logo-heading

ควันหลงหลังเกมของทัพ ช้างศึก ที่แพ้ อุซเบกิสถาน ไป 2-1 พร้อมกระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก เอเชี่ยน คัพ มีอะไรให้น่าพูดถึงหลายๆ

โดยขอบสนามบอลไทยขอนำเสนอในแต่ละประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ ... 

อย่างแรก เซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ อิชิอิ จัดทัพแบบนี้ ??

เชื่อว่าหลายคนที่เห็นเซ็ตตัวจริงเกมกับ อุซเบกิสถาน วันนี้คงคิดเหมือนกัน "อิหยังว่ะ" แน่นอน เพราะผิดคาดของทุกสำนักและผิดคาดของแฟนบอลด้วย โดยเฉพาะแดนบนที่เราไม่มีทั้ง สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ บดินทร์ ผาลา พร้อมกับส่ง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ลงมาปั้นเกมแทน โดยเท่าที่มีข้อมูลการปรับครั้งนี้เพราะแทคติกล้วนๆ เนื่องจาก อิชิอิ มองว่า "ยิม" นั้นส่งบอลแดนบนได้เร็วและดีจึงถูกเลือกใช้ในเกมนี้ เช่นเดียวกับ "รุ่งรัฐ" ที่ถูกวางเอาไว้ปิดตัวจิ๊ดตัวริมเส้นของเขาเพราะถนัดเท้าซ้ายเหมือนกันน่าจะพอรู้ทางกัน 

 

แต่สุดท้าย "ครึ่งแรก" เราเอาไม่อยู่จริงๆ 

ด้วยแทคติกและผู้เล่นที่วางเอาไว้ให้นั้นค่อนข้างชัดเจนว่าทีมไทยของ อิชิอิ มาเพื่อเอาผลเสมอให้ได้ในครึ่งแรก จะบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็คงไม่ได้ขนาดนั้น เพราะเราเองต้องการบอลที่ชัวร์มากๆ เลยตั้งจัดทัพแบบนั้น แต่ที่สำคัญคือเราต้องยอมรับว่า อุซเบฯ กับเกมในครึ่งแรกพวกเขาทะยานมาจริงๆ เพราะบุกใส่เราเป็นว่าเล่น อาศัยการโจมตีด้วยความไวและความคล่องตัวของตัวผู้เล่นที่เหนือกว่าเรา จึงมาแบบสารพัดเกมรุก ซึ่งโชคดีที่เราไม่เสียประตูเร็วมาโดนยิงในช่วงผ่าน 30 นาทีไปแล้ว แต่อย่างน้อยๆ เราได้เห็นความกล้าในการวางตัวของ อิชิอิ ไม่มีคำว่าชุดเดิม ผู้เล่นเดิม แบบเดิมๆ อีกแล้วจริงๆ 

 

 

ครึ่งหลังอิชิอิเลือกเปลี่ยนตัว ทำเกมเปลี่ยน

ถ้าหลายคนบอก อิชิอิ เลือกปรับตัวผู้เล่นในครึ่งแรกจนทำให้ ทีมชาติไทย ดูแปลกๆ ไป และทำให้เราเสียประตูไปนั้น ก็คงต้องชื่นชมในการเปลี่ยนผู้เล่นในครึ่งเวลาของเขาด้วย เพราะการเลือกส่ง 2 พี่น้องอย่าง สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฐฏ์ เหมือนตา ลงมา ช่วยทำให้เกมรุกวูบวาบมากขึ้นเยอะเลย ก่อนที่ทั้งสองคนจะค่อยทำโมเมนต์ตั้มของทีมให้กลับมาอยู่ในการเล่นดีเหมือนก่อนหน้านี้ได้ รวมไปถึงประตูตีเสมอที่ได้จากตัวสำรองอย่าง สุภโชค สารชาติ ที่ยิงเข้าไปอย่างสวยงาม ซึ่งต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนช่วงพักครึ่งนี้ทำให้เกมของช้างศึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย 

 

สุดท้ายเราแพ้ เราตกรอบ แต่เราดูมีความหวัง 

ข้อนี้คงเป็นบทสรุปของฟุตบอล เอเชี่ยน คัพ 2023 สำหรับ ทีมชาติไทย ได้เป็นอย่างดี แม้เราจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย แน่นอนมันเป็นความหวังแรกที่เราตั้งใจจะไปให้ถึง และเราทำได้ แต่ที่มันทำให้มีความหวังแม้ในบอลเอเชียหนนี้ไม่ได้ไปไกลกว่าเดิมคือ "ผลงาน" ในสนามที่เราแสดงให้เห็นถึงพัฒนาที่ดีขึ้นจากการทำงานร่วมแค่ไม่กี่วีคของ มาซาทาดะ อิชิอิ กับ ทีมชาติไทย ในชุดนี้ ดังนั้นวันนี้เราจึงแค่ก้มหน้าให้กับความผิดหวัง แต่เราต้องกลับมาเงยหน้าขึ้นมาใหม่เพื่อไปต่อในทัวร์นาเมนต์คือคัดบอลโลกในอีก 1 เดือนเศษๆ ข้างหน้านี้ 

 

บอลพาดู 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline