่านมา

จริงๆ แม้ว่าจะมีดราม่าที่สโมสรไม่ปล่อยตัวนักเตะ แต่มันก็ต้องเข้าใจทุกฝ่ายว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ และปัญหามันอยู่ตรงไหน

จริงอยู่ว่านี่เป็นโปรแกรมตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ทุกทีมทั่วโลกเขาก็มีโปรแกรมลงเตะกันทั้งนั้น แต่สำหรับโปรแกรมของไทยที่แต่เดิมเราไม่คิดว่าจะต้องไปอุ่นเครื่องไกลขนาดนี้ มันก็ไม่มีปัญหา ถ้าสมมติว่าได้เตะในบ้าน หรือไปเยือนในระแวกอาเซียน หรือเอเชีย

แต่นี่เราไปยุโรป ต้องเดินทางข้ามทวีป การเดินทางมันก็จะยาวนานกว่า และอาจจะส่งผลต่อสภาพร่างกายของนักเตะ เพราะเกมสุดท้ายที่เราจะเตะกับเอสโตเนียวันที่ 17 ตุลาคม ถ้าไม่เดินทางกลับหลังเตะคืนนั้นเลยก็ต้องเดินทางกลวันที่ 18 ตุลาคม แล้วไทยลีกจะกลับมาเตะ 20 ตุลาคม นักเตะมีเวลาพักวันเดียว 

ขณะที่กลางสัปดาห์นั้นบรรดาทีมใหญ่ก็มีคิวลงเตะเอซีแอล อีก มันก็เลยทำให้ยับโปรแกรมกันลำบาก เพราะถ้าจะไปเลื่อนเกมลีกก็วุ่นวายอีก มันก็เลยออกมาแบบนี้

แต่สโมสรในยุโรปเขาก็ปล่อยกันนะ อย่างทีมที่มีนักเตะอเมริกาใต้ หรือแอฟริกา เขาก็ปล่อยไปเตะกันได้ กลับมาก้มีบอลลีก มีถ้วยยุโรปเตะกัน เขาก็บริหารจัดการกันได้

แต่ของเราก็อย่างที่บอก ไทยแลนด์โอลลี่ ไทยแลนด์สไตล์ มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ 

คนที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือ มาโน่ โพลกิ้ง ที่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากก้มหน้าก้มตารับสภาพไป นี่แหละคือเหตุผลที่แฟนบอลชาวไทยต้องเอาใจช่วยมาโน่ ที่เจอมาทุกรูปแบบ แต่เขาก็ยังเต็มที่ และทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดกับทีมชาติ

คำตอบของเรื่องนี้ก็เอาเป็นว่า "ทีหลังก็ไม่ต้องไปเตะอุ่นเครื่องไกลๆ หรอกครับ ไม่ต้องไปเตะกับทีมที่เก่งกว่ามากมายอะไรขนาดนั้น เตะในบ้านเรา แตะแถมบ้านเราพอ จะได้ไม่มีปัญหา แล้วก็ไม่ต้องไปหรอกบอลโลก อยู่กันแบบนี้แหละ ไทยแลนด์"

 

#ชิชาริเต่า

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline