logo-heading

"ไทยลีก" ในเลกที่ 2 นี้ นอกจากการเข้ามาของนักเตะตัวดังๆ ทั้งนักเตะไทยและต่างชาติ ยังมีการกลับมาที่โคตรน่าสนใจของ "ชนาธิป สรงกระสินธ์" อีกหนึ่งแข้งทีมชาติไทยที่หายเจ็บและพร้อมกลับมาลงสนามอีกครั้ง 

โดยก่อนหน้านี้ "เจ ชนาธิป" ได้รับบาดเจ็บและต้องพักอยู่นานสองนาน จนพลาดการลงสนามตั้งแต่ในช่วงท้ายเลกแรกจนถึงจบเลก และต้องชวดลุยศึก เอเชี่ยน คัพ 2023 กับ ทีมชาติไทย ไปด้วย 

โดยสองเกมศึกไทยลีกที่ผ่านมานั้นเรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอย่างเต็มรูปแบบของ "เจ ชนาธิป"

เพราะเขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบ 2-3 เดือน รวมไปถึงยังได้เล่ยครบ 90 นาทีเต็มทั้งสองเกมอีกด้วย ... 

 

ถึงจะกลับมาลงสนามได้แล้ว แต่บอกเลยว่าไม่มีคำว่าง่ายสำหรับ "เจ" และ "บีจี" จริงๆ นะ 

เพราะ ทีมคู่แข่งที่กำลังไล่ล่าแชมป์ไทยลีกอย่าง บุรีรัมย์ ที่กำลังดีมากๆ เช่นเดียวกับ บียู และ ท่าเรือ ที่ก็ไม่พลาดอะไรง่ายๆ ซึ่งเป็นเสมือนด่านแรกที่ต้องฝ่าไปให้ได้ 

ไม่เท่านั้นยังต้องมองไปถึงการเรียกความมั่นใจของตัวเองให้กลับมาเล่นอยู่ในระดับแบบที่สามารถยกระดับ บีจี ได้มากกว่าในตอนนี้และที่ผ่านๆ มาด้วย ต้องยอมรับว่าในช่วงเลกแรกนั้น เจ ไม่ได้ช่วย บีจี ปทุม มากเท่าไหร่นัก เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บที่รบกวนมาโดยตลอด ดังนั้นการกลับมาในเลกที่ 2 นี้คือการบ้านชอยส์โคตรใหญ่ที่ เจ ต้องทำให้ผ่านไปให้ได้

เพราะอะไร ?? เพราะเป้าหมายสูงสุดของ บีจี ปทุม ในการเปลี่ยนแปลงทีมฤดูกาลนี้คือ ต้องการมีแชมป์ติดมือให้ได้ ซึ่งตอนนี้เหลืออยู่ 2 รายการให้ได้ลุ้นคือ ไทยลีก เอาตรงๆ ฟอร์มในช่วงนี้ต้องบอกว่าลุ้นยากจริงๆ และอีกรายการกับ รีโว่ คัพ อันนี้คู่แข่งรอบต่อไปก็คือ บียู แน่นอนไม่มีคำว่าง่ายอยู่แล้ว

เช่นเดียวกับโปรแกรม ทีมชาติไทย ที่ตัวของเจเองมีส่วนร่วมไปแค่นิดเดียวในเกมคัดบอลโลกเมื่อ 2 เกมที่ผ่านมา 

แต่ในยุคของ มาซาทาดะ อิชิอิ นั้นเขายังไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย ดังนั้นเป้าหมายการกลับมาในครั้งนี้อีกอย่างของเจคือ การมีชื่อเล่น ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ในเดือนมีนาคมนี้ด้วย

นี่คือการกลับมาที่โคตรน่าสนใจของ เจ ชนาธิป ทั้งกับ บีจี ที่เขาต้องทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้ ส่วนกับทีมชาติทุกคนคาดหวังและรอการร่วมงานกันของ เจ และ โค้ชอิชิอิ อย่างใจจดใจจ่อ ...

ทั้งหมดที่ว่ามาจะดีได้ขนาดนี้คำตอบอยู่ที่ "ชนาธิป สรงกระสินธ์"

 

บอลพาดู 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline