logo-heading

จบกันไปแล้วครับ สำหรับเกม เอลกลาซิโก้ ครั้งที่ 297 เป็นทางฝั่ง ราชันชุดขาว ที่มาเก็บชัยในครั้งนี้ไปได้ ด้วยความยอดเยี่ยมของ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่เหมาสอง พา เรอัล มาดริด รั้งจ่าฝูงอีกครั้ง วันนี้จะมาประเด็นอะไรให้พูดถึงกันบ้าง มาดูกันครับ

[ บาร์ซ่า เล่นดี แต่จบไม่ได้ ]

วันนี้ทางฝั่งเจ้าบ้าน บาร์เซโลน่า ถือว่าเริ่มต้นมาได้ดีเลยครับ แถมยังมาได้ประตูเร็วในนาทีที่ 6 จากการสกัดบอลพลาดของ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ แม้ ดาวิด อลาบา จะพยายามสกัดแล้ว แต่บอลก็ยังไปเข้าทางปืนของ อิลคาย กุนโดกัน ซัดเข้าไป 

รูปเกมในครึ่งแรกถือว่าทางฝั่ง เจ้าบ้าน บาร์เซโลน่า เล่นได้ดีกว่าชัดเจน ทั้งครองบอลมากกว่า สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูก็ทำได้ดีกว่าทางฝั่ง ทีมเยือน เรอัล มาดริด อย่างเห็นได้ชัด 

แต่ด้วยความที่ว่าในเกมวันนี้ของ บาร์เซโลน่า ขาดกองหน้าตัวหลักอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ทำให้เจ้าตัวยังไม่พร้อมสำหรับเล่นเป็นตัวจริงในเกมวันนี้ ส่งผลให้คุณภาพในการจบสกอร์ของทีม ด้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด

เราจะเห็นได้เลยว่า พอทางฝั่งเจ้าบ้านได้โอกาสในการทำประตู ก็ยิงนกตกปลา ยิงติดเซฟบ้าง ชนเสาชนคานบ้าง ชัดเจนเลยว่าการขาดหายไปของ ศูนย์หน้าชาวโปแลนด์ ในเกมสำคัญอย่าง เอลกลาซิโก้ มันส่งผลกระทบต่อเกมรุกของทางฝั่ง บาร์เซโลน่า อย่างมหาศาลจริงๆ 

โดยกองหน้าเฉพาะกิจวันนี้อย่าง เฟร์รัน ตอร์เรส ที่แทบจะไม่มีส่วนร่วมอะไรกับเกมวันนี้เลย เจ้าตัวได้สัมผัสบอลไปเพียงแค่ 26 ครั้งเท่านั้น น้อยที่สุดในสนาม เสียบอลไปถึง 8 ครั้ง แถมยังไม่มีโอกาสง้างประตูเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แต่นักเตะที่พอจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้บ้าง กลับเป็นดาวรุ่งวัย 20 ปีอย่าง เฟอร์มิน โลเปซ ที่วันนี้ถูกจับมายืนในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ซึ่งเจ้าหนูรายนี้ถือว่า ทำผลงานได้น่าประทับใจทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการพาบอลขึ้นหน้า จ่ายคีย์พาสสวยๆ หรือการหาจังหวะจบสกอร์ 

—----------------------------

[ การแก้เกมของ อันเชล็อตติ ]

ครึ่งแรกของทางฝั่งทีมเยือนอย่าง เรอัล มาดริด เรียกได้ว่าห่วยแตกสุดๆ เกมรุกก็ทำอะไรเจ้าบ้านไม่ได้เลย จ่ายบอลก็พลาดกันเองง่ายๆจนเกือบเสียประตูอยู่หลายครั้ง เกมรับก็รั่วไหล มีช่องให้ บาร์เซโลน่า โจมตีอยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะทางฝั่งของ แฟร์ล็องด์ เมนดี้ ที่ดวลตัวๆ กับ เจา กานเซโล่ แทบจะเอาไม่อยู่ จังหวะการเติมเกมรุกก็ดูติดๆขัดๆ ไปหมด

ในครึ่งหลัง อันเช่ ได้แก้เกมโดยการปลี่ยน เอดูอาร์โด กามาวินก้า ลงสนามแทนที่ของ แฟร์ล็องด์ เมนดี้ ในช่วงต้นครึ่งหลัง 

ปรากฏว่า รูปเกมของ ราชันชุดขาว ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายดูไหลลื่นมากขึ้นกว่าเดิม เกมรับเองก็ทำได้ยอดเยี่ยม แถมยังมีจังหวะจ่ายบอลสวยๆให้เห็นอยู่หลายต่อหลายครั้ง โดยสื่อหลายสำนักของต่างประเทศยกให้พี่แกเป็น Game Changer เลยทีเดียว

โดยสถิติสำคัญในเกมเมื่อคืนของ กามาวิงก้า จ่ายบอลสำเร็จ 100% , จ่ายคีย์พาส 2 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่าน 100%, ดวลชนะอีก 6 ครั้ง 

ลูก้า โมดริช ที่ลงมาแทน โทนี่ โครส เองก็ทำหน้าที่ได้ดี ทั้งการคุมจังหวะเกมช่วยให้แดนกลางมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือจังหวะจ่ายบอลก็ดูทำได้เนียนตาเหมือนเดิม แถมยังมีส่วนร่วมกับประตูชัยของทีมอีกด้วย 

ชัยชนะในวันนี้ของ เรอัล มาดริด คงต้องชมการแก้เกมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมจนทีมสามารถพลิกกลับมาแซงได้ในท้ายที่สุด

—----------------------------

[ ทีเด็ด จู๊ดเบลลิงแฮม ]

MVP ของเกมวันนี้คงหนีไม่พ้น เดอะ คิง จู๊ด เบลลิงแฮม อย่างแน่นอน ที่เกมในวันนี้รับบทเป็นฮีโร่ของ เรอัล มาดริด อีกครั้งและอีกครั้ง ยิงเบิ้ลสองประตู ช่วยให้ ราชันชุดขาว เก็บสามแต้มสำคัญกลับบ้านได้สำเร็จ

แม้เจ้าตัวจะทำผลงานได้ไม่ค่อยดีซะเท่าไหร่ ถ้าไม่นับประตูที่ทำได้ โดยเฉพาะในครึ่งแรก ที่แทบจะหายออกไปจากเกม แถมยังเสียบอลเยอะที่สุดในสนามถึง 15 ครั้ง

แต่ก็นี่แหละครับ ที่เขาเรียกกันว่า “นักเตะระดับเวิร์ลคลาส” แม้ในเกมจะดูทำอะไรไม่ค่อยได้ แต่พอจังหวะสำคัญๆ หรือจังหวะที่ทีมต้องการประตู เตะนักเหล่านี้มักจะปรากฏกายออกมาสร้างปาฏิหารย์ให้กับทีมได้เสมอ

จากที่รูปเกมดูจะไม่มีอะไรก็อยู่ดีๆ ก็โพล่มาตะบันนอกกรอบเขตโทษ ยิงตีเสมอให้กับทีมได้แบบดื้อๆ เท่านั้นยังไม่พอ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในนาทีสุดท้าย โมดริช จับบอลลั่น แต่บอลดันมาเข้าทาง จู๊ด เบลลิงแฮม ยิงจ่อๆเข้าไปแบบช็อคแฟนบอล บาร์ซ่า ทั้งสนาม เรียกได้ว่าอยู่ถูกทีถูกเวลาตลอด

ดูจากผลงานในฤดูกาลนี้ของ จู๊ด เบลลิงแฮม โดยลงสนามรวมทุกรายการไปทั้งหมด 13 นัด ยิง 13 ประตู 3 แอสซิสต์ 8 แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ ด้วยผลงานระดับพระกาฬเช่นนี้ เงินจำนวน 100 ล้านปอนด์ ที่ เรอัล มาดริด จ่ายให้กับ ดอร์ทมุนด์ จัดได้ว่าคุ้มค่าทางบาท ทุกสตางค์ จริงๆ 

คิดอะไรไม่ออกบอกจู๊ด!! ประเด็นหลังเกม ศึกเอลกลาซิโก้ มาดริด ยิงเบิ้ลดับ บาร์ซ่า คาบ้าน 2-1
 

- บีเบลล์ กูนเนอร์ -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline