logo-heading

ต้องยอมรับว่าชั่วโมงนี้ทีมที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี พลิกโฉมจากที่เคยอยู่ในวังวนกลุ่มทีมหนีตกชั้น สถาปนาขึ้นมาลุ้นระดับท็อป 5 ไทยลีก อย่างปฏิเสธไม่ได้ แน่นอนว่าทีมที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั่นคือ “ราชันโคขาว” ลำพูน วอริเออร์

จากตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมาเคยพบเจออุปสรรค์ความมืดมนมากมายที่ใครๆ ก็มองว่าไม่น่ารอด บวกกับการเก็บคะแนนในแต่ละเกมมันช่างดูยากเย็นเหลือเกิน แต่ท้ายที่สุดก็สามารถร่วมแรงร่วมใจเอาตัวรอดบนลีกสูงสุดได้

มาถึงช่วงต้นฤดูกาล 2023/24 มีช่วงที่ผลการแข่งขันไม่เป็นดั่งใจ เคยตกไปรั้งในอันดับสุดท้ายของตารางมาแล้ว อาจมองว่าวนเข้าสู่ลูปเดิมหรือไม่ เพราะเป้าหมายของทีมฤดูกาลนี้ที่บอร์ดบริหารตั้งเอาไว้แตกต่างจากครั้งก่อนอย่างชัดเจน และเกิดคำถามมากมายจากแฟนบอลว่าทำไมไม่เปลี่ยนโค้ช ไม่งั้นผลงานจะแย่ลงไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดีจากความมืดมนทำให้เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ผลงานของ ลำพูน วอริเออร์ หลังผ่านนัดที่ 9 ของเลกแรก พวกเขาไม่แพ้ใครเลย 6 นัดติดต่อกัน แบ่งเป็น ชนะ 3 เสมอ 3 โดยเลกแรกจบด้วยอันดับที่ 12 ของตารางไทยลีก

เข้าสู่เลกที่สอง ผ่านไป 2 นัด ชนะ 1 แพ้เพียง 1 เกมให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ต้องบอกว่าแพ้ให้กับทีมระดับลุ้นแชมป์ ปัจจุบันขึ้นมาอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง ห่างกับ อันดับที่ 5 เพียงแค่ 4 คะแนนและแข่งน้อยกว่า 1 เกมเท่านั้น

โดยปัจจัยแรกที่ทำให้ผลงานของทีมเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือการที่บอร์ดบริหารหนุนหลัง เชื่อมั่นในแนวทางของ อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือชาวบราซิเลี่ยน ตลอดระยะเวลาถึง 1 ปี ที่ให้อิสระในการเลือกผู้เล่นท่ีตรงกับปรัชญาการทำทีม ปรับจูนให้ลงตัวแม้ว่าต้องใช้เวลานานอยู่พอสมควร 

ต่อมาคือความเชื่อและศรัทธาจากแฟนบอล “ราชันโคขาว” ที่คอยหนุนหลังทีมมาโดยตลอด จะเห็นว่าการเล่นที่ แม่กวง สเตเดี้ยม รังเหย้าจะมีแฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจเต็มสนามแทบทุกเกม และก่อนเกมก็ได้เห็นความคลั่งไคล้ฟีเวอร์ของคนในจังหวัดคือภาพการต่อแถวซื้อบัตรเข้าชมเกมที่ยาวเป็นหางว่าว

การเสริมทัพก็เช่นกันที่เริ่มเปลี่ยนแนวทางเลือกนักเตะที่ใช่ จากที่ครั้งก่อนๆ เคยทุ่มเม็ดเงินมหาศาลอิมพอร์ตแข้งต่างชาตินับหลายรายแต่ก็ไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่คาดหวังไว้

โดยตลาดช่วงเลกสองอาจจะเปลี่ยนไม่เยอะแต่ถือว่าได้เติมเต็มในส่วนที่ต้องการ มีการเปลี่ยนแปลงในรายของ ลุคก้า บอร์เกส แนวรุกชาวบราซิลที่ถูกยกเลิกสัญญาหลังไม่ได้อยู่ในแผน ในส่วนที่ดึงเข้ามามี เนเกบา ปินโต้ มิดฟิลด์จาก การท่าเรือ เอฟซี พร้อมด้วย เอ็นริเก้ ลินาเรส แบ็คขวาดีกรีทีมชาติฟิลิปปินส์ที่เคยอยู่กับทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้วกลับมาอีกครั้ง และแข้งไทยอย่าง ทศพร ชูชิน จาก เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

การเข้ามาของ เนเกบา ช่วยให้เกมรุก ลำพูน ดูมีมิติมากขึ้น กลายเป็นตัวเลือกแรกที่ กาม่า ต้องมีไว้ใน 11 ตัวจริง ขณะที่ “กีเก้” จากทีแรกคาดว่าเข้ามาเป็นตัวคอยหมุนเวียน แต่ไปๆ มาๆ 2 เกมแรกเลือกใช้เป็นตัวหลักทั้งหมด

อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจคือผลงานในบ้าน ลำพูน วอริเออร์ แพ้ไปทั้งหมด 3 จาก 10 นัดในไทยลีก 1 (ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 3) ซึ่งมีจำนวนเกมที่แพ้ในบ้านฤดูกาลนี้น้อยกว่าจำนวนนัดที่แพ้ทั้งหมดในบ้านตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้วเพียง 1 เกมเท่านั้น (ชนะ 6 เสมอ 5 แพ้ 4)

แม้ว่า กาม่า อาจต้องใช้เวลาปรับจูน “ราชันโคขาว” ที่นานไปบ้าง แต่ก็เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เป็นไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น นักเตะแต่ละตำแหน่งกลับมามีความมั่นใจระเบิดฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง มีรูปแบบการเล่นดุดันโดยเฉพาะยามที่เล่นในบ้าน กลายเป็นทีมที่อันตรายที่ใครๆ มองข้ามไม่ได้แล้วตอนนี้

สุดท้ายแม้เพิ่งเริ่มเลกสองไปไม่กี่เกม หนทางยังอีกยาวไกล การลุ้นท็อป 5 ของ ลำพูน วอริเออร์ ยังมีให้ได้สนุกต่อเนื่องไปยาวๆ นอกจากต่อสู้เพื่อการอยู่รอดบนลีกสูงสุดแล้ว หวังว่าจะสามารถสร้างเซอร์ไพรส์จบอันดับที่ดีที่สุดได้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ขึ้นมาเล่นไทยลีก รวมถึงอยากเห็นแฟนบอลเข้ามาชมเกมเต็มสนามต่อเนื่องทุกๆ เกม และสานต่อฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ยังไงเราก็ขอเอาใจช่วยให้ทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ให้ได้

CHUNKA

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline