จาก 10 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกพวกเขาคงกระพันไม่ปราชัยให้ใครเลย แต่กลายเป็นว่า 3 เกมหลังสุดสะดุดแพ้รวด เสียรวมไปถึง 8 ประตู ด้วยกัน
เกิดอะไรขึ้นกับทัพ “ไก่เดือยทอง” ของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ผู้กวาดกุนซือยอดเยี่ยมประจำเดือน 3 ครั้งซ้อน ขอบสนาม จะพาไปวิเคราะห์ปัญหาของพวกเขากันครับ
นักเตะเจ็บ
ประเด็นแรกที่ต้องหยิบยกมาพูดถึงกันก่อนเลยคือปัญหาอาการบาดเจ็บ แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่หลายๆ สโมสรต้องเผชิญในฤดูกาลนี้ที่มีลิสต์รายชื่อนักเตะหมุนเวียนเข้าโรงพยาบาลกันอยู่แทบตลอด
ซึ่งกับ สเปอร์ส การที่นักเตะบาดเจ็บเยอะมันส่งผลต่อผลงานในสนามแบบชัดเจน หรือพูดง่ายๆ ว่าคุณภาพของเกมมันดร็อปลง จากที่เคยมี 11 ตัวจริงที่ลงตัว พอขาดจิ๊กซอว์คนไหนไปทำให้ออกอาการเป๋จนเป็นที่มาของการพ่ายแพ้ถึง 3 เกมติดต่อกัน
มองไปที่แผนกเกมรับนักเตะหน้าใหม่ที่ได้รับคำชื่นชมอย่าง มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลายจังหวะๆ สามารถเอาชนะเกมรุกของคู่แข่งได้ทั้งบอลบนพื้น หรือกลางอากาศ ทว่าก็มาโดนอาการบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริงเข้ามารบกวนจากเกมที่ดวลกับ เชลซี
มันค่อนข้างชัดเจนว่าหลังบ้านของ สเปอร์ส คุณภาพอ่อนลง เสียประตูง่ายมากขึ้น ก่อนสะดุดแพ้ติดต่อกันอีก 2 เกม ต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน และ แอสตัน วิลล่า ทั้งนี้ยังรวมไปถึง คริสเตียน โรเมโร่ ที่มาโดนแบนในช่วง 2 นัดหลังสุด
กลายเป็นว่าพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ออปชั่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟทางเลือกที่ 3 และ 4 ไม่สามารถทดแทนได้ เราจึงได้เห็นการที่ อังเก้ ต้องขยับฟูลแบ็คทั้ง เอเมอร์สัน โรยัล กับ เบน เดวิส มายืนในบทบาทปราการหลังตัวกลางในเกมล่าสุด
นอกจากแผงแนวรับแล้ว อีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญที่ขาดหายไปด้วยเช่นกันคือมิดฟิลด์ตัวตัดเกม ที่ผ่านมาคู่หูแดนกลางคือการใช้ ป๊าบ ซาร์ เล่นร่วมกับ อีฟส์ บิสซูม่า ทว่าในเกมล่าสุดรายหนึ่งโดนแบน อีกรายบาดเจ็บ มันเลยกลายเป็นหลุมตรงกลาง
จากความหนักแน่นที่เคยมี คอยสกรีนเกมรุกของคู่แข่งมันขาดหายไป เลยกลายเป็นหนึ่งในปัญหาที่ต้อง อังเก้ เองก็คงต้องตามแก้ไขต่อไปว่าจะบริการเกมรับ หรือแดนกลางอย่างไรให้มีความสมดุลในรูปแบบเดิมๆ กลับมา
คุณภาพนักเตะ
เรื่องต่อมาที่ส่งผลแบบชัดเจนเลยของ สเปอร์ส คือเมื่อมีนักเตะบาดเจ็บ ทว่าพวกเขาไม่ได้มีคุมกำลัง ทดแทน หรือตัวสำรองมีคุณภาพมากพอในการลงไปเล่น
ยกตัวอย่างชัดเจนจากที่กล่าวไปคือในบทบาทเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ เมื่อ ฟาน เดอ เฟ่น เจ็บ โรเมโร่ โดนแบน นักเตะที่จะมาทดแทนยังต้องหุบเอาฟูลแบ็คอาชีพมาเล่น แน่นอนว่ามันสามารถทำได้ แต่คุณภาพก็ต้องยอมรับกันตามสภาพว่ามันไม่อาจเหมือนนักเตะที่เล่นในตำแหน่งนี้แน่ๆ
ซึ่งเมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับทีมอื่นๆ อย่าง แอสตัน วิลล่า คู่แข่งของพวกเขาในเกมล่าสุดเมื่อขาด ไทรอน มิงส์ ไป ทีมก็ยังมี เปา ตอร์เรส, เอซรี่ คอนซ่า หรือ ดิเอโก้ คาร์ลอส เป็นคนที่คอยมาทดแทน
จากเกมรับข้ามไปดูเกมรุกกันบ้าง การขาดหายไปของ เจมส์ แมดดิสัน ส่งผลต่อเกมรุกของพวกเขาไปไม่น้อย แม้ที่ผ่านมาจะทำประตูได้ตลอด แต่ความเด็ดขาดมันก็ขาดหายไป คนที่จะมาคอยเชื่อมเกม คอยประสานงานกับ ซน ฮึง-มิน มันก็ไม่ได้ลงตัวเหมือนเคย นักเตะอย่าง ไบรอัน กิล หรือ แบรนแนน จอห์นสัน ไม่ได้สร้างอิมแพ็คต่อเกมรุกได้มากขนาดนั้น
ฉะนั้นมันเลยกลายเป็นปัญหาเรื้อรังของ สเปอร์ส มาตลอด การขาดหายนักเตะคนสำคัญ แต่ไม่มีคนอื่นๆ ที่คุณภาพทดแทนได้
แน่นอนว่าเรื่องของ Squad แนวลึกคือสิ่งที่พวกเขายังแตกต่างจากทีมอื่นๆ อยู่ ฉะนั้นถ้าจะยกระดับไปข้างหน้า มีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง การเดินหน้าคว้านักเตะดีๆ มีคุณภาพคือเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าคาดหวังถึงความสำเร็จ หรือพื้นที่ท็อปโฟร์อีกครั้ง
ฟุตบอลที่สู้จนเกินไป
แน่นอนว่าฟุตบอลเกมรุกคือการเอนเตอร์เทนแฟนบอลได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าเหล่ากองเชียร์คงอยากเห็นทีมรักเล่นฟุตบอลที่สวยงาม เดินหน้ากดคู่แข่งด้วยความแข็งแกร่ง
ซึ่ง สเปอร์ส ในยุคของ อังเก้ กำลังเล่นฟุตบอลในสไตล์ดังกล่าว ทว่าบางทีมันดูเหมือนเป็นดาบ 2 คมที่กลับมาทิ่มแทงตัวเองในช่วงหลังๆ
อย่างในเกมกับ เชลซี แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 9 คนในสนาม ทว่าสิ่งที่ อังเก้ เลือกใช้คือการพยายามเดินหน้าลุยต่อเพื่อเอาประตู สุดท้ายก็พังพินาศโดนคู่แข่งถลุงไปถึง 4 ประตู
หรือในเกมกับ วูล์ฟส์ แทนที่พวกเขาจะปิดเกมเพื่อ 3 คะแนน แต่กลับมาโดน 2 ประตูพลิกแซงจนสุดท้ายสะดุดพ่ายไปอีกเกม
เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นบางที อังเก้ อาจต้องคิดถึงวิธีการในการรับมือ หรือเปลี่ยนแปรงแท็คติกของตัวเองบ้าง ใช่ว่าการมีแนวทางที่ชัดเจนคือเรื่องที่ดี แต่บางทีการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าตรงนั้นเพื่อคว้าคะแนนก็คงเป็นสิ่งที่เขาต้องสั่งลูกทีมลงไปเช่นเดียว
จากตอนแรกไม่แพ้ใครมา 10 เกมติด พร้อมคว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมถึง 3 เดือน ทว่าเพียงช่วงเวลาไม่นานสถานการณ์ของ สเปอร์ส กลับตาลปัตรออกไปในทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
คราวนี้ต้องมาดูกันว่า อังเก้ จะมีแผนรับมืออย่างไร ทั้งปัญหานักเตะบาดเจ็บ หรือคุณภาพนักเตะในแนวลึกที่จะก้าวขึ้นมาทดแทน