สุเมธี โคกโพธิ์ นายด่าน การท่าเรือ เอฟซี และหนึ่งในผู้รักษาประตู ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ชุดลุยฟีฟ่าเดย์ ที่ยุโรปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
โดยชื่อนี้อาจจะไม่ใหม่ถ้าใครติดตามฟุตบอลไทยมาสักพัก เพราะตัวของน้องในวัย 24 ปี เป็นที่รู้จักในฐานะเคยเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ (เยอรมนี)
ก่อนจะย้ายมาเล่นกับ ทรู แบงค็อก, ราชบุรี เอฟซี, ชัยนาท ฮอร์นบิล, คัสตอม ลาดกระบัง และล่าสุดมาเฝ้าเสาให้ การท่าเรือ เอฟซี ในศึก รีโว่ ไทยลีก
และเมื่อหลายปปีก่อนยังเคยถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ในยุคของ "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด มาแล้วด้วย
แต่ !! ถ้าใครไม่ค่อยได้ติดตามฟุตบอลไทยคงคิดในใจ "หมอนี่" เป็นใครกัน ?? เพิ่งเห็นลงเล่นในไทยลีก 1 แค่เกมเดียวเอง แล้วทำไม ?? โผล่มามีชื่อถึงขั้นไปติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ แล้ว
แน่นอนว่าพอมันมาออกทรงนี้กระแสการถูกโจมตีคงมุ่งไปที่นักเตะโดยตรงแหละ !!!
ซึ่งผมในฐานะคนทำงานเข้าใจอารมณ์ของแฟนบอลไทยได้ว่าไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเลือกตัวในลักษณะนี้เท่าไหร่ ??
แม้ส่วนตัวจะพยายามทำความเข้าใจว่าการเรียกน้องติดเข้ามาเล่นชุดใหญ่ในครั้งนี้เพราะสถานการณ์ตัวผู้เล่นที่มันบังคับมากๆ
แต่ !! พอเห็นรายชื่อผู้รักษาประตูอีก 2-3 คนที่ถูกลิสต์เอาไว้ใน 50 คนแล้ว ก็ต้องยอมรับอีกเช่นกันว่ามันยังมีคนที่ลงสนามเยอะกว่าน้อง, ฟอร์มหรือผลงานน่าสนใจกว่า น้อง และ ที่สำคัญน่าจะเป็นเวลาของเขามากกว่าน้องด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายมันกลับไม่เป็นแบบนั้น
ซึ่งผมจะไม่ขอก้าวล่วงการตัดสินใจหรือเลือกผู้เล่นในครั้งนี้ของทั้ง มาโน่ โพลกิ้ง และเหล่าทีมงานของ ทีมชาติไทย ทั้งหลาย เพราะคงไม่รู้ตื้นลึกหนาบางทั้งหมด แต่อยากจะพูดในฐานะคนทำงาน ว่าถ้าทำแบบนี้แล้วนักบอลที่เขาทำงานหนักมาตลอดแต่กลับโดนมองข้ามแม้ในช่วงเวลาที่ ทีมชาติไทย กำลังต้องการแรงสนับสนุนจากผู้เล่นคนอื่นๆ ขนาดนี้
ยังไงเอาเถอะ !! ในเมื่อเรียกมาแล้วคงต้องมาดูกันตอนซ้อม, ตอนแข่ง (ถ้ามีโอกาส) ว่าน้องมีดีหรือไม่ดียังไง ก็ถือว่าประตูบานใหญ่เปิดโอกาสให้แล้ว อยู่ที่ตัวเองแล้วล่ะว่าจะโชว์ได้ดีขนาดไหน
สุดท้ายการเรียกตัว "ทีมชาติไทย" ครั้งนี้คงเป็นอีกครั้งและอีกครั้ง และมันคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่มีเรื่องดราม่าให้เราต้องพูดถึงกันแน่นอน เชื่อสิ๊ !!!
บอลพาดู
