logo-heading

เป็นที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล เจอปัญหามากมาย ก่อนเกมเจอกับ ลูตัน ทาวน์ มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บเต็มไปหมด ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ไล่มาถึง กองหน้า ไม่ว่าจะเป็น อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เคอร์ติส โจนส์, โดมินิค โซบอสไล, ดิโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ และ โม ซาลาห์ เป็นต้น

แต่เป็น เจอร์เก้น คล็อปป์ นั่นแหละครับ ที่ปลุกใจว่า ตราบใดที่มีผู้เล่นเหลือให้ลงครบ 11 คน ทีมก็พร้อมจะเดินหน้าลุยต่อ .. เขาขอมองปัญหา เพื่อไม่ให้เป็นปัญหา !!

ถึง คล็อปป์ จะพูดอย่างไร แต่การไม่มีผู้เล่นตัวหลักเหยียบ 10 คน ย่อมเป็นปัญหาที่ไม่ได้ถูกซ่อนไว้ใต้พรม และ มันส่งผลมาถึงช่วง 45 นาทีแรก ที่ ลิเวอร์พูล กลายเป็นฝ่ายตามหลัง ลูตัน ทาวน์ 0-1 .. 

ปัญหาไม่ใช่ว่า ลิเวอร์พูล เล่นไม่ดี แต่ปัญหามันคือเรื่องการจบสกอร์ .. หลุยส์ ดิอาซ มีโอกาสเป็น 100 ครั้ง แต่จบไม่ได้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก็มีข้อผิดพลาดไปหมด ดังนั้นความเครียด ความกดดันมันเลยถาโถมเข้าหานักเตะ ยิ่งมองไปที่ม้านั่งสำรอง ไม่มีใครเป็นตัวเปลี่ยนเกมได้เลย นอกจาก ดาวรุ่ง อย่าง เคด กอร์ดอน, บ็อบบี้ คล้ากร์ หรือ เจย์เดน แดนส์ ซึ่งหลายคนไม่รู้จักเจ้าหนูคนนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ

แต่ไม่รู้ว่า ครึ่งหลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ ปลุกใจแบบใด เพราะนักเตะ ลิเวอร์พูล ลงมาแล้ววิ่งเป็นม้าดีด เพรสซิ่งหนักไม่ให้นักเตะ ลูตัน ตั้งตัวได้ทัน ยิ่งมาเจอความเร่าร้อนจากเสียงของ เดอะ ค็อป ที่สั่นสะเทือนไปทั่วแอนฟิลด์ มันราวกับว่าทุกคนวิ่งเพื่อแฟนๆ และ จะต้องไม่ทำให้ คล็อปป์ ผิดหวัง

จากตามหลัง 0-1 กลายเป็นว่า ลิเวอร์พูล โชว์ "คัมแบ็ก คิง" พลิกกลับมาถล่มใส่ ลูตัน ทาวน์ 4-1 เท่ากับว่าซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล เก็บไปได้ 22 แต้มแล้ว จากการตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งไปก่อน !!

ชัยชนะนัดนี้ ต้องให้เครดิตกับทุกคน แต่ผมต้องขอชื่นชม แม็ค อัลลิสเตอร์ จริงๆ นี่คือคนที่มีอิมแพ็ค และ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล กลับมาเก็บ 3 คะแนน ที่พวกเขาต้องการ .. พอได้ขึ้นมาเล่นในตำแหน่งตัวรุก มีอิสระในแผงมิดฟิลด์ ไม่ต้องพะวงเรื่องเกมรับมากนัก เพราะมี วาตารุ เอ็นโด คอยปัดกวาดให้อยู่แล้ว

เมื่อ เอ็นโด ทำหน้าที่เป็นตัว ปิดทองหลังพระ และ แม็คก้า ก็เชื่อใจว่า เอ็นโด สามารถทำตรงนั้นได้ดีแน่ๆ ทำให้ แม็คก้า สามารถโชว์ฟอร์มเทพออกมาให้แฟนๆได้เห็น โดยมี เอ็นโด เป็นคนค้ำบัลลังค์นั้นอยู่

การที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ การทำ 2 แอสซิสต์ ให้กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ เปิดเข้ามาให้ โคดี้ กัคโป ได้โหม่ง พลิกแซงนำ 2-1 มันสำคัญมากจริงๆ การวิ่งพล่านไปทั่วด้านบน เหมือนเปิดมิติเกมรุกให้ หงส์แดง มีมากขึ้น

  • สร้างโอกาส 4 ครั้ง
  • สร้างโอกาสสำคัญ 1 ครั้ง
  • แอสซิสต์ 2 ครั้ง
  • สกัดบอล 2 ครั้ง
  • เก็บบอลจังหวะสอง 3 ครั้ง
  • ชนะการดวลบอล 6/12 ครั้ง

มันคือสถิติที่บ่งบอกเลยว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ สำคัญกับ ลิเวอร์พูล มากแค่ไหนในตอนนี้  .. ในวันที่ ลิเวอร์พูล มีลิสต์นักเตะบาดเจ็บเต็มไปหมด แต่ในมุมแสงสว่าง คือเราได้เห็นมิดฟิลด์แชมป์โลก ที่กำลังเฉิดฉายช่วย หงส์แดง ฝ่าฟันวิกฤติ โดย 2 นัดหลัง ทำไป 1 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ คือคำตอบชั้นดี

ผมไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว แม็ค อัลลิสเตอร์ จะมีแชมป์กับ ลิเวอร์พูล ไหมในซีซั่นนี้ แต่นี่มันคือสมบัติราคา 35 ล้านปอนด์ ในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มันคุ้มค่าคุ้มราคาเหลือเกิน หากเขายังฟิตพร้อมลงสนาม แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็เป็นจะอีก 1 คีย์แมน ที่พร้อมพา ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline