logo-heading

ทีมชาติไทย ลงสนามไปแล้ว 1 นัด ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2 ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าเราพ่ายคาบ้านให้กับ จีน 1-2 พลาดโอกาสเก็บ 3 แต้มแรกในบ้านไปอย่างน่าเสียดาย 

ซึ่งจริงๆ แล้ว 3 แต้มในบ้านกับจีน ถือเป็นสามแต้มที่มีความหมายมากๆ กับการลุ้นที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป เพราะในกลุ่มซี ที่เราร่วมสายอยู่ นอกจากจีน ก็มี เกาหลีใต้ และ สิงคโปร์ ว่ากันตามตรงคู่แข่งที่จะแย่งตั๋วกับไทยก็คือจีน ในการจะตามเกาหลีใต้ผ่านเข้ารอบ 3 ต่อไป ดังนั้น 2 นัดที่พบจีน ทั้งในบ้านและนอกบ้านเราต้องมีแต้มให้ได้

แต่ในเมื่อเราทำไม่ได้ และทำ 3 แต้มแรกหลุดมือไปแล้ว ถามว่าฟุตบอลโลก ครั้งนี้ของทีมชาติไทย จบแล้วหรือเปล่า ถ้ามองในมุมของความน่าจะเป็นและทางปฏิบัติก็ต้องบอกว่าโอกาสมันเหลือน้อยเต็มที เพราะในบ้านเรายังแพ้ ไปเยือนจีน โอกาสบุกไปชนะก็คงยาก ถ้าเล่นได้แค่นี้

แต่ในทางทฤษฎี และความเป็นไปได้ในโลกของฟุตบอล อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ และบอกได้เลยว่าฟุตบอลโลก ครั้งนี้ของทีมชาติไทยมันยังไม่จบ เพียงแต่ว่าการจะทำให้เรามีลุ้น และได้ไปต่อในรอบที่ 3 มันก็ไม่ง่าย ดังนั้นสิ่งที่ทีมช้างศึก จะต้องทำให้ได้ใน 5 เกมที่เหลือ มีอะไรบ้าง เราลองมาดูกันครับ

สำหรับศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในรอบที่ 2 นี้ ทำความเข้าใจกับทุกคนก่อนว่า ในรอบ 2 นี้ มีทีมลงแข่งขันทั้งหมด 36 ทีม โดยจะแบ่งออกไป 9 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมด เหย้า-เยือน ทั้งหมด 6 เกมด้วยกัน โดยทีมที่จะผ่านเข้ารอบ 3 ต่อไปก็คือทีมที่มีแต้มมากที่สุด อันดับ 1 และ อันดับ 2 ของกลุ่ม

ซึ่งในกลุ่มซี ที่ไทยเราร่วมสายอยู่ ว่ากันตามตรงอันดับหนึ่งคงไม่มีใครจะล้มเขาได้ นั่นก็คือ เกาหลีใต้ ที่ดูแล้วน่าจะสามารถเอาชนะได้ทั้ง 6 เกมที่ลงเตะ ด้วยมาตรฐานที่ค่อนข้างห่างกับเพื่อนร่วมสายอีก 3 ทีม ดังนั้นในกลุ่มนี้จึงเหลือตั๋วอีกหนึ่งใบที่ต้องแย่งชิงกันสามทีม ก็คือ ไทย, จีน และ สิงคโปร์

ไทยเราแพ้ไปแล้ว 1 นัด มีอยู่ 0 คะแนน ดังนั้นอีก 5 เกมที่เหลือ ต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด รวมทั้งประตูได้เสียก็สำคัญ ท้ายที่สุดคือทำยังไงก็ได้เราต้องมีแต้ม หรือประตูได้เสียที่ดีกว่าจีนให้ได้หลังจบการแข่งขันในรอบคัดเลือกทั้ง 6 นัด สิ่งที่ทีมช้างศึกต้องทำก็คือ

1.ต้องบุกชนะสิงคโปร์เท่านั้น

เกมนัดที่สองที่เราจะออกไปเยือนสิงคโปร์ ในวันอังคารนี้ (21 พ.ย.66) ไม่มีช้อยส์อื่นนอกจากต้องบุกไปเก็บ 3 แต้มเท่านั้น เพื่อที่จะทำให้เรามีแต้มเท่ากับจีน เพราะคิดว่าจีนไม่ได้น่าจะต้านเกาหลีใต้อยู่ และถ้าเป็นไปได้ก็เชียร์ทีมของ ซน เฮือง มิน ให้ยิงจีนเยอะๆ ในขณะเดียวกันถ้าเรายิงสิงคโปร์ได้เยอะเท่าไหร่ก็ยิงดี อาจจะมีผลที่ทำให้เราจบ 2 นัดแรกด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่ม ด้วยผลประตูได้เสียที่ดีกว่า อย่างน้อนก็เป็นเรื่องของจิตรวิทยา และขวัญกำลังใจที่ดีสำหรับเกมต่อๆ ไป

แต่กลับกันหากเราไม่สามารถบุกไปชนะสิงคโปร์ได้ ทุกอย่างก็จบ ไม่ต้องไปคิดถึงสี่เกมที่เหลือ ไปคิดถึงฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ครั้งหน้าต่อได้เลย

2.เจอเกาหลีใต้สองนัดเสียให้น้อยที่สุด

หลังพบกับสิงคโปร์ 2 นัดต่อมาเราจะต้องเจอกับเกาหลีใต้ทั้ง 2 นัด เริ่มด้วยการออกไปเยือนก่อนวันที่ 21 มีนาคม ปีหน้า และจะกลับมาเล่นในบ้านวันที่ 26 มีนาคม ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าโค้ชของเราจะยังเป็น มาโน่ โพลกิ้ง อยู่หรือเปล่า 

สิ่งที่ไทยต้องทำให้ได้ในสองเกมกับทีมโสมขาว โจทย์แรกคือเก็บให้ได้สักแต้มจากสองนัดจะเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากๆ แต่คงยาก เอาเป็นว่าถ้าจะแพ้ทั้งสองเกมก็แพ้ให้น้อยที่สุด แพ้ให้น้อยกว่าจีนได้ยิ่งดี แล้วอีกทางนึงก็ไปลุ้นให้สิงคโปร์ แบ่งแต้มจากจีนมาให้ได้บ้างสักเกมนึง ซึ่งก็ยากอยู่เหมือนกัน

3.เกมเยือนจีนต้องชนะเท่านั้น

เกมต่อมาก็คือนัดรองสุดท้าย ซึ่งจะเป็นเกมที่เรามีโอกาสได้ล้างตากับทีมจีน ถึงตอนนั้นสถานการณ์ในตารางคะแนนมีความเป็นไปได้ว่า จีนอาจจะมีเพิ่มเป็น 9 คะแนน สมมติว่าเอาชนะสิงคโปร์ได้ทั้งสองนนัด ส่วนไทยเราจะยังมีอยู่ 3 คะแนน ดังนั้น เกมกับจีนคือนัดชี้ชะตาว่าเราจะได้ลุ้นไปต่อหรือไม่ เราต้องบุกไปเอาชนะจีนให้ได้เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องชนะให้ได้มากกว่า 2-0 เผื่อว่าสุดท้ายต้องไปวัดเฮดทูเฮด เราจะได้ได้เปรียบ หรือจะยังไงก็เอาชนะให้ได้ไว้ก่อนเป็นดีที่สุด ซึ่งจะทำให้เรามี 6 แต้ม สมมติว่าเอาชนะได้ ตามหลังจีน 3 คะแนน

4.ปิดท้ายในบ้านยิงสิงคโปร์ให้ยับ

เกมสุดท้ายในบ้านแน่นอนว่าเราต้องเอาชนะสิงคโปร์ให้ได้เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องลุ้นให้เกาหลีใต้ ชนะจีนให้ได้ด้วย เพราะอย่าลืมว่าเกาหลีใต้ ที่เข้ารอบไปแล้ว อาจจะส่งสำรองลงเยอะ แต่อย่างน้อยเกาหลีเล่นในบ้านคงไม่อยากแค่เสมอแน่นอน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่เกาหลีใต้จะชนะจีน

ดังนั้นถ้าไทยชนะสิงคโปร์ได้ และยิงประตูให้ได้เยอะๆ จบ 6 นัด ไทยกับจีนก็จะมี 9 แต้มเท่ากัน ที่เหลือก็มาดูประตูได้เสียน กับเฮดทูเฮด ก็อยู่ที่ผลงานว่าเราจะทำได้ดีกว่าจีนหรือไม่

นี่คือสิ่งที่เราต้องทำให้ได้ใน 5 เกมที่เหลือหากยังหวังที่จะไปต่อในรอบคัดเลือก รอบ 3 แต่ก็อย่าลืมว่าจีน เขาก็มีเป้าหมายแบบนี้เหมือนกัน แถมเขาได้เปรียบเราหลายขุมเพราะบุกมาชนะเราได้ก่อน ดังนั้นถ้าจะบอกแบบไม่โกหกตัวเอง ก็เหมือนว่าฟุตบอลโลก ครั้งนี้มันจะจบแล้วจริงๆ ครับ แต่ตราบใดที่ยังไม่จบการแข่งขัน ในฐานะแฟนบอลไทยก็ยังเชียร์และให้กำลังใจช้างศึก ทำให้ดีที่สุดในทุกเกมที่เหลือก็แล้วกัน

ส่วนการจะได้ไปต่อหรือไปกับฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก จริงๆ ไม่ใช่สาระสำคัญที่เราจะต้องไปให้ความสำคัญมากหรอกครับ เพราะท้ายที่สุดผมบอกตรงนี้เลยว่าเราก็ยังไม่ได้ไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายอยู่ดี

สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญก็คือการพัฒนาฟุตบอลไทยทั้งระบบ การรื้อโครงสร้างระบบการจัดการหลังบ้าน การบริหารทีมชาติไทยตอนนี้ซะใหม่ เพราะมันมั่วอีรุงตุงนังไปหมด สมาคมฯ ยกหน้าที่บริหารทีมชาติให้ประธานสโมสรมาดูแลจัดการ

ทีมชาติชุดเยาวชนไม่มีเงินมาบริหารทีม ไม่มีเงินใช้เก็บตัวหาทีมอุ่นเครื่อง แล้วฟุตบอลไทยมันจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร 

ตอนนี้เราลืมไปให้หมดครับเรื่องจะไปบอลโลก ไปบอลจักวาล กลับมาทำทุกอย่างในบ้านของเราให้ดีก่อน ฝากความหวังไปที่นายกสมาคมฯ คนใหม่ ที่จะเข้ามาปีหน้า ท่านต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมด แล้วมาเริ่มนับหนึ่งรอบที่ล้านกันใหม่ เพื่ออนาคตที่สดใสของฟุตบอลไทยของเราครับ

ถ้าบอลไทยยังเละแบบนี้ ได้ไปบอลโลกก็ไม่มีประโยชน์ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่มีทางได้ไปอยู่แล้วกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ ฝากไปถึงทุกท่านที่เกี่ยวข้อง สวัสดีครับ
 

#ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline