logo-heading

มาร์ค ดอยล์ นักเขียนมากประสบการณ์ของโกล วิเคราะห์ว่า แม้ปัญหาใหญ่ของบาเยิร์นจะเกิดขึ้นซีซั่นนี้ แต่จุดเริ่มต้นมันเกิดขึ้นตั้งแต่ยุค ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ซึ่งเคยมีปัญหากับ มานูเอล นอยเออร์ เพราะไปไล่โค้ชประตูคนสนิทของนอยเออร์ออก โดยสื่อเชื่อว่า เหตุผลหลักคือโค้ชประตูคนนั้น ทำให้ข้อมูลแท็กติกหลุดไปยังสื่อ

นอกจากนี้ ตอนที่นอยเออร์ทะเลาะกับนาเกลส์มันน์ ในแคมป์ของบาเยิร์นก็เหมือนแบ่งเป็น 2 ฝ่ายด้วย บางคนก็อยู่ข้างนอยเออร์ที่แอนตี้นาเกลส์มันน์ ส่วนบางคนก็ดูชอบมากๆ นั่นหมายความว่า ตอนที่สโมสรปลดนาเกลส์มันน์แล้วเอาไปทูเคิ่ลมาแทน คนที่เคยชอบนาเกลส์มันน์ก็คงไม่ปลื้มเท่าไหร่ มาไล่โค้ชคนโปรดออกทำไม? 

ตอนจบซีซั่นก่อน ทูเคิ่ล อาจจะพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา แต่ก็โดนวิจารณ์หนักว่าโชคช่วย ถ้าไม่ได้ดอร์ทมุนด์ตกม้าตายคงเสียแชมป์ไปแล้ว ซึ่งอีกฝ่ายที่โดนวิจารณ์หนักคือ 2 ผู้บริหาร โอลิเวอร์ คาห์น และฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ที่ไปโจมตีนาเกลส์มันน์เสียแรง แต่คนที่เอามาใหม่อย่างทูเคิ่ลก็ไม่ได้ดีกว่าเลย แถมผลงานด้อยกว่าด้วย

ผลพวงจากปัญหาเลยทำให้ 2 ผู้บริหารโดนไล่ออก ซึ่งบรรยากาศแคมป์เสือใต้มันสับสนไปหมด นักเตะไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โค้ชก็โดนตั้งคำถาม ส่วนบอร์ดที่เคยสนับสนุนโค้ชคนนี้ก็ไม่อยู่เสียแล้ว 

นอกจากนี้ ราฟาเอล โฮนิกสไตน์ นักข่าวสายเยอรมันจาก Athletic ยังเผยข้อมูลด้วยว่า การที่บาเยิร์นได้แชมป์แบบหวุดหวิดปีก่อน มันทำให้ความมั่นใจนักเตะลดด้วย นักเตะหลายคนเริ่มสัมผัสได้ว่า มีภัยคุกคามจากทีมอื่นที่เอื้อมถึง มันไม่ใช่การคว้าแชมป์แบบง่ายดายเหมือนแต่ก่อน และส่งผลต่อสภาพจิตใจในฤดูกาลนี้

เท่านั้นไม่พอ มันไม่ใช่แค่ความมั่นใจที่ตก แต่การผูกขาดแชมป์มาหลายปีมันก็ทำให้แรงกระหายตกไปด้วย เห็นได้ชัดจากสัมภาษณ์ โธมัส มุลเลอร์ ที่บ่นยับตอนแพ้เลเวอร์คูเซ่นว่า เพื่อนร่วมทีมเล่นแบบไร้แพสชั่น ขาดแรงกระหาย ซึ่งจะไปโทษโค้ช 100% ไม่ได้ นักเตะเองต้องพยายามหาทางแก้ปัญหาในสนามให้ได้ด้วย 

เลออน โกเร็ตซ์ก้า ก็เป็นอีกคนที่พูดเรื่องสภาพจิตใจ เขาบอกว่า ตอนนี้ฟอร์มบาเยิร์นเหมือนเป็นหนังสยองขวัญที่ไม่มีวันจบ ซึ่งพอนักข่าวถามว่ามีโอกาสที่บาเยิร์นจะพลิกสถานการณ์เป็นแชมป์ไหม? โกเร็ตซ์ก้าตอบว่า "ถ้าถามตอนนี้ผมคงตอบว่าไม่ ผมไม่อยากโกหก"

จบเรื่องจิตใจ มาดูกันที่ตัวทูเคิ่ลบ้าง เขาโดนตั้งคำถามเรื่องทรงบอลที่ขาดไอเดีย และพึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวนักเตะมากเกินไป โดยสื่ออย่าง SPORF วิจารณ์ว่า แผนการเล่นไม่มีเอกลักษณ์ ขาดความสม่ำเสมอ คือเป็นฟุตบอลเกมบุกก็จริง แต่จนถึงตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ปรัชญาการเล่นคืออะไร?

นอกจากนี้ ในเกมที่แพ้เลเวอร์คูเซ่น ยังโดนวิจารณ์เรื่องแท็กติกที่แพ้ ชาบี อลอนโซ่ แบบขาดลอย โดนอ่านทางออกหมดว่าจะปรับจาก 4-2-3-1 มาเล่น 3-4-2-1 สุดท้ายสกอร์เลยออกมาขาดลอย 0-3 วันนั้นบาเยิร์นอาจจะครองบอลมากกว่า แต่ขาดประสิทธิภาพ และสร้างโอกาสจะแจ้งได้ยากเพราะโดนเลเวอร์ฯ เพรสซิ่งจนเซตบอลลำบาก

อีกประเด็นที่เกิดขึ้นในนัดนั้น คือทูเคิ่ลไปเลือก เอริค ดายเออร์ ลงเป็นตัวจริง แล้วปล่อยให้ มัทไธส์ เดอลิกต์ นั่งสำรอง ซึ่งเรื่องนี้โฮนิกสไตน์บอกว่า ทำให้นักเตะบาเยิร์นเกิดการตั้งคำถามด้วย มันดูผิดเพี้ยนไปหมด หรือบางนัดแท็กติกก็ไม่ได้แย่อะไร จัดตัวก็ไม่ได้แย่อะไร แต่พอคุณทำให้นักเตะเชื่อมั่นไม่ได้ มันก็ไร้ประโยชน์

โฮนิกสไตน์ใช้คำว่า "ความชำนาญด้านแท็กติกแทบจะไม่สำคัญ หากไม่สามารถรักษาห้องแต่งตัวเอาไว้ได้" เอาที่เห็นล่าสุดก็เหมือนแตกหักกับ โยชัว คิมมิช ซึ่งนี่คือนักเตะที่สื่อบอกว่า เคยมีความสัมพันธ์ดีกับนาเกลส์มันน์ แต่มาแตกหักกับทูเคิ่ล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบทบาทในสนาม หรือจะเป็นการโดนเปลี่ยนตัวออกนัดที่แพ้โบคุ่ม ซึ่งคิมมิชหงุดหงิดจนมีปากเสียงกับ ซอสต์ โลว์ ผู้ช่วยของทูเคิ่ลด้วย

ปัญหาของบาเยิร์นตอนนี้มันยากที่จะแก้ไข แม้ในมุมการโหวตของแฟนบอลที่เยอรมัน จะลงความเห็นว่าควรปลดเกิน 80% แต่ในมุมของบางสื่อและบอร์ดบริหารบาเยิร์นกลับคิดต่าง

ฟลอเรียน เพลตเทนแบร์ก นักข่าวเทียร์ 1 ของสกายบอกว่า ทูเคิ่ลควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นก็จริง แต่การจะไปไล่ออกตอนนี้ก็คงไม่เหมาะ รวมถึงต้องโทษนักเตะทั้งทีมด้วย บางคนเล่นไม่สมควรกับการใส่เสื้อบาเยิร์นเลย หรือจะเป็นโฮนิกสไตน์ที่ให้ข้อมูลว่า บาเยิร์นไม่ปลดเพราะกลัวหาตัวแทนไม่ได้

พวกเขาอยากได้อลอนโซ่มารับงานต่อ แต่จะไปทาบทามตอนนี้คือเสียมารยาท เลยต้องรอช่วงซัมเมอร์ หรือจะเป็น ฮันซี่ ฟลิค ที่คนเชียร์กันเยอะ แต่บอร์ดบาเยิร์นเชื่อว่า ฟลิคเองก็ทำผลงานกับเยอรมันได้ย่ำแย่ แถมมีปัญหากับนักเตะเยอรมันชุดนี้ ซึ่งหลายคนก็เป็นนักเตะบาเยิร์น เรียกว่าถ้าเอามาก็คงมีปัญหาอีก

สถานการณ์มันเลยกลายเป็นกลืนไม่เข้า คายไม่ออก มันไม่ใช่ว่าบอร์ดกลัวเสียหน้าจนไม่กล้าปลดทูเคิ่ล แต่ปัญหาคือบอร์ดชุดใหม่ยังหา "คนที่ใช่" และ "ถูกเวลา" ไม่เจอ ซึ่งถ้าทูเคิ่ลยังได้คุมต่อไป เราก็ไม่ทราบว่าจะหาทางพลิกวิกฤติได้ไหม? รวมถึงไม่เห็นท่าทีว่าอลอนโซ่จะแผ่วในลีกเลย

ทางเดียวที่ทูเคิ่ลจะพลิกวิกฤติได้ คือต้องพยายามยิงแซงลาซิโอใน UCL ต้องเป็นแชมป์รายการนี้เท่านั้น แต่ถ้าเกิดตกรอบขึ้นมา เชื่อว่าทูเคิ่ลไม่รอดแน่ เพราะต่อให้บอร์ดบริหารจะบอกว่าตำแหน่งปลอดภัย แต่ถ้าหมดลุ้นทุกแชมป์แบบนี้ก็คงไปต่อลำบาก

คำถามก็คือ ปลดตอนที่ทุกอย่างสายไปแล้ว ตอนที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว มันคุ้มกับเวลาที่เสียไปหรือเปล่า? สู้ปลดตอนนี้เพื่อหวังเปลี่ยนบรรยากาศทีม มันจะดีกว่าหรือไม่?

- Petr Boat - 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline