logo-heading

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าแมตช์ที่ ทีมชาติไทย บุกไปเอาชนะ ทีมชาติสิงคโปร์ ได้ 3-1 เป็นหนึ่งในเกมที่แฟนบอลจับตามองเยอะพอสมควร เพราะมีหลายๆ กระแสเกิดขึ้นทั้งเรื่องฟอร์มของทัพช้างศึกเองที่ออกสตาร์ท "ศึกคัดบอลโลก 2026" นี้ด้วยความพายแพ้ 

รวมไปถึงกระแสนิยมของ "มาโน่ โพลกิ้ง" ด้วยที่ดูเหมือนจะไม่ดีเหมือนเดิมแล้ว ดูได้จากโซเชียลต่างๆ ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต่อให้ "ผลเกมนี้" เป็นอย่างไร "กุนซือใหญ่ช้างศึก" รายนี้ก็ควรอำลาตำแหน่งไป เพราะผลงานหลังจากที่อยู่ๆ มาไม่มีอะไรดีขึ้นเลย 

ดังนั้นวันนี้หลังเกม ช้างศึก บุกขย้ำ สิงโตเมอร์ไลออน เกิดอะไรขึ้นบ้างที่ทำให้ต้องพูดถึง ทีมชาติไทย ของ "โค้ชมาโน่" 

11 ตัวจริงทีมชาติไทย เกมพบ สิงคโปร์ ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

-อย่างแรก เซอร์ไพรส์ตั้งแต่จัด 11 ตัวจริง เพราะนี่คือชุด "ตัวจริง" ที่แฟนๆ อยากเห็นตั้งแต่เกมที่แล้ว ไล่ตั้งแต่โกล์กลับมาใช้ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล แนวรับให้โอกาส สุพรรณ ทองสงค์ และ เอเลียส ดอเลาะ ที่ฟอร์มกำลังสดทั้งคู่ ที่น่าสนใจมากขึ้นหน่อยก็คือเกมตรงกลางที่ไร้ชื่อของ กฤษดา กาแมน โดยให้คู่หู บีจี อย่าง สารัช อยู่เย็น และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล เล่นคู่กัน

ส่วนแนวรุกโคตรน่าสนใจเมื่อไม่มี "เจ ชนาธิป" จะเล่นแบบไหน ?? ว่าแล้ว มาโน่ ก็ใช้ เอกนิษฐ์ ปัญญา เสียบแทน และมี สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ศุภชัย ใจเด็ด เป็น 3 ประสานที่ได้เล่นตรงตามตำแหน่งที่ทุกคนถนัดทั้งหมด ซึ่งการจัดตัวแบบนี้ถ้าบอกว่า มาโน่ โน โซเชียล ก็คงไม่มีใครเชื่อแล้วล่ะมั้ง 

มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย

- ข้อสอง ขออ้างอิงจากการได้เห็นทุกโมเมนต์ข้างสนามแบบชัดเจนนั่นคือ อากัปกิริยา หรือ ภาษากาย ของ โค้ชมาโน่ ที่ปกติจะ "ดุดัน" และ "เร้านักบอล" มากกว่านี้ แต่ในเกมกับ สิงคโปร์ ทุกอย่างดูเปลี่ยนไปจากเดิม จะด้วยเพราะความกดดันหรือต้องใช้สมาธิมากเป็นพิเศษ แต่นัดนี้ไม่มีลีลาผายมือกระตุ้นนักเตะมากเหมือนที่เคยทำ หรือแม้แต่การกลับเข้ามานั่งที่เบนซ์ม้านั่งสำรองอยู่นานสองนานซึ่งผิดปกติวิสัยการคุมทีมแบบ Aggressive ของเขาเองด้วย แต่อย่างไรก็ตามหนึ่งสิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือการนั่งเล่น นั่งควง ขวดน้ำในมือของตัวเอง 

มีทั้งเรื่องชื่นชมและความชัดเจน?? ควันหลง "ไทย" บุกชนะ สิงคโปร์ 3-1 

- ข้อสาม ฟอร์มครึ่งแรกไม่โสภา แต่ครึ่งหลังแก้เกมโสภี ข้อนี้เชื่อว่าน่าจะเห็นตรงกันกับหลายๆ คน แม้ว่าเราจะเปิดฉากได้อย่างเร้าใจกับประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว แต่บทสรุปในครึ่งแรกเราไม่ได้ดีกว่า สิงคโปร์ มากนัก ส่วนเกมในครึ่งหลังแม้เราจะออกสตาร์ทได้ไม่หวือหวาเท่าครึ่งแรก แต่การแก้เกมของ โค้ชมาโน่ จัดว่ามาถูกที่ถูกเวลาและถูกคน โดยเฉพาะการเลือกใช้ ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งเป็นนักเตะที่เปลี่ยนโฉมของเกมนี้ไปเลยกับการลงมาทำ 2 แอสซิสต์ ไม่เท่านั้น โค้ชมาโน่ ยังโชว์กึ๋นเปลี่ยนระบบจากหลัง 4 ไปเล่นหลัง 3 อีกด้วย แถมยังปิดจ็อบเกมนัดนี้ด้วยการชนะ 3-1 แม้จะเป็นการชนะ สิงคโปร์ ทีมในอาเซียนที่เราข่มมาตลอด และแม้ว่าฟอร์มจะไม่ได้สวยหรูถึงขนาดนั้น แต่ก็ควรชื่นชมในการจัดการเกมตลอด 90 นาทีของ โค้ชมาโน่ 

- ข้อสี่ อย่างสุดท้าย อนาคตของ โค้ชมาโน่ หลังจบเกมเริ่มมีแววความชัดเจนมากขึ้น เพราะเมื่อวานนี้ที่เราได้เห็นภาษากายของเขาในสนามที่เปลี่ยนไป สีหน้าแววตาแบบชัดๆ มันแสดงความกังวลอะไรบางอย่าง และตอนแถลงข่าวมันยิ่งชัดเจนว่ามันต้องมีอะไรในใจแน่นอน ประกอบกับตอนเช้าวันนี้ข่าวของ มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตกุนซือของ บุรีรัมย์ กลับมาอยู่ในความน่าสนใจของ ทีมชาติไทย อีกครั้งมันยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าปัจจุบันอนาคตของเชากับทัพช้างศึกมันมาถึงทางแยกแล้วเพียงแต่ว่ามันจะจบในวันสองวันนี้หรือนานกว่านั้นแค่นั้นเอง

นี่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเกมที่ทีมชาติไทยบุกชนะสิงคโปร์ 3-1 ซึ่งสามแต้มที่ได้มาเหมือนเป็นการต่อลมหายใจให้กับทัพช้างศึก ได้อยู่ในเส้นทางของฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกต่อไป

ท้ายที่สุดจะไปได้ไกลแค่ไหนคงต้องมารอดูหน้าตาของกุนซือคนใหม่ รวมทั้งผลงานในเอเชี่ยน คัพ ที่จะเป็นทัวร์นาเม้นท์ต่อไปของทีมชาติไทย ที่จะเตะกันที่ประเทศกาตาร์ ในเดือนมกราคม ปี 2024 ที่จะถึงนี้

 

#บอลพาดู

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline