logo-heading

แต่คุณอาจลืมนึกถึงตำนานมิดฟิลด์คนหนึ่งไป เขาคือตำนาน ที่เหล่าตำนานที่กล่าวมาข้างต้น ต่างยกย่องเขาคนนี้ว่า "นี่คือมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในยุคของเขา" ซึ่งมีนามว่า พอล สโคลส์ มิดฟิลด์ ไอ้แดงเพลิง แห่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชายผู้ที่ร่างกายดูไม่แข็งแรง ไม่มีความรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด

แต่ทำไมเหล่าตำนานขึ้นหึ้ง ถึงยกย่อง พอล สโคลส์ ว่าเป็นมิดฟิลด์แห่งยุค ขอบสนาม จะพาไปเล่าให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมอันสง่างามของตำนาน "ไอ้แดงเพลิง" 

ย้อนกลับไปในวัย 17 ปี พอล สโคลส์ ดูไม่มีคุณสมบัติการเป็นกองกลางชั้นยอดอยู่เลย เป็นเด็กหน้าตาบ้านๆคนนึง ไม่มีชื่อเสียง หรือ เป็นที่ต้องตาโดนใจ เหมือนพวก เดวิด เบ็คแฮม หรือ ไรอัน กิ๊กส์ มากนัก

โดยเฉพาะความสูงเพียงแค่ 168 เซนติเมตร ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือ ปีศาจแดง มองว่า ส่วนสูงแค่นี้ มันน้อยเกินไป สำหรับการจะพัฒนานักเตะคนหนึ่ง !!

สิ่งเดียวที่พอจะทำให้คนจดจำ พอล สโคลส์ ได้นั้น คือชายผิวขาว และ ผมเป็น "สีแดงเพลิง" ที่มีความโดดเด่น มากกว่า เมื่อเห็นเขาในแวบแรก

หากมองแค่ผิวเผิน พอล สโคลส์ ไม่ใช่ชายที่มีร่างกายแข็งแกร่งดุจดั่งเพชร ไม่ได้มีความรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด แถมส่วนสูงก็เป็นที่ปัญหา อาจจะไปต่อได้ยากในเส้นทางลูกหนัง โดยเฉพาะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แต่คุณสมบัติเหล่านั้น ไม่ได้หยุดให้ สโคลส์ กลายเป็นยอดนักเตะ ต่อให้จะถูกเรียกว่า "เตี้ย" แต่ สโคลส์ มีจุดเด่นเรื่อง "ความฉลาดเป็นกรด และ เท้าไวมาก !!

มีอยู่วันหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ ได้เดินทางไปชมฟอร์มนักเตะ เยาวชน ที่เดอะ คลิฟฟ์ (สนามฝึกซ้อมเก่าของ แมนฯ ยูไนเต็ด) ซึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ ประทับใจผลงาน และ ต้องการ เก็บเดวิด เบ็คแฮม, นิกกี้ บัตต์ และ (แกร์รี่) เนวิลล์ เอา เพื่อดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ โดยยังคงกังวลกับความสูงของ สโคลส์ เหมือนเดิม 

แต่หลังจากนั้น มีจังหวะที่ สโคลส์ ได้บอลตรงกรอบเขตโทษ เขาทำท่าหลอกยิง และ ลากบอลไปข้างหน้าต่อ ฝ่านด่านกองหลังมาได้หมด เข้าไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู ก่อนรอจังหวะให้หัวเข่าของโกลคนนั้น แตะพื้น และ ก็ล็อกบอลหลบอีกที แล้วงัดบอลเข้าประตูเสียบสามเหลี่ยม นั่นแหละคือช็อตเปลี่ยนชีวิต ที่ทำให้ ป๋า มอง สโคลซี่ เปลี่ยนไป

จากวันที่เป็นดาวรุ่ง เกือบไม่ได้ขึ้นชุดใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเรื่องส่วนสูง แต่หลังจากเขาได้โชว์ฟอร์ม และ ถูกเรียกขึ้นมาเป็นกำลังหลัก ปีศาจแดง ภายใต้การคุมทีมของ ป๋าเฟอร์กี้ เมื่อปี 1994 หลังจากนั้น "ประวัติศาสตร์ ก็ถูกขีดเขียน"

ตลอด 19 ปี พอล สโคลส์ สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้ 11 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 สมัย แน่นอนว่า พอล สโคลส์ เป็นแกนหลักสำคัญในการคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ เมื่อปี 1999 !!

หากจะพูดให้เห็นภาพว่า พอล สโคลส์ เก่งกาจขนาดไหน ??

เขาเป็นมิดฟิลด์ตำแหน่ง CM ที่โคตรจะเฟอร์เฟ็คท์ ทั้งการคุมเกมระดับ “GOD” คอยเชื่อมเกมระหว่างกองหลัง กับ กองหน้า เน้นจ่ายบอลทั้งบอลสั้น บอลยาว ขวางสนาม และ คอยเปลี่ยนจากเกมรับ เป็นเกมรุก

พอล สโคลส์ เป็นปรมาจารย์ เรื่อง พาสมาสเตอร์ จ่ายบอลให้เพื่อนได้ทุกรูปแบบ สั้นๆง่ายๆ ถ่ายซ้ายถ่ายขวา ที่สำคัญท่า อัลติเมต ไม้ตายของ นักเตะรายนี้ คือการยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ อารมณ์เหมือน ยิงลูกไฟ บอลส่ายแหวกอากาศทะลุซุกตาข่าย และ นั่นแหละครับ จึงเป็นที่มาของฉายาที่แฟนๆตั้งให้ว่า "ไอ้แดงเพลิง"

ถึงขนาดที่ว่า พอล สโคลส์ ประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้ว ป๋าเฟอร์กี้ ยังต้องตามกลับมาให้ช่วยทีมครึ่งฤดูกาลหลัง เพราะสถานการณ์กองกลาง ปีศาจแดง ชั่วโมงนั้น มีปัญหามากมายทั้งเรื่องผลงาน และ อาการบาดเจ็บ ก่อนที่ สโคลส์ กับ ป๋าเฟอร์กี้ จะช่วยกันคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทิ้งทวน เมื่อซีซั่น 2012-2013 ก่อนจะวางมือไปทั้งคู่

แต่กระนั้น ในความทรงจำ พอล สโคลส์ ไม่ได้ถูกแฟนบอล พูดถึงในแบบระดับโลกมากนัก เพราะตำแหน่งกองกลาง เจเนเรชั่น ที่ขึ้นมาเทียบรุ่นกัน แฟนบอลมักจะพูดถึง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตำนาน เชลซี และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันแฟนตาสติคของ ลิเวอร์พูล มากกว่า ขนาดในทีมชาติอังกฤษ .. พอล สโคลส์ ก็ต้องนั่งสำรองอยู่บ่อยๆ

หากจะเรียกว่าเป็นนักเตะ "อันเดอร์เรต" ก็คงไม่ผิดเพี๊ยนมากนัก .. เพราะ สโคลส์ สมัยเป็นนักเตะ เขาคือคนประเภทพูดน้อย ขอทำหน้าที่แค่ในสนาม เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลา เขาก็จะอันตรธานหายไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ พอล สโคลส์ ร่ายเวทมนตร์ในสนาม ไม่มีใครลบเลือนมันไปได้ โดยเฉพาะเหล่าตำนานนักเตะ ต่างยกย่อง พอล สโคลส์ เลยว่า นี่คือนักเตะที่สมบูรณ์แบบ ที่หาใครจะมาเทียบ โดดเด่นทั้งการวางบอลอันน่าอัศจรรย์ อีกทั้งยังมี ลูกยิงไกลที่โลกต้องตกตะลึง

ครั้งหนึ่ง ชาบี เอร์นานเดซ ตำนานกองกลางทีมชาติสเปน ปัจจุบันทำหน้าที่้เป็นกุนซือให้กับ บาร์เซโลน่า เคยยกย่องสโคลส์ ผ่าน เดอะ การ์เดี้ยน เมื่อปี 2011 ไว้ว่า “สำหรับผม สโคลส์ เขาคือมิดฟิลด์ตัวกลาง ที่ดีที่สุดคนหนึ่งในรอบ 15-20 ปีมานี้ เขาครบเครื่องทั้งเรื่องบอลสุดท้ายและการยิง เขาแข็งแกร่ง ผมไม่ค่อยเห็นเสียบอลเท่าไหร่นัก และที่สำคัญวิสัยทัศน์ของเขาคือที่สุดจริงๆ"

ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานแข้งและโค้ช ของ เรอัล มาดริด ยังยอมรับในฝีเท้าของ พอล สโคลส์ ไว้ว่า "คุณไม่ค่อยจะได้เจอกับนักเตะที่สมบูรณ์แบบหรอก แต่ สโคลส์ เป็นคนที่ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ เขาเป็นนักเตะคนโปรดของผม" 

ขนาดกับ โรนัลดินโญ่ จอมทัพทีมชาติบราซิล ผู้สร้างอันลีลาแปลกใหม่ให้กับวงการฟุตบอล เมื่อช่วงยุคต้นปี 2000 ยังต้องยอมรับการผ่านบอลของ สโคลส์ ที่ไม่มีใครเหมือน โดย เหยินน้อย ได้ยกย่องไว้ว่า "ผมอยากจะจ่ายบอลได้แบบเขา ใครสอน สโคลส์ ให้จ่ายบอลได้ขนาดนั้นนะ?"

และ ในความยอดเยี่ยมของ สโคลส์ กับการรับบทบาทเป็นมิดฟิลด์ตำแหน่ง CM ทำให้เขากลายเป็นต้นแบบของเด็กๆ ลา มาเซีย อะคาเดมี่ของ บาร์เซโลน่า หนึ่งในศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดของโลก แบบไม่รู้ตัว โดย เมสซี่ เล่าไว้ว่า "ตอนผมเป็นเด็กฝึกหัดที่ ลา มาเซีย ชื่อของ สโคลส์ ถูกนำมาเป็นตัวอย่างให้พวกเราปฏิบัติตามเสมอ เขาเป็นเหมือนแรงบันดาลใจ”

ซึ่งจริงๆแล้ว สโคลส์ กับ บาร์เซโลน่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย เพราะ สโคลส์ เป็น ปีศาจแดง มาตลอดชีวิต แต่กระนั้นสไตล์การเล่นแบบ ติกิ-ตาก้า มันมีพื้นฐานมาจากการเล่นของ สโคลส์ นั่นแหละครับ คือให้บอลสั้น ชิ่งตามช่อง เคลื่อนที่ไปรับบอล พอรับบอล ก็จะให้บอลเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ

ครั้งหนึ่ง แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาเพื่อนร่วมรุ่น เคยให้สัมภาษณ์ว่าการซ้อมกับ สโคลส์ โคตรน่าเบื่อ เพราะ สโคลส์ ชอบเอาบอลไปเล่นคนเดียว !! ไม่ใช่พวกเลี้ยงกินตัวนะครับ แต่ว่า สโคลส์ จะขยับรับบอลจากเซนเตอร์ จากนั้นจ่ายให้ปีก ขยับหาช่อง มารับบอลคืน จากนั้นจ่ายข้ามฟากให้แบ็กอีกฝั่ง แล้วก็วิ่งไปรอรับบอล คือคุณจะเล่นตำแหน่งไหนก็ได้ แต่เวลาคุณได้บอล เงยหน้ามา สโคลล์ จะอยู่ในตำแหน่งที่คุณสามารถฝากบอลให้ได้เสมอ"

นั่นแหละครับทำไมจึงเป็นเหตุผลที่ว่า พอล สโคลส์ เป็นเหมือนต้นแบบของเด็กๆ ลา มาเซีย

มีครั้งหนึ่ง หลังจบเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อซีซั่น 2010/11 กลุ่มผู้เล่น บาร์เซโลน่า อย่าง ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเกสต์, ลิโอเนล เมสซี่ และเปโดร ต่างเข้าไปรุมแย่งกัน เพื่อขอแลกเสื้อกับ พอล สโคลส์ ท้ายที่สุดกลายเป็น อันเดรียส อิเนียสต้า ที่ปาดหน้าได้เสื้อไปครอง เพราะกลุ่มผู้เล่น บาร์ซ่า รู้ดีกว่า นั่นอาจเป็นโมเมนท์สุดท้ายบนผืนฟลอร์หญ้าของ "ไอ้แดงเพลิง" 

เพราะครั้งหนึ่งในชีวิต มันจึงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ดังนั้นหากคุณอยากจะไปรุมล้อม และ ใกล้ชิดกับ พอล สโคลส์ แบบตัวเป็นๆ ประกบไหล่ตำนาน "ไอ้แดงเพลิง" เหมือนที่ นักเตะ บาร์ซ่า เคยรุมล้อมขอเสื้อ มาแล้ว 
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline