เช็กขุมกำลัง “ปราสาทสายฟ้า” ดีพอแค่ไหน กลับมาลุ้นแชมป์ในเลก 2

ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก ในเลกที่ 2 ได้ปิดลงเรียบร้อย หลายทีมเสริมทัพนักเตะทั้งไทยและชาติได้อย่างน่าสนใจ แต่มีหนึ่งทีมที่เดินหน้าเสริมทัพเต็มสูบเพื่อประกาศว่าในเลกที่ 2 นี้ พร้อมกลับมาป้องกันแชมป์ทุกถ้วยในประเทศ นั่นคือ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด 8 สมัย เสริมทัพแบบจัดหนักจัดเต็มเลยก็ว่าได้ คว้าแข้งใหม่เข้ามาถึง 7 คน ทั้งไทยและต่างชาติ ส่วนของนักเตะไทยจะเน้นไปที่ดาวรุ่งที่ล้วนเป็นลูกครึ่งมากกว่า ส่วนนักเตะต่างชาติจัดการอิมพอร์ตตรงจากนอกประเทศทั้งหมด ไม่มีเชียงกงแน่นอน!

การเสริมทัพครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าต้องการกลับไปยืนในตำแหน่งที่ควรอยู่ พวกเขามีโอกาสแค่ไหน วันนี้ ทีมงานขอบสนามบอลไทย จะมาวิเคราะห์เห็นเป็นข้อๆ มาติดตามกัน 

1. อิมพอร์ตนักเตะต่างชาติคุณภาพ

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อิมพอร์ตแข้งต่างชาติคุณภาพหลายราย อาทิ 2 ดาวเตะชาวแซมบ้าอย่าง ลูคัส คริสปิม กองกลางตัวรุก จาก ฟอนตาเลซ่า ทีมในลีก ซีรี่ เอ บราซิล ที่ลงสนามช่วยทีมไปทั้งหมด 128 นัด ยิง 9 ประตู แอสซิสต์ 17 ครั้ง และ กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ ดาวยิงจากสโมสร ซิเอร่า สปอร์ติ้ง คลับ จาก ซีรี่ บี บราซิล เคยค้าแข้งกับทีมใหญ่อย่างเซา เปาโล และเคยคว้าแชมป์ระดับทวีป อย่าง โคปา ซูดาอเมริกาน่า กับทีม แอตเลติโก พาราเนนเซ่ มาแล้ว

ทั้งคู่จะมาแทนโควต้าของ รามิล เชย์ดาเยฟ และนิโคเลา คาร์โดโซ่ ที่โบกมืออำลาทีมไป รวมถึงโควต้าอาเซียนที่ได้ตัว เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส แบ็คซ้ายสัญชาติ ฟิลิปปินส์ จาก มิโตะ ฮอลลี่ฮ็อค ทีมในเจลีก 2 ญี่ปุ่น ะเข้ามาผนึกกำลังกับนักเตะต่างชาติที่อยู่ในทีมปัจจุบัน อย่าง ลอนซาน่า ดุมบูญ่า,โกรัน เคาซิซ, คิม มิน ฮยอคและ ดิออน คูลส์

2. นักเตะไทยใหม่ ผนึกกำลังร่วมกับหน้าเก่า

การเสริมทัพนักเตะไทยในตลาดเลคที่ 2 “ปราสาทสายฟ้า” เน้นไปที่การเสริมดาวรุ่ง เช่น สยาม แยปป์ ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 19 ปี จาก โปลิศ เทโร เอฟซี  รวมถึง 2 พี่น้องตระกูล ดูโชว์นี่ อย่าง ไมค์ก้า ดูโชว์นี่ เซ็นเตอร์แบ็ค วัย 20 ปี และโจนา ดูโชว์นี่ กลางตัวรุก วัย 18 ปี จาก ระยอง เอฟซี ใน ไทยลีก 2 และ เคนเน็ต ดูกัล ลูกครึ่งไทย-สกอตต์แลนด์ ดีกรีทีมชาติออสเตรเลีย

ซึ่งทั้ง 3 รายที่เสริมเข้ามาเพื่อเพิ่มความหลากหลายในการหมุนเวียนใช้งาน และผนึกกำลังร่วมกับนักเตะไทยชุดที่มีอยู่ปัจจุบัน 

3. ได้ทีมตามแผนที่ “ปาปาส” ต้องการ

หลังจากที่การเข้ามารับไม้ต่อจาก มาซาทาดะ อิชิอิ นั้น เรียกว่า อาเธอร์ ปาปาส กุนซือชาวออสซี่ ยังไม่ได้ใช้นักเตะตามฉบับแผนของตัวเอง โดยขุมกำลังชุดก่อนส่วนใหญ่เป็นชุดที่ อิชิอิ เซ็ตเอาไว้ แต่ในตลาดเลกที่ 2 นี้ อาเธอร์ ปาปาส ได้เสริมนักเตะตามที่ต้องการเข้ามาหลายราย ทั้งนักเตะต่างชาติ และนักเตะไทย และเมื่อได้นักเตะตามที่ต้องการทำให้เขามีขุมกำลังขนาดใหญ่ขึ้นให้เลือกใช้มากขึ้น ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ “ปาปาส” อีกครั้งว่าเขาเหมาะสมกับที่เป็นกุนซือ ปราสาทสายฟ้า ต่อไปหรือไม่

น่าสนใจว่าในเลกที่ 2 นี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะกลับมาประกาศศักดาพลิกแซงคว้าแชมป์ไทยลีกได้อีกครั้งหรือไม่ หลังจากที่เคยทำได้ด้วยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ฤดูกาลติดต่อกันมาแล้ว และ ในฤดูกาลนี้ ลุงเนวิน ได้จัดหนักเสริมทัพนักเตะคุณภาพมามากมาย พวกเขาจะสามารถทำได้อีกครั้งเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันหรือไม่ ต้องให้ผลงานในสนามเป็นคำตอบครับ