logo-heading

เกมนี้ มีสถิติอันห่วยแตกเกิดขึ้นมากมายที่เกิดขึ้นในรอบ 60 ปี !! นอกจากนั้น เอริค เทน ฮาก กลายเป็นกุนซือร้อนอย่างแท้จริง กระแสไล่ออกจากตำแหน่งกุนซือ ปีศาจแดง มันจะลุกลามมากขนาดไหน เดี๋ยว ขอบสนาม สเปเชี่ยล จะมาบรรยายให้ฟังกัน

- สถิติ ปีศาจแดง แชมป์เก่า เศร้าคาบ้าน

แค่การแพ้แบบไร้ศักดิ์ศรี ก็น่าชอกช้ำระกำใจมากอยู่แล้ว แต่การกระเด็นตกรอบ คาราบาว คัพ แบบแพ้คาบ้าน ที่มีแต่สถิติห่วยๆเกิดขึ้น ย่อมเศร้าใจมากยิ่งกว่า เพราะมันมีตัวเลขฟ้องหลายอย่างว่าเลย ปีศาจแดง กำลังมีผลงานที่แย่สุดๆในรอบกว่า 60 ปี เลยทีเดียว

เริ่มจากสถิติแรก !! ฟังกันให้ชัดๆเลยนะครับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ต่อคู่แข่งในซีซั่นนี้ ซีซั่นเดียว ไปแล้วถึง 8 นัด จาก 15 เกม ที่พวกเขาลงทำการแข่งขันทุกรายการ เป็นความพังพินาศ ที่เกิดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1962-63 หรือ เป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี .. เป็นไงครับ ฟังแล้วเจ็บปวดหรือเปล่า

ต่อมาเลยนะครับ สถิติที่ 2 !! ก็กระอักกระอ่วนใจไม่แพ้กัน เพราะการเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซีซั่นนี้ กลายเป็นเปิดบริการ "รีสอร์ท แอนด์ สปา" อย่างแท้จริง .. สิ่งที่ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อครับ นั่นคือ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนคู่แข่งบุกมายิงที่รังเหย้าตัวเอง แตะหลัก 3 ประตู ชนิดที่ยังไมได้ แบบ 2 นัดติดต่อกันแล้ว ทั้งเกมแพ้ แมนฯ ซิตี้ กับ นิวคาสเซิ่ล 0-3 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1961-62 เช่นกัน

แค่นี้มันก็เป็นสถิตที่ชอกช้ำมากจริงๆ ซึ่งจากการแพ้ สาลิกาดง มันเป็นการตอกย้ำว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มันห่วยแตกเกินห้ามใจ ทั้วงตกรอบ คาราบาว คัพ, อยู่อันดับ 8 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามหลังจ่าฝูง 11 คะแนน, อยู่อันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมกับมีเปอร์เซ็นต์คว้าชัยชนะเพียงแค่ 46 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น เรียกว่าเป็นแฟนบอล ปีศาจแดง ต้องอดทนจริงๆ

- เทน ฮาก เก้าอี้ร้อน

ใครที่เคยบอกไว้ว่า เอริค เทน ฮาก คงไม่โดนปลดหรอก ถึงแม้จะผลงานห่วยแตกมากแค่ไหนก็ตาม หลังจากมีข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องใช้เงินประมาณ 15 ล้านปอนด์ เพื่อทำการยกเลิกสัญญากับกุนซือรายนี้ หรือ ต่อให้ปลดจริงๆ จะมีใครหน้าไหนกล้าเข้ามารับเผือกร้อนในสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นต้องให้เวลากับ เทน ฮาก ในการแก้สถานการณ์มากกว่านี้อีกหน่อย

แต่กระนั้น "สถานะ" ของ เอริค เทน ฮาก หลังจบเกมแพ้คาบ้านต่อ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-3 มันเปลี่ยนไปแล้วนับจากนี้ เพราะผลงานความห่วยแตกที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่ เอริค เทน ฮาก ต้องรับผิดชอบไปแบบเต็มๆ .. เล่นบอลไม่มีทรง ความเป็นทีมเวิร์คไม่มีให้เห็น ก่อนลงสนามเหมือนไม่เคยคุยกันมาก่อน พากันเล่นไปคนละทิศคนละทาง เหลือเกิน

นอกจากนี้ การใช้เงินไปเกือบ 400 ล้านปอนด์ ในการเสริมทัพ เรียกว่า เทน ฮาก ได้อำนาจบาตรใหญ่ในการเลือกนักเตะเองหมดทุกคน ไม่ว่าจะเป็น อันโตนี่, โซฟียาน อัมราบัต, เมสัน เมาท์ หรือ อังเดร โอนาน่า เป็นต้น แต่ทุกชื่อที่กล่าวมา ไม่สามารถยกระดับทีมให้ดีขึ้นได้เลย ส่วนนักเตะที่อยู่มาก่อนหน้านี้ ก็ไม่เห็นจะสร้างความแตกต่างอะไรไว้เลย

เชื่อเถอะว่า กระแส "เทน ฮาก เอาท์" มันจะร้อนแรงเหมือนดั่งเอาน้ำมันราดลงบนกองไฟ มันจะลุกลามมากขึ้นไปทั่วทุกสารทิศ เพราะมันไม่มีวี่แววเลยว่า เทน ฮาก จะพา ปีศาจแดง กลับเข้าฝั่ง มีแต่จะสร้างปัญหาให้เพิ่มขึ้น บางทีในเวลาอันใกล้นี้ เทน ฮาก อาจจะมีชะตากรรม ไม่ต่างจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กับ ราล์ฟ รังนิก เลยก็ว่าได้

- ข่าวร้ายตามมาของ คาเซมิโร่ ?

การพ่ายแพ้คาบ้านของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบแทบจะมุดแผ่นดินหนี ก็แย่อยู่แล้ว ยังต้องมาเจอข่าวร้ายเรื่อง คาเซมิโร่ มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติบราซิล มากขึ้นไปอีก เพราะ เอริค เทน ฮาก ได้คอนเฟิร์มว่า นักเตะมีอาการบาดเจ็บระหว่างเกม ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากทีม และ อาจลากยาวไปถึงเกม ฟูแล่ม ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วย

ถึงแม้แฟนบอลอย่างเราๆจะมองว่า มาตรฐานการเล่นของ คาเซมิโร่ ตกๆไปหรือเปล่า ไม่เห็นมีอิมแพ็คเหมือนซีซั่นก่อนเลย ต้องเรียนกันตามตรงแบบนี้ครับว่า คนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะชายที่มีอายุ 30+ ขึ้นไปแล้ว แต่กระนั้นต้องไม่ลืมว่า การมี คาเซมิโร่ อยู่ในทีม ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

โดย 3 นัด ก่อนหน้าเจอ นิวคาสเซิ่ล ลงเล่นโดยไม่มี คาเซมิโร่ มันกระท่อนกระแท่นเหลือเกิน .. ชนะ ก็ชนะแบบหืดจับ ทั้งๆที่คู่แข่งไม่ได้ชื่อชั้นแข็งแกร่งมากนัก แต่พอจะแพ้ ก็แพ้แบบไร้รูปทรงเหลือเกิน และ เชื่อไหมครับ นับตั้งแต่เปิดซีซั่น คาเซมิโร่ คือดาวซัลโวประจำทีม ซัดไปแล้ว 4 ประตู ทั้งๆที่เจ็บไม่ได้ลงเล่นมาหลายเกม และ เป็นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ !!

ไม่รู้ว่าถ้า คาเซมิโร่ บาดเจ็บหนักแบบที่เราไม่คาดคิด มันจะส่งผลเอฟเฟ็กต์ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด มากขนาดไหน เพราะนั่นจะทำให้ เอริค เทน ฮาก ต้องใช้แท็คติคใหม่ๆ หรือ ต้องดันทุรัง เอาผู้เล่นที่ไม่ถนัดเล่นตำแหน่งนี้มาเล่นแทนอีกหรือเปล่า ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกันจริงๆ

- นิวคาสเซิ่ล เจองานหนัก
หากหวังผ่านถึงรอบชิงชนะเลิศ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กลายเป็นตัวเต็งทีมต้นๆที่จะมีโอกาสคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ในซีซั่นนี้ เพราะไม่ใช่แค่การเขี่ย แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าตกรอบไป แต่ผลงานมันประจักษ์ให้เห็นว่าพวกเขายอดเยี่ยมมากเพียงใด ก้าวขึ้นมาเป็นทีมหัวตารางอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม คงต้องไปตีมือคนจับสลาก รอบ 8 ทีมสุดท้าย คาราบาว คัพ กันแล้วล่ะครับ เพราะว่า สาลิกาดง ยังคงเจองานหนักอยู่เหมือนเดิม โดยคู่แข่งที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าคือ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ 

ถึงแม้ผลงานของ เชลซี จะยังไม่คงเส้นคงวา แต่กระนั้น นิวคาสเซิ่ล จะต้องเป็นฝ่ายบุกไปเยือนที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งถือว่าเป็นงานหนักพอสมควร แต่ว่าทีมจะเป็นแชมป์ ก็ต้องผ่านบททดสอบนี้ไปให้ได้ เชื่อว่าลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว พร้อมเผชิญหน้าทุกทีม !!

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline