logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก กลับมาเตะเลกสองได้ 3 นัด ปรากฏว่าจ่าฝูงมีการเปลี่ยนมือเรียบร้อย และทีมที่กลับขึ้นมานำจ่าฝูงตอนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือเจ้าของแชมป์เก่า 2 สมัยติดต่อกันอย่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทุกทีมไม่ยากเห็น เพราะเมื่อไหร่ที่ทีมเซราะกราวขึ้นไปนำจ่าฝูงเลกสองแล้ว โอกาสตกลงมายากมาก

ทีมปราสาทสายฟ้า มีช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล หลังจากที่พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือ แต่กระนั้นแม้ผลงานจะกระท่อนกระแท่น ไม่ชนะสวยหรู หรือชนะคู่แข่งได้ง่ายๆ เหมือนสองฤดูกาลที่ผ่านมา 

แต่ผลงานโดยรวมก็ยังถือว่าอยู่ในกลุ่มหัวตารางอยู่ตลอด ไม่ตกลงไปเกินอันดับ 4 หรือ 5 ของตาราง ซึ่งพวกเขาก็รอวันที่คู่แข่งสะดุด และตัวเองก็พยายามรักษาผลงานให้คงเส้นคงวา รอวันที่จะกลับขึ้นมานำจ่าฝูงอีกครั้ง

และก็กลับขึ้นมานำได้สำเร็จจริงๆ ในเลกที่สอง ที่เพิ่งเตะไปแค่สามเกมเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ดี ทีมเซราะกราว ก็ยังคงประมาทไม่ได้ เพราะการขึ้นมานำจ่าฝูงครั้งนี้ พวกเขานั้นลงเตะมากกว่า ทรู แบงค็อก อยู่หนึ่งนัด หากบียู สามารถเก็บเกมในมือหนึ่งนัดนั้นได้ พวกเขาก็จะกลับมานำจ่าฝูงเหมือนเดิม โดยจะนำบุรีรัมย์ 2 แต้ม แต่มันก็ไม่แน่ว่าทรู แบงค็อก จะทำได้หรือไม่ ยิ่งมาเจอสถานการณ์กดดันแบบนี้

บวกกับแข้งเทพ เองก็โปรแกรมชุกกว่าทีมอื่นๆ เพราะต้องลงเตะทั้งบอลลีก บอลถ้วย แถมยังมีบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วย หากเข้ารอบต่อไปได้ ก็จะยิ่งมีห่วงไปอีก ซึ่งก็อยู่ที่การจัดการของทีมสตาฟฟ์โค้ชว่าจะเน้นอะไรยังไง

แต่สมมติว่าทีมบียู สามารถกลับมาแซงบุรีรัมย์ กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงได้เหมือนเดิม พวกเขาเองก็ยังคงวางใจไม่ได้ เพราะจะมีเกมที่ต้องออกไปเยือนบุรีรัมย์ ในเลกสองอีก ซึ่งหากบุกไปแพ้ก็มีโอกาสโดนแซงด้วย และเกมนั้นไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเกมตัดสินแชมป์ไทยลีกของฤดูกาลก็เป็นได้

สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ เท่าที่ผมได้ติดตามบอลไทยลีกมาโดยตลอด เมื่อใดก็ตามที่ทีมอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปนำจ่าฝูงไทยลีกได้ในเลกสอง พวกเขาจะตกลงมายากมาก อาจจะมีโดนแซงบ้าง แต่สุดท้ายพวกเขาก็จะกลับขึ้นไปนำและคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

และการที่ตอนนี้ทีมบุรีรัมย์ ขึ้นมาจ่าฝูงได้นั้น มันก็เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกทุกทีมว่า พวกกูกลับมาแล้ว และจ่าฝูงคือตำแหน่งที่คู่ควรของบุรีรัมย์ อะไรประมาณนั้น

อารมณ์เหมือนกับแมนฯ ซิตี้ ที่แม้จะมีหลุดฟอร์มไปบ้าง แต่เมื่อไหร่ที่พวกเขากลับขึ้นมาเป็นจ่าฝูง ก็พร้อมที่จะยิงยาวจนคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด

แต่ก็นั่นแหละ ฟุตบอลไทยลีก ยังเหลือโปรแกรมอีก 10 กว่านัด ไม่แน่สถานการณ์ต่างๆ อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ เพราะปีนี้ไม่ได้มีแค่ บุรีรัมย์ หรือ บียู สองทีมเท่านั้นที่ลุ้นแย่งแชมป์กัน ยังมีการท่าเรือ เอฟซี ที่ก็ฟอร์มแรงอยู่ในตอนนี้ และแต้มก็ไม่ห่างมาก รอเป็นตาอยู่ด้วยเหมือนกัน

หรือจะ บีจี ปทุมฯ ที่เลกสองอาจจะฟอรืมยังไม่เปรี้ยง แต่ถ้าโค้ชเทกุ จูนทีมได้เข้าที่เมื่อไหร่ และกลับมาน่ากลัวเหมือนปีก่อน ก็ยังประมาทเจ้าของแชมป์ไทยลีก 1 สมัยไม่ได้เช่นกัน 

อย่างไรก็ดีการลุ้นแชมป์ไทยลีก ฤดูกาลนี้ ถือว่าลุ้นกันสนุกกว่าหลายซีซั่นก่อน ที่มักจะได้แชมป์กันตั้งแต่ไม่จบฤดูกาล และลุ้นกันอค่ 2 ทีม จนสุดท้ายนอนมาทีมเดียว

แต่ปีนี้แม้บุรีรัมย์ จะกลับขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังไม่การันตีว่าพวกเขาจะนำม้วนเดียวจบและคว้าแชมป์ไทยลีกได้สามสมัยติดต่อกัน 

ทุกสิ่งทุกอย่างยังเป็นไปได้ สุดท้ายก็มารอดูกันว่าอีก 12 นัดหลังจากนี้ จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เราจะได้เห็นแชมป์ไทยลีกหน้าใหม่ ที่หลายคนอยากเห็น หรือแชมป์จะตกเป็นของบุรีรัมย์ อีกหนึ่ง ฤดูกาล

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline