logo-heading

อธิบายความหมายของใบน้ำเงินก่อน มันคือการลงโทษที่หนักกว่าใบเหลือง แต่ไม่แรงเท่าใบแดง ซึ่งใครที่โดนใบน้ำเงินจะโดนไล่ไปนั่งข้างสนาม 10 นาที เพื่อเป็นการสงบสติอารมณ์ 

นอกจากนี้ หากโดนใบน้ำเงิน 2 ใบใน 1 เกม ก็จะนับเป็นใบแดงทันที หรือถ้าโดนใบน้ำเงินไปก่อน แล้วจากนั้นโดนใบเหลืองเพิ่ม ก็จะเป็นใบแดงเช่นกัน 

คนที่จะโดนใบนี้ได้ ส่วนใหญ่จะมาจาก 2 เหตุผล อย่างแรกคือไม่พอใจคำตัดสินกรรมการ พยายามประท้วงแรงเกินเหตุ และอีกแบบคือการทำฟาวล์เชิงแท็กติกที่รุนแรง 

สื่อดังเทเลกราฟบอกว่า หน่วยงาน IFAB ที่คอยดูแลกฎฟุตบอล พยายามยกตัวอย่างตอนที่ จอร์โจ้ คิเอลลี่ ทำฟาวล์ใส่ บูกาโย่ ซาก้า ในยูโร 2020 ซึ่งเป็นการพยายามดึงเสื้อแบบน่าเกลียด 

จังหวะนั้นถ้าไม่ตัดฟาวล์ ซาก้าน่าจะหลุดไปถึงพื้นที่สุดท้ายแน่ แต่คิเอลลินี่ก็ดันไม่ใช่กองหลังตัวสุดท้าย เลยแจกใบแดงลำบาก ซึ่ง IFAB มองว่ามันไม่แดงก็จริง แต่พอโดนแค่ใบเหลือง ก็ถือเป็นบทลงโทษที่เบาเกินไป

คำถามต่อมาก็คือ ใบน้ำเงินจะเกิดขึ้นจริงไหมในวงการฟุตบอล? อันที่จริงบางลีกเริ่มมีทดลองใช้ไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้บรรจุเป็นกฎทางการของฟีฟ่า เพียงแต่หนนี้กระแสแรงเพราะพยายามเอามาทดลองใช้ในวงกว้าง พวกเขาอยากให้มีโอกาสนำมาปรับใช้จริงในอนาคต

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่าจะเอามาใช้ในลีกใหญ่ทันที ฟีฟ่าอยากให้เริ่มในลีกระดับล่าง, ฟุตบอลหญิง หรือฟุตบอลถ้วยไปก่อน แล้วยังไม่เริ่มใช้ฤดูกาลนี้ด้วย คาดว่าต้องรีวิวกันพักใหญ่ถึงจะสรุปได้ว่าควรบังคับใช้หรือไม่?

จริงอยู่ว่ายังไม่ได้เริ่มทางการ แต่กระแสต่อต้านมาเพียบ เริ่มจากประธานยูฟ่า อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน บอกว่าเป็นการทำลายวงการฟุตบอล แล้วจะไม่เอามาใช้ในยูโรช่วงซัมเมอร์นี้ รวมถึง UCL ในฤดูกาลหน้าด้วย

ความเห็นในโลกออกไลน์ก็เชิงลบเต็มไปหมด บางคนบอกว่า "กีฬากำลังจะสนุกน้อยลงเพราะกฎบ้าบอพวกนี้" บางคนถึงขั้นบอกว่า "ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ทุกคนในวงการควรต้องประท้วง สิ่งนี้จะทำให้ความสวยงามหายไป" แต่ก็มีบ้างที่เอาฮา เช่น เมซุต โอซิล โพสต์บอกว่าแบบนี้ แอต.มาดริด คงเหลือนักเตะแค่ 6 คนแน่ (ประท้วงเยอะ ฟาวล์แท็กติกเยอะ น่าจะโดนง่าย)

ในมุมผม ข้อดีของใบน้ำเงิน มันอาจทำให้เหตุการณ์ที่คนไทยเรียกว่า 'เหลืองแก่ๆ' ถูกคลี่คลายมากขึ้น ในเมื่อก้ำกึ่งระหว่างเหลืองกับแดง งั้นก็เอาเป็นใบน้ำเงินไปก่อน หรืออย่างเคสซาก้ากับคิเอลลินี่ก็พอเห็นภาพนะครับ แต่บอกตามตรงว่า นี่คือข้อดีเดียวที่ผมคิดออก เพราะส่วนใหญ่จะมีเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด

เช่น พอมันมีความซับซ้อนถึง 3 ใบ ดุลยพินิจของกรรมการก็จะยากขึ้น เอาแค่ทุกวันนี้ยังมีการแจกเหลืองแปลกๆ และแดงแปลกๆ เต็มไปหมด ดังนั้น ถ้าในอนาคตกรรมการบางคนให้ใบน้ำเงิน แต่อีกคนฟาวล์แบบเดียวกันแล้วแจกแดงเฉย เราอาจเห็นประเด็นดราม่าเรื่อง 'มาตรฐาน' เกิดขึ้นทุกสัปดาห์

นอกจากนี้ ตรงประเด็นปกป้องกรรมการนี่ใหญ่สุด สมมุตินักเตะไม่พอใจการตัดสินที่เป่าเป็นจุดโทษ ซึ่งนักเตะมั่นใจมากๆ ว่ายังไงก็ไม่ฟาวล์ แต่พยายามประท้วงจนโดนใบน้ำเงิน นั่นหมายความนักเตะคนนั้นจะอดช่วยทีม 10 นาที ทั้งที่ความจริงกรรมการอาจตัดสินพลาดก็ได้ 

เท่านั้นไม่พอ ทุกวันนี้เวลานักเตะไม่พอใจกรรมการ เราก็เห็นบทลงโทษเป็นใบเหลืองบ่อยอยู่แล้ว หรือบางทีถ้าล่วงเกินเช่นพยายามแตะตัว หรือทำร้ายร่างกาย อันนี้ก็มีแจกใบแดง ซึ่งในเมื่อการกระทำแบบนี้มันมีบทลงโทษอยู่แล้ว ทำไมต้องทำอะไรให้มันซับซ้อนมากขึ้น?

อีกหนึ่งจุดที่ไม่พูดไม่ได้ คือถ้าในอนาคตเริ่มมีในพรีเมียร์ลีกเมื่อไหร่? รับรองว่าดราม่าหนักกว่าเก่าแน่ เพราะใบน้ำเงินเนี่ย มันจะเป็นอำนาจในมือที่ผู้ตัดสินใช้ปกป้องตัวเอง

ทุกวันนี้กฎของพรีเมียร์ก็ปกป้องกรรมการสุดฤทธิ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะกฎแจกใบเหลืองให้คนที่ขอใบเหลือง เป็นอะไรที่ไร้สาระ 

บางจังหวะคนทำฟาวล์หนักมาก แต่กรรมการไม่แจกใบอะไรเลย ในขณะที่คนประท้วงเพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่กลับโดนใบเหลืองซะงั้น

หากมีในพรีเมียร์ลีก คราวนี้เวลาประท้วงมันจะไม่ใช่แค่ใบเหลือง แต่จะกลายเป็นใบน้ำเงินแทน ซึ่งต้องไปพัก 10 นาที แล้วถ้าเกิดมีคนประท้วงหลายคน แบบนี้จะไม่กลายเป็นนักเตะไปนั่งกองข้างสนามเพียบเลยหรือ?

เวลากรรมการทำพลาด แค่ปรับเล็กน้อยแล้วก็ขอโทษ แต่เวลานักเตะทำพลาด โดนแบนหลายนัดบ้าง ปรับหนักบ้าง ซึ่งผมเข้าใจว่า บางครั้งนักเตะก็มีล่วงเกินกรรมการเกินกว่าเหตุเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่ทุกครั้ง กฎทุกวันนี้มันเอียงทางกรรมการมากเกินไป

ได้แต่หวังว่า เมื่อผ่านการรีวิวใบน้ำเงินในหลายทัวร์นาเมนต์ ซึ่งคงใช้เวลาหลักปี คงจะเห็นภาพชัดขึ้นว่าปัญหาของใบน้ำเงินมีอะไรบ้าง? เคสเครื่องหมายคลุมเครือเยอะไปหน่อย มันไม่เหมือนตอนที่มีแนวคิดว่าจะใช้โกลไลน์เช็กบอลข้ามเส้นหรือไม่? แล้วก็ไม่เหมือนตอนที่ใช้ VAR เพื่อเช็กความถูกต้องของการแข่งขัน 

2 เคสนั้นมันพัฒนาฟุตบอลได้จริง มันเป็นอะไรที่เห็นคาตา หลักฐานชัด แต่เคสที่เพิ่มความซับซ้อน และเต็มไปด้วยดราม่าแบบใบน้ำเงิน มันคงไม่เวิร์คเท่าไหร่

ถ้าถามผม ในเมื่อมี VAR อยู่แล้ว เราก็ควรใช้เทคโนโลยีมาตัดสินไปเลยว่าจังหวะไหนควรแดง? จังหวะไหนควรเหลือง? มันไม่ต้องเติมความสับสนให้กรรมการเสมอไป 

ถ้าจะมีการเพิ่มใบเข้ามา ผมเชียร์ให้มีใบขอชาลเลนจ์มากกว่า เพราะบางจังหวะกรรมการก็ตัดสินพลาด หรือบางจังหวะควรจะเช็ก VAR เสียหน่อย ก็ปล่อยผ่านไปซะงั้น ผมคิดว่าแต่ละทีมควรมีสิทธิ์ได้ค้านคำตัดสินบ้าง อาจจะให้โควตาแมตช์ละ 1 ครั้งก็ได้ เพื่อไม่ให้กินเวลานานเกินไป

ดูตัวอย่างแบบเทนนิสหรือวอลเล่ย์บอลแล้วจะเห็นชัด อันไหนคาใจก็ขอชาลเลนจ์ไปเลย ทุกอย่างมันจะเคลียร์ ต่อให้เสียเวลาเพิ่มนิดหน่อย แต่ถ้ามันลดปัญหาได้ ผมเชื่อว่าคนยอม

สิ่งที่วงการฟุตบอลควรทำ คือเติมกฎที่ทำให้แฟร์มากขึ้น และลดดราม่าในวงกว้าง ไม่ใช่คิดกฎใหม่ที่อาจเต็มไปด้วยปัญหาแบบนี้

- Petr Boat -  

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline