logo-heading

นับถอยหลังอีกเพียง 1 สัปดาห์ ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ก็จะกลับมาทำการแข่งขันกันต่อในเลกสอง หลังจากหยุดพักไปร่วมๆ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเลกสองนี้ นอกจากฟุตบอลลีกของไทยจะกลับมาลงสนามแล้ว ยังจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายทีมบริหารของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ด้วย

ซึ่งในช่วงกลางสัปดาห์หน้า วันที่ 8 ก.พ.นี้ ก็จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นั่นก็หมายความว่าเราจะได้นายกฯ บอลไทยคนใหม่ก่อนที่ไทยลีก เลก 2 จะเริ่มขึ้น แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน

เรามาดูความพร้อมของบรรดาสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มทีมนำ กลุ่มทีมลุ้นแชมป์ กับการเปลี่ยนแปลงในเลกที่สอง ว่าพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และเป้าหมายสำหรับครึ่งฤดูกาลที่เหลือนั้นเป็นอย่างไร

ก่อนหน้านี้เราพูดถึงกันไปแล้ว 2 ทีม นั่นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถือเป็นทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงและเสริมทัพเยอะที่สุดในเลกสอง ต่อด้วย บีจี ปทุมฯ กับการได้กุนซือใหม่หน้าเก่าอย่าง "มาโกโตะ เทกุระโมริ" กลับมาคุมทีมรอบสอง รวมทั้งการเสริมทัพก็ไม่ธรรมดา ได้ กฤษดา กาแมน ที่ถือเป็นบิ๊กดีลระดับทีมชาติไทยเข้ามา เช่นเดียวกับตัวต่างชาติก็น่าสนใจ

แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงทีมจ่าฝูงไทยลีกปัจจุบัน และเป็นสโมสรที่ผลงานดีที่สุดใสนเลกแรก บวกกับเป็นทีมเดียวของไทยที่ยังอยู่ในเส้นทางของเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ทีมที่ว่านั้นก็คือ "ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด"

พูดถึงทีมบียู น่าเสียดายที่พวกเขาดันไปพลาดท่าพ่ายบุรีรัมย์ ในเกมตกค้างช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เสียบริสุทธิ์ในซีซั่นนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีโอกาสจะเป็นจ่าฝูงแบบไร้พ่ายในเลกแรก หลังลงเตะมา 14 เกมพวกเขาไม่พบกับความปราชัยเลย ก่อนมาเป็นทีมเซราะกราว คู่แข่งแย่งแชมป์ของพวกเขาเองที่ยัดเยียดความปราชัยให้ทีมแข้งเทพไปได้

มาในเลกที่สองนี้ ทีม บียู ไม่ได้ขยับอะไรเยอะมากนัก โดยได้นักเตะใหม่มา 3 ราย โดยสองรายแรกคือผู้เล่นในแนวรุก คนแรกคือ อดิศักดิ์ ไกรษร อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ที่กลับมาจากลีกมาเลย์ ซึ่งก็มาแทนที่ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ที่หมดสัญญาและย้ายไปอยู่ บีจี ในเลกสอง

อีกคนคือ วานเดอร์ หลุยส์ ตัวรุกแซมบ้าที่กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง หลังเลกแรกได้รับบาดเจ็บและกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด ก่อนจะกลับมาฟิตสมบูรณ์ และกลับมาร่วมถิ่น ทรู สเตเดี้ยมอีกครั้ง

แต่การเสริมทัพที่น่าสนใจและถือเป็นบิ๊กดีลที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดในเลกสองนี้ ก็ต้องยกให้การไปกระชากตัว "จารย์เตอร์" หรือ "เทพเตอร์" วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ห้องเครื่องเบอร์หนึ่งทีมชาติไทยในเวลานี้มาจากเมืองทอง ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวพัวพันกับบิ๊กทีมไทยลีกมาโดยตลอด และสุดท้ายก็มาลงเอยกับทีมเมืองหลวงที่เล่นอยู่ปทุมธานีในที่สุด

การมาของ วีระเทพ ถือว่าน่าสนใจมากๆ นี่คือการมาเติมเต็มให้แผงมิดฟิลด์ของบียู มีความแข็งแกร่งพร้อมท้าชิงกับบิ๊กทีมต่างๆ ได้อย่างเต็มตัว ซึ่งจริงๆ แล้วในเลกแรก บียู ก็เป็นทีมที่ขุมกำลังดีอยู่แล้ว กองกลางก็มีตัวทีมชาติอย่าง ปกเกล้า, ฐิติพันธ์ อยู่ในทีม รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ ทั้ง 11 คน ถือว่าค่อนข้างลงตัวมากๆ

แต่ก่อนจบเลกแรกพวกเขากลับต้องมาเสีย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ไป ทำให้แดนกลางก็ดร็อปลงไป แม้จะยังมี ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, วิศรุต อิ่มอุระ, บาสเซล จราดี้ รวมทั้ง รัชนาท อรัญญไพโรจน์ อีกคน แต่ก็ยังเหมือนพวกเขายังต้องการนักเตะที่จะเข้ามาเติมเต็ม และทำให้สมดุลในแดนกลางมันดูแข็งแกร่งมากกว่านี้ และคนคนนั้นก็คือ "วีระเทพ ป้อมพันธุ์" นั่นเอง

ถ้าให้เดาตำแหน่งการเล่นของ วีระเทพ กับทีมบียู ในเลกสอง ก็น่าจะมาแทนที่ของ ฐิติพันธ์ แต่อาจจะไม่ได้เล่นในแบบเดียวกัน โดยแผงกลาง 3 คนก็น่าจะเป็น ปกเกล้า, ทศวรรษ และก็ วีระเทพ โดยแนวรุกก็จะมี รุ่งรัฐ, มะห์มูด และ วิลเลน โมต้า เซ็ตเดมจากเลกแรก โดยมี วานเดอร์ หลุยส์ เป็นตัวสอดแทรก แต่ด้วยความที่เจ็บไปนานก็น่าจะเป็นสำรองไปก่อน

อย่างที่บอก บียู ไม่ได้เสริมทัพอะไรมาก และจริงๆ ในเลกสองการเสริมเยอะก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะนักเตะต้องมาปรับจูนกันใหม่ ซึ่งบียู เป็นทีมที่มีดครงสร้างและแผนการเล่น มี 11 ตัวจริงที่ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว 

ดังนั้นการเสริมนักเตะในตำแหน่งที่จำเป็น และยิ่งได้ตัวโหดอย่าง วีระเทพ มาด้วยแล้ว บอกเลยว่าทุกอย่างจบ ที่เหลือก็แค่รอดูว่า "จารย์เตอร์" จะปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ได้เร็วแค่ไหน

และอีกอย่างสำหรับบทพิสูจน์ของทีมแข้งเทพก็คือการยืนระยะ การรักษามาตรฐานของตัวเองไปจนจบฤดูกาลจะทำได้ดีแค่ไหน 

เพราะเมื่อไปถามแฟนบียู หรือแฟนบอลทีมอื่นๆ ก็มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทรู แบงค็อก ก็ฟอร์มดีแบบนี้ทุกปีในเลกแรก แต่สุดท้ายก็ตกมาตายตอนท้ายฤดูกาลทุกที

ยิ่งปีนี้พวกเขามีโปรแกรมลงเตะในถ้วยเอเชียด้วย การวางแผนโรเตชั่นนักเตะจึงสำคัญ ทั้งหมดนี้ก็เป้นสิ่งที่ทีมบริหารของทรู แบงค็อก ตลอดจนทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และนักเตะ จะต้องพิสูจน์ตัวเองว่า พวกเขาดีพอจะเป็นแชมป์ไทยลีกหรือไม่

ตอนนี้ผ้านไปแล้วครึ่งฤดูกาล พวกเขาจบด้วยอันดับจ่าฝูงไทยลีก พ่วงด้วยแชมป์กลุ่มเอซีแอล ถือเป็นฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นมากๆ กับทีมทรูแบงค็อก

สุดท้ายก็ขอเอาใจช่วย และขอให้ทีมแข้งเทพ ก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ไทยลีกครั้งแรกให้ได้สักที หลังจากเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้งแล้ว

ไว้มารอดูกันครับว่า สุดท้ายแล้วในซีซั่นนี้ "ทรู แบงค็อก" จะไปถึงเป้าหมายที่หวังไว้หรือไม่

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline