logo-heading

ซึ่งเกมนัดนี้แทบไม่ได้พักหายใจ เพราะสไตล์ของทั้ง 2 ทีม ไม่มีใส่เกียร์ R เดินหน้าแลกกันอยู่ตลอด

จริงๆแล้วเกมนี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสจะเก็บ 3 คะแนน พวกเขามีโอกาสยิงฝัง ไบรท์ตัน ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง แต่มันเกิดเรื่องอะไร ทำไมจึงได้แค่ 1 แต้ม เดี๋ยวจะมาสรุปประเด็นที่เกิดขึ้นในแมตช์นี้กัน

- ไบรท์ตัน เล่นโคตรดี ขึง หงส์แดง ตั้งแต่ต้นเกม

ถึงแม้จะมีเกมกลางสัปดาห์ แต่ ไบรท์ตัน ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้าเลยสักนิด พวกเขาดาหน้าบุกเข้าใส่ ลิเวอร์พูล อย่างบ้าคลั่ง มีโอกาสยิงประตูตั้งแต่ 5 นาทีแรก ไล่เพรสซิ่งจนเกมของ หงส์แดง ไปไม่เป็น ขาดอย่างเดียวคือความเฉียบคมในการจบสกอร์เท่านั้น

กระทั่ง การไล่เพรสซิ่งสัมฤทธิ์ผล เพราะกดดันจนนักเตะ ลิเวอร์พูล พลาดกันเองในช็อตที่ อลิสซอน ออกมาจ่ายบอลนอกกรอบเขตโทษ ไหลสั้นๆไปให้กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่ในจังหวะที่ ฟาน ไดค์ จะไหลขึ้นหน้าให้กับ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ แต่ว่าโดน ไซม่อน อดินกร้า โฉบตัดหน้าฉกบอลไปได้ ก่อนจะเห็นว่า อลิสซอน ออกมาเยอะ ก่อนจะลักไก่โชว์ความแม่น ยิงไปตรงช่องที่ อลิสซอน ปล่อยพื้นที่ว่างเอาไว้ ต่อให้พุ่งสุดเหยียดก็ไม่ทัน เป็นประตูขึ้นนำของ ไบรท์ตัน 1-0

พอ ไบรท์ตัน นำ พวกเขาก็ยังเดินหน้าบุกใส่ ลิเวอร์พูล เหมือนเดิม จนมีโอกาสขึ้นนำเม็ด 2 ด้วย โดยเฉพาะช็อตที่ คาร์ลอส บาเลบ้า ลากมาตั้งแต่กลางสนาม ยาวมาจนถึงหน้ากรอบเขตโทษ ยึกหลอก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 1 จังหวะ แต่งเข้าซ้าย ทว่ายิงเฉียดเสาออกไปแบบได้ลุ้น

- ลิเวอร์พูล ใช้ความผิดพลาด ยิงแซง ไบรท์ตัน

เหลือจะเชื่อว่า ครึ่งแรกที่ ลิเวอร์พูล แทบทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน จะมาได้ประตูตีเสมอแบบไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งเป็นความผิดพลาดของนักเตะ ไบรท์ตัน ที่ออกบอลพลาด โดน ลิเวอร์พูล ตัดบอลได้จากกลางสนาม ก่อนจะเป็น หลุยส์ ดิอาซ พลิกหลบหลุดทั้งกระบิ ป้ายต่อสั้นๆให้กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แต่ เอลเลียตต์ กระโดดหลบ ปล่อยให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งเข้ามายิงแบบล่อเป้า ตีเสมอเป็น 1-1

จากนั้นไม่นาน ลิเวอร์พูล มาเร่งเครื่อง ได้ประตูแซงนำ 2-1 จากความผิดพลาดของนักเตะ ไบรท์ตัน เหมือนเดิม โดย บาร์ท แฟร์บรู๊กเก้น ผู้รักษาประตู นกนางนวล ออกบอลยาก ไปจ่ายบอลให้เพื่อนเล่นยาก โดนฉกในกรอบเขตโทษ ก่อนจะไปดึง โดมินิค โซบอสไล ล้มลง กลายเป็นเสียจุดโทษให้กับ ลิเวอร์พูล และ บังโม สังหารไม่พลาด

จาก 2 ประตู ที่ ซาลาห์ ทำได้นั้น เป็นการตอกย้ำว่าการเจอกับ ไบรท์ตัน ถูกโฉลก บังโม เหลือเกิน เพราะ 13 นัด ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่พบกัน ซาลาห์ มีส่วนร่วมในการยิงมากถึง 15 ลูก แบ่งเป็นซัดเอง 9 ประตู และ แอสซิสต์อีก 6 ครั้ง ใครมีอยู่ในทีมแฟนตาซี สัปดาห์นี้ บอกเลยแต้มกระฉูด !!

- กดลูก 3 ไม่ได้ คือจุดเปลี่ยนสำคัญ

อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญในเกมนี้ คือ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถทำประตูฉีกห่างเป็น 3-1 ได้ ทั้งๆที่พวกเขามีโอกาสมากมายเหลือเกินในช่วงเริ่มต้นครึ่งหลัง ซึ่งถ้าทำได้ก็คงจะปิดเกมไปแล้ว

โดยเฉพาะช็อตที่ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ได้ยิงจ่อๆหน้าปากประตู จากการปาดมาให้ของ โดมินิค โซบอสไล โดยเหลือเพียงแค่ประตูเปล่าโล่งๆ แต่ด้วยความที่บอลมันกระดอนพอดี ทำให้เขายิงไปชนคานแบบเหลือเชื่อ ชนิดที่เจ้าตัวยังเสียดายกับโอกาสที่อยู่ตรงหน้า

ไหนจะมีจังหวะที่ หลุยส์ ดิอาซ ได้เข้าไปล่อเป้าในกรอบเขตโทษ มีเพื่อนๆเติมอยู่เสาไกล แต่เขาเลือกกดด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงเป็นจรวด แต่เสียอย่างเดียวไม่ตรงกรอบ ซึ่งถ้า หงส์แดง ใส่สกอร์ลูก 3 ได้ พวกเขาคงจะเล่นง่ายมากกว่านี้ และ ผ่อนคลายมากกว่านี้ แต่ในเมื่อทำไม่ได้ ก็ต้องถูกลงโทษในที่สุด

- ลิเวอร์พูล พลาดอีก ไบรท์ตัน ตีเสมอ

ด้วยความที่เป็น ไบรท์ตัน และ เล่นในบ้านของตัวเอง พวกเขาไม่เคยกลัวใครหน้าไหน ต่อให้คู่แข่งเป็น ลิเวอร์พูล อยู่ตรงหน้าก็ตามเถอะ โดยเฉพาะ คาโอรุ มิโตมะ สปีดโคตรจัดจ้าน ดวล 1v1 กับกองหลัง ลิเวอร์พูล นี่โคตรจะปั่นป่วน

จนกระทั่งมาถึงนาทีที่ 78 ไบรท์ตัน มาได้ลูกฟรีคิก ตรงกรอบเขตโทษ เยื้องมาทางฝั่งซ้าย ได้โยนลุ้นเข้าไปในกรอบเขตโทษ และแล้วจังกวะนี้ความผิดพลาดของ ลิเวอร์พูล ก็กลับมาทำร้ายพวกเขาอีกครั้ง

เนื่องจากการครอสเข้าไปของ ซอลลี่ มาร์ช นั้น กลายเป็นว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กองหลัง ลิเวอร์พูล ดันกระโดดยึกยักไม่ยอมเล่นบอล ทำให้เพื่อนเสียจังหวะไปด้วย กลายเป็นบอลตกไปถึงเท้าของ ลูอิส ดังค์ กระแทกเข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 2-2 

ซึ่งการที่ ลิเวอร์พูล ทำประตูที่ 3 ไม่ได้ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ไบรท์ตัน มีแรงกระตุ้นกลับคืนมา จริงๆ นกนางนวล มีโอกาสซัดประตูชัยด้วย จาก เจา เปโดร ได้ซัดเหน่งๆกลางประตูในกรอบเขตโทษ แต่ยิงเหินข้ามคานเหลือเชื่อ สุดท้ายเสมอกันไป

- ผลเสมอนัดนี้ เสียหายไหม ?

ผลเสมอนัดนี้ อาจจะน่าเสียดายสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะอุตส่าห์ขึ้นนำแล้ว แต่ไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนได้ แต่ถ้าถามว่าเสียหายไหม ไม่เลยครับ เพราะ ไบรท์ตัน ชั่วโมงนี้ ใครก็ยากจะเอาชนะได้ หรือต่อให้ชนะ ก็ต้องมีเสียเหงื่อกันหน่อย

โดย 1 คะแนนของ ลิเวอร์พูล ยังทำให้พวกเขารั้งอันดับท็อปโฟร์เหมือนเดิม ลงแข่ง 8 นัด มี 17 คะแนน ตามหลัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ขึ้นไปอยู่จ่าฝูง อยู่ 3 คะแนน ถือว่าไม่ห่างกันมาก ดังนั้นผลเสมอไม่เสียหายเท่าไหร่

ขณะที่ ไบรท์ตัน ต่อให้จะมีโปรแกรมลงเตะถี่ไม่แพ้กัน เพราะเพิ่งไปเล่น ยูโรปา ลีก มาหมาดๆ แต่ก็ทำให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมคนอึด ตายยาก มากเพียงใด โดยผลเสมอเกมนี้ถือว่าน่าพอใจ และ ยังเกาะกลุ่มหัวตารางต่อไป โดย ไบรท์ตัน อยู่อันดับ 6 ของตาราง มี 16 คะแนน ไล่ตาม หงส์แดง แค่ 1 แต้ม

บอกเลยว่าซีซั่นนี้ กลุ่มลุ้นแชมป์ กลุ่มลุ้นโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สู้กันสนุกสุดใจอย่างแน่นอน เผลอๆอาจจะลุ้นกันอย่างเมาส์มันไปจนจบซีซั่น เพราะมันไม่ได้มีแค่บิ๊ก 6 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกแล้ว 

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline