logo-heading

เซอร์ไพรส์กับ 11 คนแรกที่ อิชิอิ เลือกใช้ !!!

ด้วยความที่เป็นเกมแรกของ มาซาทาดะ อิชิอิ กับ ทีมชาติไทย ประกอบกับการเป็นเกมใหญ่ระดับเจอทีมชาติญี่ปุ่น ทำให้นัดนี้แฟนบอลต่างจับจ้องพอสมควรว่าจะออกมาเป็นทีมชุดไหนหรือมีใครลงสนามกันบ้าง และพอได้เห็นรายชื่อตัวจริงก็ถือว่าเซอร์ไพรส์พอควร เพราะบรรดาตัวหลักๆ อย่าง ธีราทร, สารัช, พิธิวัตต์, สุภโชค, เอกนิษฐ์ ต่างถูกออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรองก่อน แน่นอนว่า เซนเซอิชิอิ เรียกใช้ผู้เล่นที่มี่ร่างกายพร้อมที่สุด เพราะนักเตะข้างต้นที่ว่ามาหลายๆ คนต่างเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจของสโมสรนั่นเอง อย่างน้อยก็ถือว่า อิชิอิ กล้าที่ดร็อปผู้เล่นบางคน

 

“กฤษดา” ยังคงถูกเลือกเล่น “กองหลัง”

มีนักเตะหนึ่งตำแหน่งที่แฟนบอลไทยอยากเห็นว่าในยุคของ มาซาทาดะ อิชิอิ นั้นจะเล่นยังไง ?? เพราะก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาทำทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง เลือกใช้เขาในตำแหน่งเซ็นเตอร์ตลอด กลับกันในยุคของ มาโกโตะ เทกุระโมริ ที่ ชลบุรี เอฟซี เขาใช้ กัปตันและห์ เล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ สำหรับเกมนัดนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ ก็ยังเลือกให้ กฤษดา กาแมน เล่นเป็นกองหลังเหมือนเดิม แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ก็ยอมรับได้เพราะในทีมชุดนี้ กัปตันและห์ถือว่าดีที่สุดแล้วล่ะ 

ครึ่งแรกบอลเกมรับไทยสู้ได้ดี 

ถ้าใครได้ดูเกมในวันนี้น่าจะมองคล้ายๆ กันว่าเกม 45 นาทีแรกที่เราใช้วิธีการเล่นเกมรับแบบแน่นๆ แล้วรอโต้ทำได้ดีมากๆ แม้จะโดนขึงอยู่เกือบตลอดครึ่งแรก แต่เราก็ไม่พลาด ช่วยกันเล่นเกมรับอย่างอดทนทั้งกองกลางและกองหลังช่วยกันไล่ได้ดีตลอด และแม้ว่าญี่ปุ่นจะไม่ได้ใช้ชุดที่ดีที่สุดที่พวกเขามีในนัดนี้ แต่อย่างน้อยๆ ชุดเกมรับในครึ่งแรกของเราอย่าง นิโคลัส มิคเคลสัน, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, เอเลียส ดอเลาะห์ และ กฤษดา กาแมน ก็ดีพอที่ควรจะได้รับคำชมบ้าง 

อิชิอิ เลือกส่งชุดตัวจริงลงสู้ครึ่งหลัง

ส่วนเกมในครึ่งเวลาหลัง โค้ชอิชิอิ เลือกที่ส่งผู้เล่นตัวจริงคืนกลับสู่ทีมอาทิ ธีราทร บุญมาทัน ลงมายืนแบ็กซ้าย สารัช อยู่เย็น กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ยืนกลางคู่กันเลย โดยให้ สุภโชค สารชาติ ลงไปบู๊ไปแดนหน้า ซึ่งถือว่า เซนเซอิชิอิ เลือกที่จะลองทีมอย่างชัดเจน เพราะ 2 ครึ่งเลือกใช้ผู้เล่นที่เปลี่ยนไปมากกว่าครึ่งทีม ก่อนที่จะเป็น 45 นาทีหลังนี่แหละที่เราโดนลูก 1-5 แบบรัวๆ ไปเลย 

 

เจอ ญี่ปุ่น ดักคอด้วยชุดตัวจริงเละทันที 

ถ้าจะบอกว่าเกม "ครึ่งแรก" กับ "ครึ่งหลัง" เราใช้ผู้เล่นคนละชุดกัน ทางฝั่ง "ทีมชาติญี่ปุ่น" ก็เลือกใช้วิธีการเดียวแบบเรา เพราะการที่เขาเลือกส่งนักเตะดีกรีลีกยุโรปลงมาหลายๆ คนอย่าง เคอิโตะ นากามูระ, รึทสึ โดอัน หรือ ทาคุมิ มินามิโนะ อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล และทั้งหมดไม่ต้องใช้เวลานานในการเล่นร่วมกัน เนื่องจากระดับศักยภาพนักเตะชุดหลังที่ญี่ปุ่นมีนั้นทันกันทั้งหมด ทำให้เกมรับที่ดีๆ ของเราเสียขบวนและเสียประตูติดๆ กันนับตั้งแต่ลูกแรกในช่วงต้นครึ่งหลัง จนไปถึงก่อนจบเกมกับประตูที่ 5 ที่โดนในช่วงท้ายเกม 

แม้ว่าสุดท้ายแล้วนัดนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ จะประเดิมคุม ทีมชาติไทย ด้วยการแพ้เละ แต่มันก็อยู่ในฐานที่เข้าใจได้กับการเจอกับทีมชาติญี่ปุ่นในชุดที่พวกเขาเตรียมทีมเพื่อไปคว้าแชมป์เอเชียน คัพ 2024

ดังนั้นนัดนี้จึงถือเป็นการทำความรู้จักและเตรียมทีมของทัพ "ช้างศึก" ในยุคแรกเริ่มของ "เซนเซอิชิอิ" ต่อไป 

 

บอลพาดู 

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline