logo-heading

หมดยุคเฟอร์กี้ ต้องยอมรับว่ายูไนเต็ดไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งคือผู้บริหารไม่ได้เรื่องด้วย เราบ่นกันตั้งแต่สมัย เอ็ด วู้ดเวิร์ด ที่เด่นเรื่องเงินแต่ความรู้ฟุตบอลไม่แน่น หรือจะเป็นตอนตั้ง จอห์น เมอร์เท่อห์ เป็นผอ.กีฬาคนแรกเมื่อปี 2021 ก็โดนสื่อแฉว่า เอาแต่ทำตามคำสั่งคนอื่น แต่สร้างวิสัยทัศน์ให้สโมสรไม่เป็น 

ตอนแรกผมคิดว่า เซอร์จิมจะเอาคนใกล้ตัวมาเป็นผอ.กีฬาแทนเมอร์เท่อห์ หรือไม่ก็เอาคนที่ว่างงานมาทำไปก่อน แต่พอเจอข่าวสนใจฉีกสัญญา แดน แอชเวิร์ธ ของนิวคาสเซิ่ล มันแสดงให้เห็นว่าความกระหายเซอร์จิมแรงกล้ามาก

นี่คือตัวท็อปของวงการฟุตบอลอังกฤษ เขาเริ่มสร้างชื่อตั้งแต่เป็นผอ.เทคนิคของเวสต์บรอมวิช เมื่อปี 2007 โดยในยุคของเขา ช่วยพาทีมเลื่อนชั้นได้ 2 ครั้ง จนกระทั่งได้รับความสนใจจาก FA ให้ไปวางโครงสร้างทีมชาติอังกฤษในปี 2012

แอชเวิร์ธคือคนสำคัญของโปรเจค 'England DNA' ซึ่งกำหนดให้ใช้ทั้งทีมชาย, ทีมหญิง และเยาวชน โดยคิดองค์ประกอบสำคัญขึ้นมา 5 ข้อ ได้แก่ เราคือใคร? เราต้องเล่นยังไง? อนาคตของนักเตะอังกฤษเป็นแบบไหน? โค้ชของเราเป็นยังไง? และวิธีการสนับสนุนต้องทำอย่างไร?

สิ่งสำคัญคือวิธีการเล่น เขากำหนดเลยว่าอังกฤษหลังปี 2012 ต้องเลิกแนวคิดเอะอะสาดบอลยาว แล้วเปลี่ยนมาเน้นครองบอลบ้าง ส่วนตอนไม่ได้ครองบอล จะไม่ใช่แค่เน้นเพรสซิ่ง แต่ต้องรู้จักการดีเลย์จังหวะของคู่ต่อสู้ด้วย เรียกว่าฟิกซ์เรื่องสไตล์การเล่น แต่ไม่ได้ฟิกซ์เรื่องฟอร์เมชั่น อันนั้นขึ้นอยู่กับโค้ชว่าจะวางแผนแบบไหน?

นอกจากนี้ เขายังมีไอเดียด้วยว่า ช่วงก่อนปี 2012 อังกฤษพึ่งพานักเตะตัวเก๋ามากเกินไป ถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ่านเข้ายุคใหม่บ้าง ซึ่งเขาทำงานตรงนี้กับ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้เป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ปั้นอังกฤษจบอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2018 ด้วย 

อังกฤษอาจไปไม่ถึงแชมป์ แต่โครงสร้างชัดเจน ซึ่งขนาดเขาออกจาก FA ไปเมื่อปี 2019 แต่อังกฤษก็ยังผลิตดาวรุ่งชั้นดีได้แบบต่อเนื่องจนถึงตอนนี้

แอชเวิร์ธไปรับงานที่ไบรท์ตัน 3 ปีในตำแหน่งผอ.กีฬา เขาอธิบายแนวทางการทำงานว่า ตัวเองเป็นเหมือนศูนย์กลางวงล้อ ที่เชื่อมต่อกับลูกฟุตบอล 7 ลูก 

แบ่งเป็น 1.ผู้จัดการทีมชายชุดใหญ่ (สมัยนั้นคือ แกรม พอตเตอร์), 2.กุนซือทีมหญิงชุดใหญ่, 3.หัวหน้าฝ่ายสรรหานักเตะ (พอล วินสแตนลี่ย์ ที่ตอนนี้เป็นผอ.กีฬาเชลซี), 4.ผู้จัดการดูแลนักเตะยืมตัว, 5.ผู้จัดการชุดเยาวน, 6.ฝ่ายแพทย์กับวิทยาศาสตร์การกีฬา และ 7.ฝ่ายจิตวิทยา

เขาคือคนรับผิดชอบทั้งหมด คอยวางโครงสร้างว่าทีมควรดำเนินไปทิศทางไหน? และมีส่วนสำคัญตอนทีมคว้า มาร์ค คูคูเรญ่า, เลอันโดร ทรอสซาร์, มอยเซส ไกเซโด้ หรือคาโอรุ มิโตมะ ซึ่งเซ็นมาไม่แพงทั้งนั้น แต่มูลค่าตอนนี้พุ่งกระโดด ส่วนแม็คอัลลิสเตอร์น่าจะไม่ทัน เพราะทีมเซ็นมาตอนมกราคม 2019 ส่วนแอชเวิร์ธเริ่มงานไบรท์ตันช่วงมีนา-มิถุนายน 2019

พอผลงานโคตรปัง นิวคาสเซิ่ลเลยดึงตัวไปเป็นผอ.กีฬาเมื่อปี 2022 คราวนี้นักเตะที่เซ็นจะไม่ได้ถูกแบบไบรท์ตันแล้ว เพราะขนาดทีมใหญ่ขึ้น แต่ก็ถือว่าใช้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น อเล็กซานเดอร์ อีซัค, แอนโธนี่ กอร์ดอน, สเวน บ็อตมัน, ทิโน่ ลิฟราเมนโต้ ส่วน ฮาร์วี่ บาร์นส์ ยังตอบยากเพราะเจ็บบ่อย ขณะที่โตนาลี่อันนี้ซวย ไม่รู้ว่ามีเรื่องพนันติดตัว 

แอชเวิร์ธทำผลงานกับสาลิกาได้ดี ปีก่อนทีมจบท็อป 4 ได้สำเร็จ และพยายามเน้นให้สโมสรค่อยๆ สร้างตัว ไม่รีบใช้เงินเวอร์ไป เพราะเสี่ยงต่อการโดนกฎการเงินพรีเมียร์ลีก ซึ่งจัดว่าเป็นผู้บริหารที่ทำงานได้ครบเครื่อง หากยูไนเต็ดไปเอาตัวมาได้ ต่อให้ต้องจ่ายเกิน 10 ล้านปอนด์ผมก็คิดว่าคุ้ม

ขนาดจ่ายเงินแพงๆ กับนักเตะที่ใช้งานไม่ได้ ยังทำมาตั้งเยอะ แล้วทำไมจะลงทุนแบบฉลาดเพื่อซื้อแม่ทัพมาวางโครงสร้างไม่ได้? 

คราวนี้ยูไนเต็ดจะได้ไม่ต้องให้โค้ชมาเลือกนักเตะเองอย่างเดียว เหมือนที่เทนฮากเอาแต่คนสนิทจนโดนแฟนบอลบ่นยับ นอกจากนี้ เขาจะทำงานร่วมกับ โอมาร์ เบร์ราด้า CEO คนใหม่ที่ไปดึงมาจากซิตี้ด้วย

แอชเวิร์ธดูแลระบบทั้งหมด ตั้งแต่เยาวชนยันชุดใหญ่ วางโปรเจคไปเลยว่า 3-5 ปีจากนี้ทิศทางจะเป็นยังไง? ไม่ใช่คิดแผนใหม่ปีต่อปีเหมือนยุคเมอร์เท่อห์ ส่วนเรื่องการดีลเงิน และการเจรจาค่าตัวนักเตะไม่ให้โดนโก่งเวอร์ ก็จะเป็นหน้าที่เบร์ราด้าไปเลย เซียนมาตั้งแต่สมัยอยู่ซิตี้แล้ว

หากยูไนเต็ดกล้าจ่ายจริง ปิดดีลดึงตัวมาจากนิวคาสเซิ่ลได้จริง มันคงไม่เห็นผลลัพธ์แบบทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เราจะเห็นภาพชัดว่ายูไนเต็ดไม่เหมือนเดิม การเงินก็จะดีขึ้น ไม่ต้องซื้อมั่วซั่วแล้วมาขายแบบขาดทุนย่อยยับ

นับตั้งแต่หมดยุคเฟอร์กี้ ใครจะดูถูกยูไนเต็ดยังไง? ก็เป็นสิทธิ์ของเค้า มันไม่สามารถห้ามได้ แต่หลังจากนี้เราไม่ควรดูถูกเด็ดขาด

เมื่อสโมสรมีเงิน และมีคนฉลาดคอยอยู่ด้านหลัง อะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับยูไนเต็ด มันอาจเป็นไปได้หลังจากนี้

- Petr Boat -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline