logo-heading

สิ่งแรกที่เราต้องทราบคือยูฟ่ามีกฎว่า ทีมที่มีเจ้าของสโมสรเดียวกัน จะไม่สามารถลงแข่งรายการเดียวกันได้ ซึ่งซิตี้กับจีโรน่ามีเจ้าของเดียวกันพอดีคือ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป

หากซิตี้ไปเล่น UCL และจีโรน่าไปเล่นยูโรปา มันคงไม่มีปัญหา เพราะคนละรายการ แต่ปีนี้จีโรน่าดันงัดฟอร์มโหดนำจ่าฝูงลาลีกา โอกาสไป UCL ฤดูกาลหน้าสูงมาก มันเลยเป็นประเด็นว่า ถ้าสุดท้ายยูฟ่าให้โควตาแค่ 1 ทีมจะเป็นทีมไหน?

ถ้ามองแบบเบสิค ซิตี้ใหญ่กว่า ยังไงเจ้าของก็เลือกซิตี้ไปแข่งอยู่แล้ว แต่กฎยูฟ่าข้อ 5.02 ระบุไว้ชัดเจนเลยว่า หากเป็นเจ้าของเดียวกัน จะให้ทีมที่ทำอันดับในลีกเหนือกว่า 

นั่นหมายความว่า ถ้าฤดูกาลนี้ซิตี้พลาดแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่จีโรน่าได้ลาลีกา มันจะกลายเป็นจีโรน่าที่ได้ไปเล่นแทน

ยกเว้นว่าจบอันดับเท่ากัน ซิตี้แชมป์ จีโรน่าแชมป์ หรือเป็นรองแชมป์ด้วยกันทั้งคู่ ตามกฎจะให้ทีมที่ค่าสัมประสิทธิ์ดีกว่าไปเล่น ซึ่งแน่นอนว่าซิตี้ดีกว่าแบบมหาศาล

อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้คือ ESPN วิเคราะห์จากฎของยูฟ่าเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงมันพลิกแพลงได้เยอะมาก แล้วก็เคยมีเคสที่เจ้าของเดียวกัน แต่ลงแข่งรายการเดียวกันมาแล้วคือ แอร์เบ ไลป์ซิก และซัลส์บวร์ก แถมเคยจับอยู่กลุ่มเดียวกันด้วยในยูโรปาปี 2018 
 

เคสนั้นยูฟ่าอนุญาต เพราะทั้ง 2 สโมสรสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะมีเจ้าของเครือเดียวกัน แต่บอร์ดบริหารแยกคนละชุดชัดเจน ทำให้ไม่มีปัญหา แต่คำถามก็คือ ของซิตี้จะเป็นแบบนั้นไหม?

หากนับความเกี่ยวข้อง เคสของเรือใบสีฟ้าจะมีปัญหามากกว่า เพราะกลุ่มเจ้าของสโมสรถือหุ้น จีโรน่า 47%, เปเร่ กวาร์ดิโอล่า พี่ชายของเป๊ปมีหุ้น 16% นอกจากนี้ ยังมีหุ้นอีก 35% ที่เป็นของประธานสโมสรโบลิบาร์ ซึ่งทีมนี้อาจไม่ได้โดนเจ้าของซิตี้เทคโอเวอร์ แต่ก็เป็นพาร์ทเนอร์กัน

คือมันดูมีส่วนเกี่ยวข้องกันเยอะมาก เลยไม่แปลกที่ ESPN จะตั้งทฤษฎีนี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากหาข้อมูลเพิ่มเติม ผมเชื่อว่าซิตี้จะหาทางไกล่เกลี่ยให้ลงเล่นพร้อมกันได้ด้วย 2 เหตุผล

อย่างแรกก็คือ ยังพอมีเวลาให้ทีมงานของ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป จัดการรายชื่อผู้บริหารใหม่ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ามีทีมบริหารแตกต่างกัน ซึ่งตอนนี้ประธานของจีโรน่าคือ เดลฟี่ เกลี่ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับซิตี้อยู่แล้ว, มาร์เซโล่ คลอร์ คนนี้เป็นสมาชิกบอร์ดบริหาร เป็นประธานสโมสรโบลิบาร์ที่จับมือกับเจ้าของซิตี้ แต่ก็ไม่มีหุ้นส่วนกัน ไม่ผิดอะไร

ถ้าจะมีสงสัยคือ ดีเอโก้ กิลยานี่ รองประธานจีโรน่า ซึ่งเป็นผู้บริหารในเครือซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป และพี่ชายของเป๊ปที่ยังคลุมเครือนั่นแหละ แต่มันแก้ไม่กี่เคสก็น่าจะจบ ซึ่งผมเชื่อว่าผู้บริหารซิตี้คงไม่ยอมตกม้าตายด้วยเรื่องนี้หรอก

ส่วนอีกเหตุผลคือ อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานยูฟ่าเคยให้สัมภาษณ์ปีก่อนว่า ตอนนี้เริ่มมีระบบ 1 เจ้าของหลายสโมสรมากขึ้น ซึ่งทางยูฟ่าไม่สามารถไปค้านการลงทุนตรงนี้ได้ แต่อาจจะต้องหาทางตั้งกฎ หรือข้อตกลงสักอย่าง เพื่อให้ยังอยู่ในกรอบเหมือนเดิม
 

เทเลกราฟ สื่อดังอังกฤษเคยเอาสัมภาษณ์นั้นมาวิเคราะห์ว่า ยูฟ่ามันไม่น่าจะต่อต้านอะไร แถมยังเปิดกว้างมากขึ้นด้วยซ้ำ ซึ่งไม่ใช่แค่ซิตี้ที่มีระบบนี้ แต่ยังมีเชลซี ที่เจ้าของไปเทคโอเวอร์สตราส์บูร์กในฝรั่งเศส หรือจะเป็น เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่มาซื้อหุ้น 25% แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นเจ้าของนีซด้วย 

ท้ายที่สุด เมื่อวิเคราะห์จากหลายปัจจัย มีความเป็นไปได้สูงที่ซิตี้จะหาทางแก้ไขปัญหานี้ได้ 

หรือถ้าให้เทียบน้ำหนักความกังวล ผมคิดว่าซิตี้น่าจะห่วงเรื่องสู้คดีการเงินกับพรีเมียร์ลีกมากกว่าเยอะ

- Petr Boat -
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline