logo-heading

นับถอยหลังอีกเพียง 6 วัน ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติของทวีเอเชีย อย่างฟุตบอล “เอเชี่ยน คัพ 2023” ก็จะเปิดฉากฟาดแข้งอย่างเป็นทางการบนดินแดนแห่งทะเลทราย ประเทศกาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลก ครั้งล่าสุด 

โดยศึกเอเชี่ยน คัพ 2023 จะเปิดสนามอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มกราคมนี้ ขณะที่ทีมชาติไทย ของเรา ที่เป็นหนึ่งในชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปลงทำการแข่งขันกับเขาด้วย มีโปรแกรมจะลงสนามนัดแรกในวันที่ 16 มกราคมนี้ พบกับ คีร์กีซสถาน แต่ปัญหาที่แฟนบอลไทย กำลังสงสัยอยู่ในเวลานี้ก็คือ เราจะเชียร์ทีมชาติไทยได้ที่ไหน เพราะยังไม่มีข่าว หรือมีการโปรโมทใดๆ ว่าช่องไหนจะถ่ายทอดสดเอเชี่ยน คัพ ให้คนไทยได้ดูครั้งนี้

ล่าสุดมีข่าวออกมาตามหน้าสื่อต่างๆ ว่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2023 นั้น มีชาติจากทั่วโลกให้ความสนใจและซื้อลิขสิทธิ์ไปถ่ายทอดสดที่ประเทศของตัวเองกว่า 201 ประเทศ ไม่เฉพาะแต่ในเอเชีย เท่านั้น ประเทศในยุโรป, ทวีปอเมริกา , แอฟริกา หรือแม้กระทั้ง โซนโอเชียเนีย เขาก็ซื้อกันไปแล้วทั้งนั้น

ก็ดูเหมือนจะมีแต่พี่ไทยนี่แหละ ที่ตัวเองนั้นเป็น 1 ใน 24 ชาติ ที่ได้ไปแข่งขันด้วย แต่ไฉนกลับยังไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์เอเชี่ยน คัพ 2023 ครั้งนี้อย่างเป็นทางการ 

ซึ่งจะว่าไปมันก็เหมือนเป็นปัญหาโลกแตก และประเทศไทยก็มักจจะเจอเรื่องแบบนี้มาตลอด ตั้งแต่ฟุตบอลโลก, ฟุตบอลยูโร รวมทั้งฟุตบอลอาเซียน คัพ ด้วยซ้ำไป ทำไมประเทศไทยของเราต้องเจอปัญหาแบบนี้ซ้ำซาก จริงๆ มันก็มีที่มาที่ไป และเหตุผลในตัวของมันเหมือนกัน เราลองไปดูซิว่ามันเป็นเพราะเหตุอันใดบ้าง

1.ค่าลิขสิทธิ์ที่แพงกว่าชาติอื่น

ในทุกๆ ทัวร์นาเม้นท์ที่ผ่านมา ปัญหาใหญ่เลยก็คือเรื่องของค่าลิขสิทธิ์ที่แพงหูฉีก หลายคนสงสัยว่าทำไมชาติเล็กๆ อย่าง ลาว, กัมพูชา, เมียนมา หรือชาติที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเราไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย, เวียดนาม, อินโดนิเซีย เขาถึงซื้อได้ ก็นั่นแหละครับ พอเป็นประเทศไทย ราคามันก็จะแพงกว่าทุกชาติที่ได้เอ่ยไป เพราะอะไรก็ไม่รู้ หรือเขามองว่าประเทศไทย นั้นรวยมีกำลังจ่าย ขนาดพรีเมียร์ลีก ที่แพงที่สุด พี่ไทยยังซื้อได้เลย นี่แค่ฟุตบอลระดับทวีปทำไมจะซื้อไม่ได้

แต่ก็นั่นละครับ พอจะไปขอซื้อมาก็โดนโก่งกว่าชาวบ้านเขา สมมติว่าถ้าราคามันตายตัว จ่ายเท่าๆ กับชาติอื่น บางทีอาจจะทำให้ทุกอย่างมันง่ายกว่านี้ 

2.เจ้าภาพขายแบบเหมาทัวร์นาเม้นท์

อีกเหตุผลนึงก็คือ สมัยนี้เจ้าของลิขสิทธิ์โดยเฉพาะฟุตบอลที่เป็นทัวร์นาเม้นท์แบบนี้ เขาก็จะขายยกเข่งแบบทั้งทัวร์นาเม้นท์ โดยไม่ได้ขายเป็นคู่ หรือขายเฉพาะทีมชาติใดทีมชาตินึงเหมือนแต่ก่อน ซึ่งในอดีตเราจะได้ดูทีมชาติไทยลงเตะตลอด เพราะเราซื้อเฉพาะเกมของทีมชาติไทยอย่างเดียว แต่ทุกวันนี้เขาไม่ขายแบบนั้นแล้ว

ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์ฟุตบอลทีมชาติไทยอย่าง ไทยรัฐทีวี ก็มีข่าวว่ากำลังเจรจาจะขอซื้อรายแมตช์เฉพาะที่ไทยลงเตะเท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนทางเจ้าภาพกาตาร์จะยังไม่โอเค ซึ่งจะให้ซื้อทั้งทัวร์นาเม้นท์ ไทยรัฐ เอง ก็อาจจะไม่อยากซื้อทั้งหมด เพราะมองว่าไม่คุ้ม แฟนบอลไทยเองส่วนใหญ่ก็จะดูเฉพาะไทยลงเตะ ซึ่งมันขายโฆษณาได้แน่นอน แต่แมตช์อื่นๆ คู่อื่นๆ ต่อให้มีคนดู แต่มันก็น่าจะขายโฆษณายากอยู่ นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เป็นปัญหา  

3.เศรษฐกิจแบบนี้ไม่มีใครกล้าลงทุน

และถ้ามองถึงภาพใหญ่ นั่นคือเศษฐกิจของประเทศไทย ด้วยสภาพแบบนี้มันไม่มีใครกล้าควักเงินก้อนโตมาซื้อแน่นอน เพราะยังไงก็ไม่คุ้ม ยังไงก็ขาดทุน เหมือนที่บอกไปในข้อสาม ถ้าซื้อมาทั้งทัวร์นาเม้นท์ บอกเลยว่ามีแต่เจ๊งกับเจ๊ง คือถ้าไม่ใช่เจ้าสัวที่พร้อมเปย์ หรือรัฐบาลที่พร้อมเอางบประมาณประเทศไปจ่ายแล้วละก็มันก็ยาก ลำพังงบประมาณที่จะมาบริหารประเทศตอนนี้ยังประท้วงกันปาวๆ ใส่กันนัวในสภาอยู่เลย บอกเลยว่าลำบาก 

4.ความนิยมของฟุตบอลไทยตกลง

และสุดท้ายก็ต้องย้อนกลับมาที่กระแสนิยมของฟุตบอลไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ต้องยอมรับว่ามันไม่บูมเหมือนแต่ก่อน จริงอยู่ว่าแฟนบอลไทยยังเชียร์ทีมชาติไทยเหมือนเดิม แต่มองถึงภาพกว้าง แฟนบอลส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจบอลไทยขนาดนั้น ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ เอาแค่แฟนแมน ยูฯ, ลิเวอร์พูล อย่างเดียวก็เยอะกว่าแฟนบอลไทยแล้ว 

มันก็ส่งผลต่อการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะลงมาซื้อลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ ลองถ้ากระแสทีมชาติไทย บูมเหมือนเมื่อสัก 10 ปีก่อน รับรองจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ป่านนี้มีคนซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว เผลอๆ แย่งกันซื้อด้วย


จากเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา แม้จะดูว่าแฟนบอลไทยแทบจะหมดโอกาสในการดูเอเชี่ยน คัพ 2023 และเชียร์ทีมชาติไทย ผ่านหน้าจอฟรีทีวี แต่เชื่อเถอะว่าทุกอย่างยังเป็นไปได้ และอย่าเพิ่งตื่นตกใจไป 

ในทุกครั้งที่เราเกิดปัญหาแบบนี้ ก็จะมีพระเอกขี้ม้าขาวมาช่วยทุกครั้ง อย่างในฟุตบอลโลกล่าสุดเราก็ได้ทางภาครัฐ โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ช่วยเจรจาซื้อลิขสิทธิ์มาให้แฟนบอลไทยได้ดู 

ย้อนกลับไปตอนยูโร 2020 ก็ได้แอโรซอฟต์ ควักเงินมาซื้อลิขสิทธิ์ หรือแม้กระทั่งฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนล่าสุดเมื่อปี 2022 ก็ได้กองสลากพลัสของพี่นอท ที่มาซื้อในวินาทีสุดท้าย ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

ในครั้งนี้ก็เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น คือแฟนบอลไทยอย่าเพิ่งวิตกไป สุดท้ายแล้วก่อนที่ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ จะเปิดสนาม หรือก่อนที่ทีมชาติไทย จะลงเตะนัดแรก วันที่ 16 มกราคมนี้ เชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย และเราจะได้ดูทีมชาติไทย ผ่านการถ่ายทอดสดแน่นอน ไม่เชื่อคอยดู

อย่าลืมว่าเรามีนายกรัฐมนตรีที่บ้าบอลที่สุดคนนึงของประเทศไทย และก็มีว่าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่ตอนนี้เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่อยู่ด้วย ยังไม่นับบรรดาเศราษฐี เจ้าสัวรายอื่นๆ ที่ชอบฟุตบอลอีก

เชื่อว่าบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการและนอกวงการ ผู้มีใจรักฟุตบอลไทยทุกท่าน คงไม่ปล่อยให้แฟนบอลไทย ต้องไปหาลิงค์เถื่อน หรือไม่มีทีมชาติไทย ดูในเอเชี่ยน คัพ ครั้งนี้แน่นอน รอฟังข่าวดี ก่อนทีมชาติไทยลงสนามนัดแรก รับรองได้ดูแน่นอน


#ชิชาริเต่า  


 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline