logo-heading

เอฟเฟ็กต์หลังเกมนั้น เป้าหมายที่พุ่งชน และ ถูกวิจารณ์กันอย่างหนักหน่วง ซึ่งคุณก็อาจจะเห็นได้ตามโพสต์ของเพื่อนๆในเฟซบุ๊ค นั่นก็คือ การยืนอตำแหน่งหมายเลข 6 ของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กองกลางตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล

ถึงขนาดที่นักข่าวจากสำนัก This is Anfield สื่อท้องถิ่นของ ลิเวอร์พูล พาดหัวชื่อสกุ๊ปของตัวเองด้วยคำโตๆเลยว่า "Alexis isn’t a 6 "

เพราะทุกคนต่างรู้กันดีว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ เขาถนัดในบทบทมิดฟิลด์หมายเลข 8 ... ตำแหน่งนี้เขาโดดเด่นมากเหลือเกิน สมัยอยู่กับ ไบรท์ตัน ตำแหน่งนี้เขาเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่ช่วยพาทีมชาติอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 มาครอง

ถึงแม้ว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ จะทำผลงานได้น่าประทับใจในการเล่นเป็น deep-lying midfielder นับตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่น ช่วยให้ ลิเวอร์พูล รั้งท็อปโฟร์ก่อนพักเบรก "ฟีฟ่า เดย์" แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่การแก้ขัด และ เขากำลังเสียเวลาในการปรับตัวเล่นเป็นมิดฟิลด์เบอร์ 6

ทำไม แม็คก้า ถึงไม่เหมาะกับการเล่นเป็นตัวรับ ทำไมสาวก เดอะ ค็อป อยากเห็นเขาบุกขึ้นไปในแดนคู่แข่งมากกว่า เดี๋ยว ขอบสนาม อินไซด์ จะพาไปวิเคราะห์เรื่องนี้พร้อมๆกัน

- เหตุที่จำเป็นต้องมาเล่นเป็นมิดฟิลด์หมายเลข 6

ขอปัดฝุ่นสักเล็กน้อยก่อนครับ !! สาเหตุที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ต้องถอยมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ เนื่องด้วย ลิเวอร์พูล เจอสภาวะอาร์ฟเตอร์ช็อค จากการที่ทีมจากซาอุดิอาระเบีย มาซื้อตัว ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปร่วมทีม ซึ่งการขาดหายไปของ เฮนโด้ มันมีตัวใหม่มาแทนอยู่แล้ว แต่กับ ฟาบินโญ่ นี่แหละครับ คือปัญหาใหญ่ ที่ ลิเวอร์พูล จัดการไม่ได้

เจอร์เก้น คล็อปป์ พยายามจะตามหา DM คนใหม่ ไล่จีบ โรเมโอ ลาเวีย ยอมทุบคลังสโมสรยื่นซื้อ มอยเซส ไกเซโด้ ในราคา 110 ล้านปอนด์ แต่ด้วยความเชื่องช้า และ ไม่จริงใจ ทำให้นักเตะ 2 คนนั้น เลือกย้ายไปอยู่กับ เชลซี ที่ทุ่มค่าตัวให้มากกว่า

เมื่อเป้าหมายที่ต้องการไม่ได้มาร่วมทีม ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องเลือกช๊อยส์อื่นๆ และ สุดท้ายหวยมาออกที่ วาตารุ เอ็นโด มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่ง หงส์แดง คว้าตัวมาจาก สตุ๊ตการ์ท ในราคาราวๆ 15 ล้านปอนด์ ไม่ว่าจะซื้อมาแก้ขัด หรือ ใช้เป็นตัวหลักอะไรก็ตามแต่ กระนั้น เอ็นโด ยังต้องใช้เวลาปรับตัว และ คล็อปป์ ยังไม่ค่อยเลือกใช้งาน ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ทำให้หน้าที่ตัวรับต้องตกเป็นของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ตั้งแต่เกมนัดแรกของฤดูกาล ที่เสมอกับ เชลซี 1-1 จากนั้นก็เรื่อยยาวมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยแผงกองกลาง 3 ประสานที่ คล็อปป์ ชื่นชอบ แม็ค อัลลิสเตอร์ - เคอร์ติส โจนส์ และ โดมินิค โซบอสไล นั่นเอง

- สาเหตุที่ แม็ค อัลลิสเตอร์
ไม่เหมาะกับบทบาทหมายเลข 6

สไตล์การเล่นของ แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่แฟนบอลนึกถึง และ สัมผัสได้ คือเข้าความใจในเกมการเล่นสูงมาก สามารถเล่นกันได้อย่างผสมผสาน ทั้งหมายเลข 6 (มิดฟิลด์ตัวรับ) / หมายเลข 8 (มิดฟิลด์ตัวเดินเกม) หรือ หมายเลข 10 (มิดฟิลด์ตัวทำเกม)

แต่มิดฟิลด์หมายเลข 8 นี่แหละครับ เหมาะสมกับเขามากที่สุดแล้ว โดย แม็ค อัลลิสเตอร์ ไม่ได้มีสกิลพิเศษที่สามารถกระชากลากเลื้อยแหวกหนีคู่แข่ง หรือ มีช็อตยิงไกลอันลือลั่นให้เห็นมากนัก แต่เหลี่ยมบอล และ การวางบอลแบบฉลาดเป็นกรดนี่แหละครับ คือจุดเด่นของเขา เหมือนที่เคยตักข้ามหัวกองหลัง เวสต์แฮม ไปให้กับ ดาร์วิน นูนเญซ ยิงเข้าไป

แต่นั่นเป็นเพราะ แม็ค อัลลิสเตอร์ ดันตัวเองขึ้นมาอยู่ในเขต Final Third หรือ พื้นที่ 35 หลาสุดท้ายของแดนคู่แข่ง ทำให้เขาสามารถคลายพิษสงตัวเองออกมาได้เยอะมาก

มันเป็นการบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า การขึ้นไปอยู่ในแดนคู่แข่งของ แม็ค อัลลิสเตอร์ มันคือบทบาม Advanced Playmaker ตำแหน่งที่เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลาง, มิดฟิลด์ตัวรุก หรือ ตัวทำเกมริมเส้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบมากกว่า

และ อย่าลืมว่า เป็นเพราะ เวสต์แฮม หรือ คู่แข่งทีมอื่นๆ ไม่กล้าต่อกรบุกเปิดหน้าใส่ ลิเวอร์พูล ก็ลงไปถอยตั้งรับ ทำให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ไม่ต้องพะวงเรื่องเกม และ สามารถเติมขึ้นไปช่วยเกมรุกได้อย่างสบายใจ เพราะอย่างน้อยข้างหลัง ก็มีเซ็นเตอร์แบ็ก คอยซ้อนอีกทีอยู่แล้ว !!

แต่ทีนี้ ตัดภาพมาที่เวลาเจอกับคู่แข่งที่ไม่กลัว ลิเวอร์พูล ซิครับ ... วันเจอกับ เชลซี ก็ออกอาการชัดเจนว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่นเบอร์ 6 ไม่ได้ เขาไม่ได้มีพรสวรรค์ในการไล่ตัดเกม หรือ คอยแท็คเกิ้ลหนักๆใส่คู่แข่ง ยิ่งเกมเสมอกับ ไบรท์ตัน ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า การถอย แม็ค อัลลิสเตอร์ ไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ไม่ใช่คำตอบ !!ฃ

คุณไม่ต้องเรียนโค้ช หรือ เป็นศาตราจารย์ลูกหนัง ก็รับรู้ได้ว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ ไม่เหมาะกับมิดฟิลด์เบอร์ 6 จริงๆ

แม็ค อัลลิสเตอร์ มีจุดอ่อน เรื่องความแข็งแกร่งในการเบียดปะทะ ซึ่งตำแหน่งนี้ต้องปะทะกับเกมรุกฝ่ายตรงข้าม หรือ ความเร็ว ความไหลลื่น เมื่อต้องยืนหน้าแผงแบ็กโฟร์ เวลาเจอคู่แข่งที่ไล่บีบเพรสซิ่ง ความคล่องตัว การเอาตัวรอด นี่แหละสำคัญมาก และ การเชื่องช้าไปเพียงแค่เสี้ยววินาที มันนำมาซึ่งการเสียประตูแรกในเกมเจอกับ ไบรท์ตัน

การที่เขาต้องคอยรับบอลในแดนตัวเอง เพื่อเซ็ตบอลขึ้นหน้า กลายเป็นว่าประสิทธิภาพที่ ลิเวอร์พูล ต้องการจากเขา มันก็หายไปด้วย

แม็ค อัลลิสเตอร์ พยายามทำตัวเป็นมืออาชีพ โดยเขาบอกว่า ตำแหน่งเบอร์ 6 ไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาถนัด แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด เรียกว่า บอสสั่งมาแบบไหน ก็พร้อมลงไปทำหน้าที่แบบนั้น

จริงอยู่ที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่นตำแหน่งนี้ได้ แต่ไอ้คำว่า "เล่นได้" กับคำว่า เล่นแบบ Elite Player มันแตกต่างกัน คนที่แทบไม่เคยเล่นมิดฟิลด์ตัวรับมาทั้งชีวิต ต้องเปลี่ยนมาเล่นตำแหน่งนี้ในเวลาแค่ 2-3 เดือน ไม่มีทางจะทำให้ดีแบบเพอร์เฟ็คท์เลยได้แน่

ในความรู้สึกของผม ไม่รู้ว่า คล็อปป์ ดื้อใช้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ตำแหน่งนี้ เพราะอยากปั้นจริงๆ หรือ ยังมองว่า เอ็นโด ยังไม่พร้อมกับฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไป ผลเสียมันจะส่งมาทั้งนักเตะ และ สโมสร

เหมือนเอาคนถนัดขวา มาเขียนหนังสือด้วยมือซ้าย .. เขียนอ่านออกแหละครับ แต่มันฝืน และ ไม่สวย ก็หวังว่าสักวันหนึ่ง คล็อปป์ จะจับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กลับไปยืนตำแหน่งหมายเลข 8 แบบที่เขาถนัดจริงๆ แต่วันนั้นอาจเป็นวันที่ เอ็นโด ปรับตัวได้ หรือ มีมิดฟิลด์ตัวรับเข้ามาสู่ทีมเพิ่มเติมแล้ว

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline