logo-heading

หลังจากที่เกิดดราม่า และมีทัวร์ลงชุดใหญ่ในโลกโซเชี่ยลไป 1 วัน ล่าสุดทีมชาติไทยก็ได้ทำการประกาศรายชื่อนักเตะชุดที่จะบุกไปเยือนซามูไรบลูส์ ทีมชาติญี่ปุ่น ในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2567 ออกมาจนได้ เรียกได้ว่าถ้าไม่โดนด่า ก็คงจะไม่ประกาศเร็ววันนี้แน่นอน

ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ประกาศเมื่อวาน (18 ธันวาคม) หรือมาประกาศในวันนี้ (19 ธันวาคม) หรอกครับ ประเด็นมันคือ จริงๆ แล้ว ถ้ารู้ว่ารายชื่อยังไม่นิ่ง และหลังบ้านยังคุยกันไม่สะเด็ดน้ำ ก็ไม่น่าจะรีบออกข่าวมาก่อนว่าจะประกาศชื่อวันที่ 18 ธันวาคม มันเหมือนเป็นเอาเชือกมาผูกคอตัวเอง แล้วสุดท้ายมันก็ไม่สามารถประกาศได้ในวันนั้นจริงๆ

สาเหตุที่แท้จริงจะเป็นเพราะอะไรก็แล้วแต่ ลองคิดดูว่าถ้าสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้ประกาศไว้ว่าจะประกาศชื่อ แล้วพอมาสัปดาห์นี้ พอทุกอย่างพร้อมแล้วค่อยประกาศออกมาทีเดียว หรือจะแจ้งก่อนหนึ่งวันเพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวก้ยังได้ ดราม่านี้มันก็จะไม่เกิดขึ้น

สโมสรก็จะไม่โดนด่า ไม่ถูกโจมตีเรื่องไม่ปล่อยนักเตะมาให้ทีมชาติ ทีมงานที่ทำทีมชาติเองก็ไม่ต้องถูกด่าว่าทำงานกันไม่มืออาชีพ เกิดปัญหาเดิมๆ อีกแล้ว อะไรทำนองนี้

แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ สุดท้ายเดี๋ยวมันก็กลับไปอีหรอบเดิมแหละครับ เรื่องทีมชาติไทยโอลลี่ของเรา มันเป็นไทยแลนด์สไตล์อยู่แล้ว อย่าไปคิดมาก

เอาเป็นว่าตอนนี้รายชื่อถูกประกาศออกมาแล้ว 23 คนด้วยกัน ซึ่งนี่คือทีมชาติไทยชุดแรกภายใต้การคุมทัพอย่างเป็นทางการของกุนซือคนใหม่จากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง "มาซาทาดะ อิชิอิ"

และเมื่อรายชื่อออกมา มันก็ทำให้เราเห็นอะไรบางอย่างที่น่าสนใจกับรายชื่อทีมชุดนี้ และอยากจะมาวิเคราะห์ให้ทุกคนได้อ่านกัน

เราลองไปดูรายชื่อนักเตะทีมชาติไทย ชุดอุ่นเครื่องญี่ปุ่น ทั้ง 23 คนอีกครั้ง ว่ามีใครบ้าง

สิ่งที่เห็นจากรายชื่อ \"ทีมชาติไทย\" ชุดแรกของ \"มาซาทาดะ อิชิอิ\"

เอาแบบยังไม่ต้องวิเคราะห์อะไรจะเห็นว่าทีมชุดนี้เราเรียกผู้รักษาประตูไปแค่ 2 คน แทนที่จะเป็น 3 ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะเป็นเกมอุ่นเครื่องนัดเดียว อาจจะอยากลองเอานักเตะตำแหน่งอื่นๆ ไปลองมากกว่า

กองหลังตามที่ประกาศมามีแค่ 6 คน ที่น่าสนใจคือมีเซ็นเตอร์อาชีพ 3 คนเท่าคือ สุพรรณ ทองสงค์, จักพัน ไพรสุวรรณ และ เอเลียส ดอเลาะ โดยเป็นแบ็กขวา 2 คน คือ นิโคลัส มิคเกลสัน กับ สันติภาพ จันทร์หง่อม ขณะที่แบ็กซ้ายมาคนเดียวคือ ธีราทร บุญมาทัน

กองกลางน่าสนใจเรียกมาถึง 12 คน และกองหน้าอีก 3 คน จากรายชื่อที่ออกมา สิ่งที่น่าสนใจและอยากมาเล่าสู่กันฟัง ก็คือ

1.ธีราทร มีชื่อ

การที่ทีมชาติไทยมีชื่อของ ธีราทร บุญมาทัน นั้นไม่แปลกอะไร เพราะเป็นกัปตันทีมและนักเตะเบอร์หนึ่งของไทยในเวลานี้ แต่ประเด็นก็คือหลายคนมองว่า ธีราทร กับ อิชิอิ นั้นเกาเหลาอะไรกันหรือเปล่า ตอนที่บุรีรัมย์ นั้นแยกทางกับ อิชิอิ แล้วตอนที่ โก๋อุ้ม โพสต์ให้ว่าพร้อมสนับสนุน มาโน่ หลังจบคิงส์ คัพ รวมทั้งโพสต์ล่าสุดหลังจบคัดบอลโลกด้วย 

แต่สุดท้าย ธีราทร ก็กลับมามีชื่อในยุคของ อิชิอิ และทั้งคู่ก็จะได้ร่วมงานกันอีกครั้งในเวอร์ชั่นทีมชาติไทย ซึ่งการมีชื่อของ ธีราทร อาจจะเป็นคำตอบว่าทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเหมือนที่แฟนบอลคิดไปเองก็ได้ หรือถ้าสมมติว่าอาจจะมีอะไรในใจ แต่ด้วยหน้าที่และความเป็นมืออาชีพทั้งคู่ต้องมาร่วมงานกัน บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสดีที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เอาเป็นว่าเราจะได้เห็น ธีราทร กับทีมชาติไทยของ อิชิอิ แน่นอน 

2.กฤษดา กองกลาง

เช่นเดียวกันกับชื่อของ กฤษดา กาแมน ก็ไม่แปลกอะไรที่จะมีชื่อในทีมชุดนี้ แม้ฟอร์มของชลบุรี ในลีกจะไม่ดีก็ตาม แต่ฝีเท้าของ กฤษดา ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร และสมควรติดทีมชาติหรือไม่ แต่ประเด็นก็คือในทีมชุดนี้ ชื่อของเจ้าและห์ มาอยู่ในแผงกองกลาง ไม่ใช่กองหลังเหมือนยุคของ มาโน่

นี่จึงเป็นโอกาสที่เราน่าจะได้เห็น กฤษดา ถูกดันขึ้นไปเล่นเป็นกองกลางตัวรับแบบเต็มตัวในยุคของ อิชิอิ และก็เป็นออฟชั่นที่อาจจะเล่นกองหลังได้ด้วยถ้าจำเป็น ซึ่งคราวนี้ก็ต้องมารอดูกันว่า กฤษดา กับการเล่นกองกลางให้ทีมชาติไทย จะเวิร์คหรือไม่เวิร์ค หรือท้ายที่สุดจะถูกจับไปเล่นเซ็นเตอร์เหมือนเดิม อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน

3.เจริญศักดิ์ คัมแบ็ค

และรายชื่อที่ทุกคนคิดไว้อยู่แล้วว่าเขาจะได้กลับมาติดทีมชาติก็คือ "เจ้าเทห์" เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่มีชื่อกลับมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้แทบจะไม่เคยมีชื่อเลยด้วยซ้ำ

ซึ่งเรารู้กันดีว่า เจริญศักดิ์ ถือเป็นเก็กปั้นของ อิชิอิ ก็ว่าได้สมัยที่อยู่สมุทรปราการ ซิตี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าตัวผลงานดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้ง และอีกทั้งตอนนี้ก็กลับมาฟอร์มดีกับเมืองทอง ถูกที่ถูกเวลาพอดี ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ลุงอิ จะไม่เรียกศิษย์รักคนนี้กลับมาติดทีมชาติ และไม่แน่มีโอกาสได้เป็นตัวจริงด้วย 

อีกเรื่องที่น่าสนใจสำหรับ เจริญศักดิ์ ก็คือ มักจะเป็นที่ชื่นชอบของโค้ชญี่ปุ่น จำได้ว่าสมัย นิชิโนะ เจริญศักดิ์ ก็ถือเป็นตัวหลักทั้งกับยู23 และทีมชาติชุดใหญ่ ก็หวังว่าเจ้าตัวจะทำผลงานได้ดีเหมือนตอนนั้นอีกครั้ง

4.สุภโชค, ศุภณัฏฐ์ 

สำหรับสองพี่น้อง สุภโชค กับ ศุภณัฏฐ์ ก็ถือเป็นการกลับมาร่วมงานกับ อิชิอิ อีกครั้งเช่นกัน แล้วตอนที่ทั้งคู่เล่นให้บุรีรัมย์ ยุคที่ อิชิอิ คุมทัพอยู่นั้น ถือว่าฟอร์มระเบิดทั้งคู่ ดังนั้นบอกได้เลยว่าเราจะได้เห็นทั้ง สุภโชค กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กลับมาเฉิดฉายในทีมชาติแน่นอน เพราะคู่มือการใช้งานอยู่ที่กุนซือทีมชาติไทยอยู่แล้ว

5.ศุภชัย ไม่ติด

ถ้าพูดถึงคนที่น่าแปลกใจและไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ก็คือ ศุภชัย ใจเด็ด ซึ่งการไม่มีชื่อไม่ได้แปลกอะไร ถ้าเทียบกับฟอร์มในฤดูกาลนี้ แต่ถ้าย้อนกลับไปดูผลงานของ "เจ้าอาร์ม" ที่อยู่กับบุรีรัมย์ ในยุค อิชิอิ นั้นยิงระเบิดระเบ่อ ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะเรียกกองหน้าที่ตัวเองคุ้นเคยมา แถมยังมีคู่มือใช้งานอยู่แล้วด้วย แต่สุดท้ายก็ดันไม่มีชื่อของ ศุภชัย แต่ก็นั่นแหละ ยังไม่ใช่ชื่อสุดท้าย นี่เป็นแต่เกมอุ่นเครื่อง ในทัวร์นาเม้นท์จริงอย่างเอเชี่ยน คัพ เจ้าอาร์มอาจจะกลับมามีชื่อก็ได้

เช่นเดียวกับนักเตะคนอื่นๆ ที่ไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ ก็เชื่อว่ายังไม่ใช่ชุดที่จะเอาไปเล่นเอเชี่ยน คัพ คงจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายตำแหน่ง ซึ่งเราก็ต้องมารอดูกัน

เอาเป็นว่าหลังจากนี้ต้องมารอดูว่าจะมีใครเจ็บเพิ่มและต้องถอนตัวหรือเปล่า เพราะยังมีโปรแกรมบอลถ้วยและไทยลีกนัดสุดท้ายเลกแรก บวกกับเกมตกค้างวันที่ 28 ธันวาคมนี้อีก ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกัน

แต่อย่างไรก็ดี วันที่ 1 มกราคมนี้ เราจะได้เห็นทีมชาติไทยโฉมใหม่ ในยุคของกุนซือคนใหม่ที่แฟนบอลเรียกร้องกันมากที่สุด ก็มารอดูกันว่าเกมแรกของ อิชิอิ กับทีมชาติไทย จะสอบผ่านหรือเปล่า

 

#ชิชาริเต่า 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline