logo-heading

สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่สำคัญของวงการฟุตบอลไทย ถือเป็นสัปดาห์แห่งการเปลี่ยนแปลงฟ้าใหม่ของฟุตบอลไทย กับการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.พ.นี้ 

การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งที่น่าสนใจครั้งนึงในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ที่ผ่านๆ มา เพราะมีผู้ลงชิงชัยถึง 5 คนด้วยกัน แถมยังมีผู้สมัครที่เป็นผู้หญิงเป็นครั้งแรก มีผู้สมัครที่เป็นหญิงข้ามเพศเป็นครั้งแรก

แต่กระนั้นถ้าพูดถึงกระแสความสนใจของแฟนบอลไทย ก็ดูจะไม่ได้คึกคักอย่างที่น่าจะเป็น อาจจะเนื่องด้วยแฟนบอลส่วนใหญ่ หรือคนทั้งประเทศ น่าจะรู้ผลการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วว่าใครจะได้เป็นนากยกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนต่อไป

เอาเป็นว่าพูดแบบไม่ต้องมาเหนียม ไม่ต้องกั๊ก ดูทรงแล้วก็น่าจะเป็น “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ชนะการเลือกตั้ง และได้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนที่ 18 ในประวัติศาสตร์ แถมยังจะเป็นนายกสมาคมฯ ผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ด้วย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เดี่ยวรอให้การเลือกตั้งอย่างเป็นทางการผ่านพ้นไปด้วยดีก่อนดีกว่าในวันที่ 8 ก.พ.นี้ ซึ่งที่พูดไปมันก็เป็นแค่การคาดการณ์ ที่ทุกๆ คน ก็คิดตรงกันว่ามันจะออกมาเป็นเช่นนั้น 

แต่ที่จะมาพูดกันในวันนี้ก็คือ ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนต่อไป มีเรื่องเร่งด่วน 6 ข้อ ที่ว่าที่นายกสมาคมฯ จะต้องเข้ามาเร่งแก้ไข และดำเนินการหลังได้รับตำแหน่ง ซึ่งทั้ง 6 ข้อนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1.การบริหารจัดการทีมชาติไทย

เรื่องแรกก็คือการบริหาร “ทีมชาติไทย” ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการบริหารทีมชาตินั้นมันผิดเพี้ยนไปจากสิ่งที่ควรจะเป็น นั่นคือการบริหารจัดการโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แต่ที่ผ่านมากลับยกหน้าที่การจัดการทั้งหมดไปให้ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีม เป็นคนมีอำนาจหน้าที่เบ็ดเสร็จในการตัดสินใจทั้งหมด 

ซึ่งเรื่องนี้นายกสมาคมฯ คนใหม่ จะต้องนำทีมชาติไทย กลับมาดูแลด้วยตัวเอง โดยไม่เกี่ยวข้องกับสโมสร ซึ่งสโมสรอาจจะมีส่วนในการเข้ามาช่วยในเรื่องของสถานที่เก็บตัว สนามฝึกซ้อม หรือทีมงานสตาฟฟ์ อะไรต่างๆ ก็ว่าไป แต่ต้องไม่มีหน้าที่ในการตัดสินใจเรื่องการบริหารจัดการต่างๆ

ดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไรในข้อนี้เพราะว่าที่นายกสมาคมฯ ก็เป็นอดีตผู้จัดการทีมชาติไทยอยู่แล้ว (ถ้าคนที่คาดได้เข้ามาเป็นจริงๆ) ก็อยากให้เอาทีมชาติมาบริหารจัดการโดยสมาคมฯ เอง และเรื่องเร่งด่วนก็คือรีบต่อสัญญา “มาซาทาดะ อิชิอิ” ออกไป หลังจากทำการเบื้องต้น 3 เดือนในวาระของนายกสมาคมฯ คนเก่า

2.ปรับโครงสร้างทีมชาติทั้งระบบ

เรื่องต่อมาก็ยังเกี่ยวข้องกับทีมชาติไทย แต่จะไม่ใช่เฉพาะทีมชาติไทยชุดใหญ่เท่านั้น แต่นายกสมาคมฯ ต้องมาปรับหรือแก้ไขโครงสร้างของทีมชาติไทยทั้งระบบ ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงชุดใหญ่ รวมทั้งฟุตบอลหญิง ทีมฟุตซอล ฟุตบอลชายหาดต่างๆ

สิ่งแรกเลยคือการแต่งตั้งประธานพัฒนาเทคนิคทีมชาติไทย หรือประธานเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ขึ้นมา เพื่อเป็นคนวางแนวทางและโครงสร้างของทีมชาติไทย ให้ทุกทีม ทุกรุ่น สร้างทีมด้วยโครงสร้างเดียวกัน ต่อยอดไปสู่ทีมชุดใหญ่ ไม่ใช่สะเปะสะปะ ทำชุดนั้น ชุดนี้ มั่วไปหมด โดยทุกชุดไม่ได้อยู่ในโครงสร้างเดียวกัน ซึ่งสภากรรมการชุดใหม่ก็น่าจะมีคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ โดยเฉพาะอดีตศูนย์หน้าระดับตำนานทีมชาติไทย ผมว่าเหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งประธานเทคนิค

3.สร้างมูลค่าฟุตบอลไทยลีกใหม่

เรื่องต่อมาก็เร่งด่วนไม่แพ้กัน นั่นคือเรื่องมูลค่าของฟุตบอลไทยลีก ทั้ง T1-T3 รวมทั้งอเมเจอร์ลีกด้วย ที่ฤดูกาลนี้แทบไม่มีมูลค่า เพราะไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์ไปถ่ายทอดสด เงินสนับสนุนของสโมสรก็ถูกตัดถูกลดตามสัดส่วนไปด้วย ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่มากๆ 

สิ่งที่นายกสมาคมฯ คนใหม่จะต้องทำก็คือต้องทวงคืนมูลค่าของฟุตบอลไทยลีกกลับมาให้ได้ในฤดูกาลหน้า หรือถ้าทำได้เลกสองเลยก็จะดีมาก เพื่อให้สโมสรมีเงินเข้ามาบริหารทีมให้อยู่รอด แล้วฤดูกาลหน้าก็มาว่ากันใหม่

เรื่องของการหาเงิน หรือเพิ่มมูลค่าไทยลีกให้กลับมาก็เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง และคิดว่านายกสมาคมฯ คนใหม่ไม่น่ามีปัญหาในเรื่องการหานายทุนเข้ามาสนับสนุนไทยลีกของเราในซีซั่นหน้า

4.แต่งตั้งประธานไทยลีก

เรื่องของฟุตบอลลีกสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนเลยก็คือการแต่งตั้งประธานบริษัทไทยลีก เข้ามาบริหารงาน ไม่ใช่ไปเอา ส.ส. หรือเอาใครมารักษาการตำแหน่งนี้ ต้องไปจ้างคนเก่งๆ มาบริหารเพิ่มมูลค่าของฟุตบอลไทยลีกให้กลับมาให้ได้ ฟุตบอลไทยจะแข็งแกร่ง ลีกไทยต้องแข็งแกร่งก่อน แต่ถ้าไทยลีกเป็นแบบฤดูกาลนี้ รับรองไม่กี่ปีเตรียมล้มละลายได้เลย

หวังว่าหลังจากนี้เราจะได้เห็นคนเก่ง คนดี มีความสามารถ เข้ามาบริหารบริษัทไทยลีก ซึ่งก็จะต้องมีการแยกตัวออกจากสมาคมฯ ให้ชัดเจนเพื่อความโปร่งใส และการบริหารงานที่คล่องตัวกว่าที่ผ่านมา

5.หาเงินเข้าสมาคมฯ

เรื่องต่อมาคือการหาสปอนเซอร์ หรือหาเงินเข้ามาที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หลังจากช่วง 2-3 ปีหลัง สมาคมฯ นั้นขาดสภาพคล่อง และส่งผลต่อการบริหารงานทั้งระบบ จนลามมาถึงทีมชาติ และฟุตบอลลีก 

ซึ่งนายกสมาคมฯ คนใหม่ ก็ต้องประสานงาน และใช้คอนเนคชั่นที่มีเพื่อหานายทุนเข้ามาทำให้สมาคมฯ กลับมามีรายรับเป็นสีเขียวอีกครั้ง หลังจากเป็นตัวแดงมานาน ถือเป็นงานที่ท้าทาย แต่เชื่อมั่นว่าเรื่องนี้ไม่ยากเกิดความสามรถนายกสมาคมฯ คนใหม่แน่นอน ถ้าสมาคมฯ มีเงิน จะทำอะไรมันก็ง่ายไปหมด แต่ถ้าไม่มีมันก็บ่จี๊เหมือนที่เห็น

6.รับฟังข้อเสนอแนะจากแฟนบอล

และสิ่งสุดท้ายก็คือการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากแฟนบอล ซึ่งอาจจะต้องมีช่องทางในการให้แฟนบอลเข้ามาแสดงความคิดเห็น หรือเสนอแนะเรื่องที่มีประโยชน์กับฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย เพื่อให้ทีมชาติไทยได้เดินหน้าต่อไป 

หรืออาจจะมีการจัดเวทีรับฟัง เสวนาเรื่องฟุตบอลไทย ให้แฟนบอล ผู้สื่อข่าว หรือใครที่มีใจรักฟุตบอลไทย ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนแนวคิดกัน อาจจะเดือนละครั้ง 2 เดือนครั้ง หรืออาจจะ 6 เดือนครั้ง ก็ยังดี

แต่ถ้าง่ายที่สุดก็คือการเปิดช่องทางอาจจะเป็นอีเมลล์ ช่องทางโซเชี่ยลต่างๆ แต่ประเด็นก็คือต้องเปิดรับจริงๆ และเข้าไปฟังความเห็นแฟนบอลจริงๆ และนำมาปรับใช้ ซึ่งถ้าทำได้บอกเลยว่าสุดยอดมาก

นี่ก็เป็นทั้งหมดสำหรับข้อเสนอแนะทั้ง 6 ข้อที่อยากฝากไปถึงนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนใหม่ ไม่ว่าใครจะเข้ามา ท่านต้องทำสิ่งนี้ให้ได้ เพื่อให้ฟุตบอลไทยของเรากลับมาเป็นที่นิยม และเป็นความสุขของแฟนบอลไทยต่อไป

#ชิชาริเต่า
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline