แน่นอนว่าเมื่อผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ คนหน้างานอย่าง เอริค เทน ฮาก ย่อมเป็นด่านแรกที่จะถูกวิจารณ์ และเพ่งเล็งมากกว่าคนอื่นๆ ในทีม
นับตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่นจนถึงวันนี้ เทน ฮาก คือพระเอกในเงามืดที่ถูกจับจ้องมากกว่าใคร เพราะการตัดสินใจเลือกตัวผู้เล่น รวมไปถึงมีปัญหากับลูกทีม มันค่อยๆ สะสมจนเหมือนแผลตามตัวที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราในวันนี้จะพาไปมองใน 2 มุมที่ต่างกันว่า เทน ฮาก ยังคงคู่ควรต่อการนั่งแท่นกุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไปหรือไม่ ?
มุมที่ควรอยู่ต่อ
ประเด็นแรกไปดูในมุมที่ เทน ฮาก ควรอยู่ในตำแหน่งต่อไปกันก่อน เข้าใจว่าผลงานที่กำลังเผชิญอยู่ในฤดูกาลนี้มันค่อนข้างไม่สวยงามนัก ไม่มีมาตรฐาน และหาความสบายใจได้เลยสำหรับการติดตามดูเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด
ทว่าถ้าจะถามหาความชอบธรรมให้ เทน ฮาก อย่างแรกเลยคือนับตั้งแต่เปิดซีซั่นมาเขายังไม่เคยได้ใช้นักเตะชุดที่ดีที่สุดเลยสักครั้งเดียว
เดี๋ยวคนนั้นบาดเจ็บพักยาว พอหายกลับมาตัวหลักคนนี้ก็เข้าโรงหมอไปแทน อย่างในเคสของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ต้องพักยาวไป ไหนจะ กาเซมิโร่ ที่ซีซั่นนี้โอกาสลงสนามน้อยนิดเพราะอาการบาดเจ็บคอยรบกวนอยู่ตลอด ไหนจะ ลุค ชอว์ ที่หายหน้าไปนานตั้งแต่ต้นๆ ฤดูกาล
ฉะนั้นเราจึงได้เห็นแผงเกมรับที่สลับปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ทั้งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ หรือฟูลแบ็คที่ขนาดต้องเอา โซฟียาน อัมราบัต มาเล่นแบบขัดตาทัพไปก่อน
หรือในบทบาทกองรับธรรมชาติที่พอไม่มี กาเซมิโร่ เห็นได้ชัดเลยว่าประสิทธิภาพอ่อนลงแบบชัดเจน แม็คโทมิเนย์ ไม่ใช่สายคอยตัดเกมเป็นทุน หรือ อิริคเซ่น ด้วยสภาพร่างกาย หรือคุณประโยชน์ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับการคอยตัดเกม ส่วนในเคส อัมราบัต เรายังไม่เห็นฟอร์มที่ดีจากเขาเลยนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม
แน่นอนว่าไม่มีอะไรการันตีว่าการได้ตัวกลับมาครบแบบฟูลทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จะกลับสู่ฟอร์มที่ดีได้ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สามารถงัดเอามาพูดได้ เพื่อปกป้อง เทน ฮาก จากความผิดพลาดต่างๆ
และกับเหตุผลที่ให้ เทน ฮาก อยู่ต่อ สโคลส์ ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า แท้จริงการปลดนายใหญ่ชาวดัตซ์ตอนนี้คงไม่มีประโยชน์ เพราะในภาพรวมมันยังคงดีอยู่สำหรับทีม
เช่นเดียวกับ เฟอร์ดินานด์ ก็ออกมาหนุนหลัง เทน ฮาก ว่าทุกคนควรต้องยืนเคียงข้างเขาต่อไป การปลดตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ เพราะมวลรวมของทีมตอนนี้มันกำลังย่ำแย่ไปในทุกๆ ส่วน
ซึ่งถ้าเอา 2 ความเห็นของอดีตนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด มาต่อยอดมันก็พอจะบอกได้ว่าการปลดตอนนี้ไม่ใช่ทางออกที่ดี และการหาใครเข้ามาคุมทีมแทนก็คงเหมือนการซื้อหวยที่ไม่รู้จะออกมาในรูปแบบไหนเช่นกัน
ย้อนไปเมื่อ 2 ซีซั่นก่อนการปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก่อนแต่งตั้ง ราร์ฟ รังนิค มาคุมแบบชั่วคราว มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นการแก้ผ้าเอาหน้ารอด แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากเดิม เพราะต้นสายปลายเหตุมันไม่ได้อยู่ที่ตัวของกุนซือเพียงคนเดียว
ฉะนั้นบางทีการสั่งปลด เอริค เทน ฮาก ในตอนนี้อาจไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะสถานการณ์มันก็ยังไม่ได้เข้าขั้นวิกฤตมากขนาดนั้น
มุมที่ควรไป
คราวนี้มาส่องเหตุผลที่ เทน ฮาก หมดความชอบธรรมในเก้าอี้กุนซือตัวนี้กันบ้าง แน่นอนประเด็นแรกคือผลงานอันเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ามันไม่เดินไปข้างหน้าจริงๆ
สถิติการแพ้ 9 จากการลงสนาม 17 นัดในฤดูกาลนี้ หรือรั้งบ๊วยของรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก มีเพียง 3 แต้ม จาก 4 เกม คือหลักฐานชั้นยอดที่บ่งบอกว่าซีซั่นมาตรฐานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีเลย
อีกอย่างคือเกมในสนามนับตั้งแต่รูดม่านเปิดฉากยังหาเกมที่ไหลลื่น และดูดีไม่ได้เลย บางเกมเบียดชนะกับทีมที่คุณภาพต่ำกว่า หรือแพ้แบบง่ายๆ แถมมีอาการถอดใจของนักเตะให้เห็น
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกุนซือคือปัจจัยสำคัญของทั้งหมด แม้สารตั้งต้นอาจเป็นเรื่องของนักเตะในสนามก็ตาม
ต่อมาคือเรื่องของแผนการเล่นที่ส่วนมากเรียกได้ว่าขัดต่อความรู้สึกของแฟนบอลมากพอสมควร เข้าใจว่ามีนักเตะหมุนเวียนกันบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ แต่การหาสมดุลของทีมให้เจอคือสิ่งที่ผู้เป็นกุนซือควรที่จะกระทำ
ไหนจะเรื่องของการเค้นศักยภาพของนักเตะออกมาให้ได้ แรชฟอร์ด จากดาวยิงดาวซัลโวของทีมเมื่อซีซั่นก่อน กลายเป็นนักเตะที่มีความเร็วอย่างเดียว แต่ไร้ซึ่งความอันตรายในด้านอื่นๆ หรือประสิทธิภาพเกมรุกที่ดรอปลงอย่างชัดเจน ผลิตประตูไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้
ซึ่งมันไม่แปลกเลยที่แฟนบอลจะเริ่มเห็นใจ ราสมุส ฮอยลุนด์ ในหลายๆ เกมที่พยายามวิ่งหาช่อง วิ่งหาพื้นที่ แต่สุดท้ายบอลก็ไปไม่ถึงเขา กลายเป็นเกมรุกมิติเดียว ไม่มีแผน B หรือ C ในการคอยแก้ปัญหาเลย
ปิดท้ายคือการเลือกนักเตะลงสนามอย่างในเกมล่าสุดที่บุกไปแพ้ โคเปนเฮเก้น เราจะเห็นได้ว่าช่วงท้ายเกมทีมต้องการประตูเพื่อคว้าชัยชนะ แต่ทันใดนั้น เทน ฮาก เลือกที่จะเปลี่ยนกองหน้าที่ยืนขู่คู่แข่งอย่าง ฮอยลุนด์ ออกเสียอย่างงั้น พร้อมส่ง เมสัน เมาท์ ลงมา
กลายเป็นมุมที่แฟนบอลมองว่า เทน ฮาก เลือกที่จะเล่นแบบเพลย์เซฟเกินไปหรือเปล่า ? เพราะ ฮอยลุนด์ เป็นกองหน้าอาชีพคนเดียวในสนาม สามารถปั่นป่วนเกมรับคู่แข่งได้ และเป็นคนที่ไม่ควรถูกถอดออกมากที่สุดด้วย
ใช่ครับ... เราไม่รู้ว่า เทน ฮาก คิดอะไรอยู่ในตอนนั้น เพียงแต่ว่ามันขัดกับความรู้สึกของแฟนบอล รวมไปถึงเรื่องที่ผ่านๆ มาการเปลี่ยนตัวที่ดูไม่สมเหตุสมผลมากนัก
สรุปแล้วในภาพรวมตอนนี้เก้าอี้ของ เทน ฮาก อาจจะไม่ได้มั่นคงมากนัก แต่ยังคงมีเวลาในการปรับปรุงแก้ไข และยกระดับศักยภาพทีมให้เดินไปข้างหน้าให้มากกว่าเดิม
แต่ทว่าถ้ามันออกมาในทางตรงกันข้าม ทีมยังคงกระท่อนกระแท่น 3 วันดี 4 วันร้าย ชนะ 1 นัด แพ้ 2 เกม เชื่อได้เลยว่าอนาคตของเขาคงลงเอยไม่ต่างจากกุนซือคนอื่นๆ
นั่นก็คือการเก็บกระเป๋าออกจากทีมไป
- Paolinho -