logo-heading

หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ มาโน่ โพลกิ้ง ได้ประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติไทย ชุดที่จะใช้ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ในสองเกมแรก ที่เราจะพบกับ จีน และ สิงคโปร์ กลางเดือนนี้ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยทั้งหมด 26 คนด้วยกัน 

ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตัดตัวอีกครั้งให้เหลือ 23 คนสุดท้าย ก่อนลงสนามเกมแรกกับจีน 16 พ.ย.นี้ และทุกครั้งที่มีการประกาศรายชื่อนักเตะทีมช้างศึก ออกมา มันก็จะต้องมีคำถามตามมาด้วยทุกครั้ง ว่าทำไมคนนั้นคนนี้ถึงไม่ติด แล้วทำไมคนนี้ถึงติดมา วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ผ่ารายชื่อนักเตะทีมชาติไทย ทั้ง 26 คนกันว่าเป็นอย่างไรกันบ้างในขอบสนามอินไซด์บอลไทย ในวันนี้ครับ

สำหรับรายชื่อทั้ง 26 คน ที่มีการประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ทุกคนคงจะได้เห็นรายชื่อกันไปแล้วว่ามีใครบ้าง เราจะมาวิเคราะห์และว่ากันไปทีละตำแหน่ง ว่านักเตะที่ติดมาเหมาะสมหรือไม่ และติดมาได้อย่างไร รวมทั้งเราจะจัด 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมที่จะพบกับจีนว่าทีมช้างศึกจะมีหน้าตาแบบไหน

มาเริ่มกันที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู เรียกมาทั้งหมด 3 คน ตามโควต้า ประกอบไปด้วย กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล สโมสร ราชบุรี เอฟซี, สรานนท์ อนุอินทร์ สโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด และ ปฏิวัติ คำไหม สโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ถือว่าเซอร์ไพรส์เหมือนกัน ที่ไม่มีชื่อของ 2 ตัวเก๋าอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กับ ฉัตรชัย บุตรพรม ที่ก่อนหน้านี้คือมือหนึ่งและมือสองของทีมชาติไทย แต่ครั้งนี้ มาโน่ เลือกที่จะใช้ผู้รักษาประตูเจ็นใหม่ทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่านักเตะที่ถูกเรียกมาก็โอเคทั้งสามคน กัมพล ที่ทำผลงานได้ดีในการไปทัวร์ยุโรป ไม่แปลกใจที่จะมีชื่อ และเผลอๆ อาจจะยึดมือหนึ่งของทีมชาติไทยชุดนี้ด้วย

ขณะที่ในรายของ สรานนท์ อนุอินทร์ ก็ทำผลงานได้ดีกับเชียงราย เช่นเดียวกับ ปฏิวัติ คำไหม ที่ก็โดดเด่นกับ ทรู แบงค็อก แถมเป็นนายทวารที่ใช้เท้าดี ตามสเป็กที่ มาโน่ ชอบด้วย ซึ่งแม้จะไม่มีตัวเก๋ามาแต่สามคนนี้ก็ถือว่าใช้ได้และเหมาะสมกับการเป็นนายทวารช้างศึก

มาดูกันที่กองหลังกันบ้างเริ่มที่แบ็กขวา น่าเสียดายที่ นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กขวาลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลไทยดันมาเจ็บในตอนนี้พอดี ทำให้ มาโน่ ต้องเรียกมา 3 คน คือ นิติพงษ์ เสลานนท์ จากทรู แบงค็อก, ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ของการท่าเรือ และ ทริสตอง โด จากเมืองทองฯ แน่นอนว่าจะต้องมีใครคนใดคนนึงที่ถูกตัดตัวออกไป 

ถ้าพูดถึงผลงานคนที่ฟอร์มดีที่สุดและมีโอกาสขึ้นมาเป็นตัวจริงแทน มิคเกลสัน ก็น่าจะเป็น นิติพงษ์ ส่วน ศุภนันท์ ก็ถือว่าฟอร์มโอเคกับการท่าเรือ ส่วน ทริสตอง โด ที่ไปโชว์ฟอร์มได้ดีที่ยุโรป และอีกจุดนึงที่เหลือว่าทั้งสองคนแรกก็คือ โด สามารถเล่นแบ็กซ้ายได้ด้วย นี่อาจเป็นอีกออฟชั่น ที่ทำให้ โด เหนือกว่าอีกสองคน

ขณะที่แบ็กซ้ายมีเซอร์ไพรส์ในรายของ เควิน ดีรมรัมย์ จากการท่าเรือ ที่ก่อนหน้านี้ก็มีชื่อติดทีมชาติทุกครั้ง แต่เจ้าตัวก็ถอนทุกครั้ง จนคิดว่าคงไม่มีทางกลับมาเล่นให้ทีมชาติอีกแล้ว แต่ครั้งนี้เจ้าตัวยืนยันเองว่าพร้อมแล้วกับทีมชาติไทย และจะไม่ถอนตัวอย่างแน่นอน

อีกคนก็คือ ธีราทร บุญมาทัน ที่ไม่แน่ว่า มาโน่ อาจจะจัดโก๋อุ้มไว้ที่ตำแหน่งกองกลางก็เป็นได้ ดังนั้นทั้งแบ็กขวาแบ็กซ้ายที่เรียกมาก็อาจจะอยู่กันครบทั้งหมด

ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟก็มากันครบทั้ง กฤษดา กาแมน, พรรษา เหมวิบูลย์, เอเลียส ดอเลาะ นี่น่าจะเป็น 3 ตัวยืนที่ติดแน่ๆ ส่วนอีก 1 คน อาจจะต้องแย่งโควต้ากันระหว่าง สุพรรณ ทองสงค์ ของบียู ที่ส่วนตัวผมเชียร์มากๆ ให้ติดทีมชาติไทย เพราะฟอร์มดีสุดๆ กับแบงค็อก จนแย่งตำแหน่งตัวจริงมาได้ อีกคนก็คือ มานูเอล ทอม เบียรห์ ที่โดน สุพรรณ แย่งตำแหน่งในทีมบียูไป แต่ก็มีชื่อติดมาด้วย อาจจะเพราะเป็นกองหลังที่เคยร่วมงานกับ มาโน่ มาก่อน ก็เลยอาจจะลองเรียกมาดูว่าจะได้ไหม คนสุดท้ายคือ เฉลิมศักดิ์ อักขี ของการท่าเรือ ที่ก็มีชื่อติดทีมชาติมาตลอดก่อนหน้านี้ ก็ต้องมารอดูว่าใครจะได้ถูกเลือกให้เป็นคนที่ 4 ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ 

แต่ที่น่าเสียดายก็คือในรายของ จักพัน ไพรสุวรรณ ที่ฟอร์มดีกับบีจี ปทุมฯ แถมยังเป็นฮีโร่โขกประตูตีเสมอเอสโตเนียในเกมอุ่นเครื่องล่าสุด แต่ไม่มีชื่อในทีมชุดนี้

มาดูแผงกองกลางกันบ้าง เริ่มที่ตัวรับเรียกมา 3 คนคือ สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล จากบีจี ปทุมฯ ทั้งคู่ อีกคนคือ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ จากเมืองทอง ก็ดูแล้วทั้งสามคนน่าจะได้อยู่ในทีม และอย่าลืมว่ายังมี ธีราทร บุญมาทัน และ กฤษดา กาแมน ที่ก็สามารถดันขึ้นมาเล่นกองกลางตัวรับได้ด้วย

ส่วนตัวรุกตรงกลางหรือเพลย์เมกเกอร์มี 2 คน คือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ ปกเกล้า อนันต์ ที่หลุดไปก็คือ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ขณะที่ตัวริมเส้นมาแบบเต็มอัตราศึก ทั้ง สุภโชค สารชาติ, เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่อิมพอร์ตมาจากเจลีก รวมทั้ง บดินทร์ ผาลา และ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก แต่ในรายหลังล่าสุดมีอาการบาดเจ็บ ซึ่งก็ต้องมารอดูว่าจะถอนตัวหรือไม่ ซึ่งน่าเสียดายถ้าต้องถอนตัว เพราะ รุ่งรัฐ กำลังฟอร์มดีสุดๆ ในไทยลีก และเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ทรู แบงค็อก

ส่วนกองหน้าตัวเป้า เรียกมา 3 คน คือ ธีรศิลป์ แดงดา, ศุภชัย ใจเด็ด และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จากโอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยี่ยม ในตำแหน่งศูนย์หน้าต้องรอเช็กความฟิตของ ธีรศิลป์ ว่าจะหายเจ็บทันหรือไม่ ถ้าหายไม่ทันอาจจะต้องเรียกคนใหม่เข้ามาแทน เพราะถ้าจะใช้แค่ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ก็ฟอร์มไม่ดีตอนนี้ รวมทั้งเล่นทีมชาติก็มักจะโชว์ฟอร์มไม่ออก ขณะที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ก็เป็นตัวสำรอลกับต้นสังกัดซะส่วนใหญ่ และอย่าลืมว่าทั้งคู่ไม่ได้เล่นหน้าเป้าเป็นประจำด้วย

หากพี่มุ้ยไม่ไหวจริงๆ ก็ควรจะเรียกหน้าเป้าแท้ๆ มาเพิ่มสักคนนึงอย่าง ธีรศักดิ์ เผยพิมาย หรือ ปรเมศย์ อาจวิไล ซึ่งก็ต้องมารอดูกัน

สำหรับทีมชาติไทยจะเข้าแคมป์ฝึกซ้อมกันในวันที่ 9 พ.ย.นี้ และก็จะมีการตัดตัวเหลือ 23 คนที่จะใช้ลงเตะฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2 เกมแรก โดยนัดเปิดสนามเราจะพบกับ จีน ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ ที่สนามราขมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. ต่อด้วยนัดที่สองเราจะออกไปเยือน สิงคโปร์ ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ 

ถ้าทีมชาติไทยต้องการที่จะมีลุ้นเข้ารอบต่อไป 2 เกมนี้ต้องพยายามเก็บ 6 แต้มเต็มให้ได้ หรืออย่างน้อยต้องมี 4 แต้ม โดยเฉพาะนัดเปิดสนามกับจีน ต้องพยายามคว้าชัยชนะให้ได้ เพื่อเรียกศรัทธาแฟนบอล และเรียกความมั่นใจให้กับทีมช้างศึกของเรา

ปิดท้ายกันที่คาดการณ์ 11 ตัวจริง ของทีมชาติไทยในรอบคัดเลือกบอลโลก 2 นัดแรก น่าจะมาในระบบ 4-2-3-1 

ผู้รักษาประตู : กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล

กองหลัง : นิติพงษ์ เสลานนท์ / กฤษดา กาแมน / พรรษา เหมวิบูลย์ / เควิน ดีรมรัมย์

กองกลางตัวรับ : สารัช อยู่เย็น / ธีราทร บุญมาทัน

กองกลางตัวรุก : สุภโชค สารชาติ / ชนาธิป สรงกระสินธ์ / บดินทร์ ผาลา

กองหน้า : ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

นี่ก็เป็น 11 ตัวจริงที่ผมลองคาดการณ์เอาเอง และคิกว่าน่าจะเป็นชุดที่ดีที่สุดในการประเดิมสนามพบกับทีมชาติจีน 16 พ.ย.นี้ สำหรับแฟนบอลชาวไทยทุกคน อย่าลืม 16 พ.ย.นี้ ไปช่วยกันเชียร์ และเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยของเราประเดิมสนามในรอบคัดเลือกบอลโลก ด้วย 3 แต้มกันเยอะๆ ครับ

#ชิชาริเต่า
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline