logo-heading

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มีการแสดงความคิดเห็นผ่านโลกโซเชียลออกมาเป็น 2 ฝ่าย คือทั้งเข้าใจหัวอกของนักฟุตบอล หรืออีกฝั่งที่ไม่พอใจที่นักเตะแสดงออกแบบนั้นต่อแฟนบอลที่ตามให้กำลังใจ มาขอลายเซ็น หรือถ่ายรูป

ทว่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นในรายละเอียดเชิงลึกถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ เพราะมีการตั้งคำถามถึงกลุ่มแฟนบอลดังกล่าวที่มาหากินเกี่ยวกับการมาขอลายเซ็น และเอาไปขายต่อในตลาดออนไลน์

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราจะมาเจาะรายละเอียดให้เคลียร์แบบชัดเจนไปเลยว่าดราม่าครั้งนี้มีที่มาเป็นอย่างไร

ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนว่าปัจจุบันในโลกออนไลน์มีการทำคอนเทนต์ของเหล่าแฟนบอลที่มาดักรอนักเตะหน้าสนาม หรือเส้นทางที่นักฟุตบอลกำลังขับไปฝึกซ้อมกันอย่างแพร่หลาย เพื่อขอลายเซ็นเก็บไว้เป็นที่ระลึก

สรุปประเด็น \"กานเซโร่\" ที่หน้าเหวี่ยงตอนถ่ายรูปกับแฟนบอล

แน่นอนจุดนี้สามารถมองได้ออกเป็น 2 มุม ทั้งแฟนบอลที่ต้องการเก็บไว้ที่เป็นระลึกจริงๆ ว่าครั้งหนึ่งเคยใกล้ชิดกับนักเตะในดวงใจ หรืออีกอย่างคือการเอาของเหล่านั้นไปถ่ายทอดในการตลาดออนไลน์สร้างรายได้อย่างมหาศาล

ยกตัวอย่างง่ายๆ คือเมื่อคุณมีเสื้อของ ลิเวอร์พูล ที่มีลายเซ็นต์นักเตะอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หรือ เสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีลายเซ็นต์ของนักเตะระดับหัวกระทิอย่างทีมอย่าง บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์

จากเสื้อที่มูลค่าเพียงหลักพันต้นๆ อาจเพิ่มแบบยกระดับไปแตะที่พันปลายๆ หรือตัวเลข 5 หลักได้เลยทีเดียว เพียงแค่มีลายเซ็นต์ของแข้งคนดังเพียงเท่านั้น

ในเคสของ กานเซโร่ ตามคลิปที่ปรากฎในโซเชียลตอนนี้คือเจ้าตัวกำลังขับรถออกมาจากสนามซ้อม ก่อนถูกแฟนบอลดักรอเพื่อขอถ่ายรูป และขอลายเซ็นต์

ทว่ากับภาพที่กำลังเป็นประเด็นคือฟูลแบ็ครายนี้จอดรถจริง แต่สีหน้าแสดงออกมาอย่างชัดเขนว่าเบื่อหน่าย แถมมีการสบทคำพูดออกมาประมาณว่า “พวกนายแม่งโคตรน่ารำคาญเลยว่ะ ฉันต้องมาจอดรถทุกวันเพื่อทำอะไรแบบนี้หรอ”

แน่นอนว่าคำพูดดังกล่าวอาจสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลเป็นวงกว้าง เพราะนี่คือแฟนบอลที่ตามสนับสนุนคุณ แต่กลับแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสมออกมา

ซึ่งเมื่อประเด็นดังกล่าวกระแสเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ กานเซโร่ ต้องออกมาเคลียร์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันมีเหตุ และผลของมัน เพราะเด็กกลุ่มนี้ต้องการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากเขา

สรุปประเด็น \"กานเซโร่\" ที่หน้าเหวี่ยงตอนถ่ายรูปกับแฟนบอล

“ผมมีหลายสิ่งที่จะพูดอย่างแรกพวกเขาไม่ใช่แฟนคลับ พวกเขาเป็น เด็กอายุ 20 ปีที่อยู่ที่นั่นทุกวันไม่ว่าจะที่ประตูศูนย์ฝึกซ้อม ทั้งตอนที่ผมอยู่กับลูกสาวในสวนสาธารณะ หรือออกไปทานอาหารเย็นกับแฟนสาว”

“ต่อมาพวกเขาขอลายเซ็นบนเสื้อแล้วเอาไปขายในภายหลัง และทำสิ่งนี้ซ้ำทุกวัน โดยคนเดิมอยู่เสมอ มีคนไม่รู้จักเคารพพื้นที่ของกันและกัน ให้กับคนที่วิพากษ์วิจารณ์ พยายามค้นหาความจริงของสถานการณ์แล้วแสดงความคิดเห็น เพราะแฟนพันธุ์แท้จะให้ความเคารพเสมอ”

เมื่อได้ฟังเสียงจาก กานเซโร่ ที่ออกมาเคลียร์ภาพให้ชัดขึ้น ส่งผลให้มีกระแสแบ่งแยกออกมาเป็น 2 ฝั่งแบบชัดเจน บ้างก็เห็นใจนักฟุตบอลที่ต้องเข้ามาเป็นเหยื่อการตลาดของคนกลุ่มนี้ หรืออีกกลุ่มก็ตั้งคำถามว่า กานเซโร่ รู้ได้อย่างไรว่านี่คือกลุ่มคนที่จะเอาไปขาย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเหล่าลายเซ็นของนักฟุตบอลคนดังไม่ว่าจะเซ็นต์ลงที่ไหน เสื้อ, ลูกฟุตบอล หรือการ์ดนักเตะ ย่อมเพิ่มมูลค่าทางการตลาดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มาครอบครอง

ซึ่ง กานเซโร่ ก็ถือว่าเป็นนักเตะในระดับเกรด A เป็นที่ต้องการของตลาด และสามารถนำไปต่อยอดได้ในตลาดการซื้อ-ขาย

ส่วนสิ่งที่ กานเซโร่ แสดงออกมาอย่างน้อยมันก็พอจะบอกได้ว่าไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ให้ หรือยอมถ่ายรูป เพียงแต่ว่าไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เขากำลังคิดว่าคนกลุ่มนั้นจะเอาสิ่งของไปถ่ายทอดในตลาดต่อไป

แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถฟันธงได้แบบ 100% ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เจา กานเซโร่ ต้นสายปลายเหตุมันคืออะไร และกลุ่มคนที่วนมาหาซ้ำๆ ต้องการอะไรจากกระทำในครั้งนี้

ทว่าเราก็สามารถยืนยันได้แบบ เคลียร์ ได้อย่างชัดเจน 100 % ว่าสิ่งที่ กานเซโร่ วีน หรือเหวี่ยงกับคนกลุ่มนั้นมีเหตุผลในตัวเอง เพราะเขาเคยพบเจอมาก่อน และเวียนมาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็นต์ ฉะนั้นไม่แปลกที่เจ้าตัวจะเกิดข้อสงสัย และแสดงท่าทีออกมา

เช่นกันสังคมย่อมมองในมุมที่แตกต่างกันออกไปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใครเป็นฝั่งที่ถูก หรือฝ่ายที่โดนกระทำ เพราะต่างคนก็ต่างความคิด แต่นี่แน่ๆการเอาลายเซ็นนักฟุตบอล ไปต่อยอดทางธุรกิจ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลยจริงๆ เพราะนักเตะ เซ็นให้จากใจ ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline