logo-heading

เดินทางมาถึงตำแหน่งที่สามแล้วกับการส่องขุมกำลังนักเตะทีมชาติไทย ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ในสองเกมแรกที่เราจะพบกับทีมชาติจีน ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ ต่อด้วยพบกับสิงคโปร์ ในวันที่ 21 พ.ย.นี้

หลังจากที่สอง EP.แรก เรานำเสนอตัวเลือกในตำแหน่งผู้รักษาประตู และตำแหน่งแบ็กขวากันไปแล้ว ใครยังไม่ได้อ่าน ไปตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงค์ก้านล่างนี้

วันนี้เราจะมาว่ากันที่ตำแหน่งแบ็กซ้ายกันบ้าง ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีตัวเลือกหลายคนที่น่าสนใจ และมีโควต้าอยู่ที่ประมาณ 2 คน ที่จะมีโอกาสถูกเรียกไปติดธงครังนี้ ไปดูกันว่าตำแหน่งแบ็กซ้ายมีตัวเลือกเป็นใครกันบ้าง

1.ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ธีราทร บุญมาทัน จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

คนแรก ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายวัย 33 ปี นี่คือแบ็กซ้ายเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทยในเวลานี้ ซึ่งคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก แต่ปัจจุบันเจ้าตัวจะถูกจับไปเล่นเป็นกองกลางซะส่วนใหญ่ทั้งกับสโมสรและทีมชาติ ซึ่งก็คุณภาพไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าจริงๆ แล้วกองกลางตัวรับเรามีตัวเลือกหลายคน ส่วนตัวจึงคิดว่าฟุตบอลทัวร์นาเม้นท์ระดับสูง ถ้าใช้โก๋อุ้มเล่นแบ็กน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า แต่ก็ต้องมารอดูว่าสุดท้ายมาโน่จะเลือก ธีราทร ไปเล่นตรงไหน

2.พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา จากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

คนต่อมา พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แบ็กซ้ายวัย 30 ปี ที่แต่ก่อนคือตัวเลือกอันดับสองรองจากโก๋อุ้มมาโดยตลอด แต่ก็มีช่วงนึงที่ผลงานไม่ดีและหลัดทีมชาติไป ก่อนจะกลับมามีชื่ออีกครั้งในปีนี้ ซึ่งเจ้าบาสทำผลงานได้ดีกับทีมบียู และถ้าพูดถึงฟอร์มการเล่นก็สมควรมีชื่อ เพียงแต่ว่าการเล่นให้ทีมชาติ พีระพัฒน์ ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควร เพราะเมื่อมีโอกาสลงสนามก็ยังทำได้ไม่ดีนัก

3. ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (ชลบุรี เอฟซี)

ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ จากชลบุรี เอฟซี

ตัวเลือกอันดับสาม ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ แบ็กซ้ายวัย 21 ปี นี่คือดาวรุ่งดวงใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของทีมชาติไทย อย่างไรก็ดีผลงานของ ฉัตรมงคล กับชลบุรี ในฤดูกาลนี้ถือว่าตกลงไป และไม่โดดเด่นเหมือน 2 ฤดูกาลก่อน อีกทั้งกับทีมชาติชุดใหญ่ในทัวร์นาเม้นท์สำคัญแบบนี้อาจจะยังต้องรอโอกาสไปก่อน แต่ก็ไม่แน่ถ้าหาก มาโน่ วาง โก๋อุ้ม เป็นกองกลาง ก็อาจจะเรียก ฉัตรมงคล มาสแตนบายอีกคนก็เป็นได้ เหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา

4.ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ศศลักษณ์ ไหประโคน จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

คนต่อมาคือ ศศลักษณ์ ไหประโคน แบ็กซ้ายวัย 27 ปี ที่ช่วงหลังหลุดจากทีมชาติไทยไปหลายนัด แต่ก็ยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าพูดถึงฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้กับบุรีรัมย์ ก็ไม่ได้โดดเด่นมาก และอาจจะต่ำกว่ามาตรฐานที่ตัวเองเคยทำได้ก่อนหน้าที่ แต่จุดเด่นอีกอย่างของ ศศลักษณ์ คือสามารถเล่นเป็นตัวรุกริมเส้นทั้งสองฝั่งได้ด้วย 

5.เอริค คาห์ล (AGF)

เอริค คาห์ล แบ็กซ้ายลูกครึ่งไทย-สวีเดน

คนสุดท้ายคือ เอริค คาห์ล แบ็กซ้ายลูกครึ่งไทย-สวีเดน วัย 22 ปี ซึ่งเป็นนักเตะที่แฟนบอลเชียร์ให้มาเล่นทีมชาติไทย และล่าสุด “มาดามแป้ง” ก็ได้ติดต่อสายตรงไปทาบทามแล้วด้วย แต่ว่าตามตรงฝีเท้าเป็นยังไง ดีแค่ไหนก็ยังตอบไม่ได้ แต่ถึงขั้นเคยติดทีมเยาวชนของสวีเดนก็คงไม่ธรรมดา แต่ถ้ามาจริงๆ ก็ต้องรอดูว่าจะปรับตัวเข้ากับฟุตบอลไทย และรุ่นพี่ในทีมได้หรือไม่ ถ้าทำได้เหมือน มิคเกลสัน แล้วเล่นได้มาตรฐานเดียวกันก็ถือว่าน่าสนใจมาก จะทำให้แบ็กเราแข็งแกร่งทั้งสองข้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอดูว่าเจ้าตัวจะมีชื่อติดทีมช้างศึกหรือไม่

จริงๆ นอกจาก 5 คนนี้ก็ยังมีนักเตะหลายคนที่อยู่ในข่ายอย่าง จักรกฤษ ลาภตระกูล ของพีที ประจวบ ที่ก็ทำได้ดีในการไปอุ่นเครื่องที่ยุโรปล่าสุด และก็ถูกเรียกมารับใช้ทีมชาติอยู่เรื่อยๆ

ส่วนใครที่ถามถึง เควิน ดีรมรัมย์ ที่ควรจะเป็นแบ็กซ้ายตัวจริงให้ทีมชาติไทยด้วยซ้ำไป แต่บอกเลยว่าคงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเจ้าตัวจะเจ็บทุกครั้งที่มีชื่อติดทีมชาติ แต่ในอนาคตถ้ามีใครไปเปลี่ยนความคิดเจ้าตัวได้ และถ้าเราได้ เควิน มาเล่นทีมชาติไทยได้ บอกเลยว่ามันจะยอดเยี่ยมมากๆ

นี่ก็เป็นทั้งหมดของตัวเลือกทีมชาติไทยในตำแหน่งแบ็กขวา ที่เราคัดเลือกมาจากฟอร์มการเล่น และแนวโน้มที่จะมีชื่อในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกหนนี้ แต่สุดท้ายใครจะมีชื่อติดบ้างก็ต้องมารอลุ้นกัน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline